บทความ

 Humbled Trader เทรดเดอร์สาวที่น่าจับตามอง             มากันอีกแล้ว รอบนี้เอาใจแฟนคลับสมาชิกลูกเผ่าสาวๆทั้งหลายสายบู๊ สายหวาน สายลุย ก็ได้ทุกแนว สำหรับเทรดเดอรสาว ที่น่าจับตาและน่าติดตามกัน หลายคนคงจะเคยได้ยินชื่อ Humbled Trader กันมาบ้าง แต่เอ๊ะๆๆๆๆ หลายๆคนก็ยังไม่ถึงกับรู้จักเธอกันนะ งั้นวันนี้แอดจะพาลูกเผ่าสาวทั้งหลายไปรู้จักเธอกัน เพื่อเป็นแนวทางและแรงบันดาลใจ ในการประสบความสำเร็จในชีวิต และเทรดเดอร์สาวจะได้ครองโลกบ้าง   Humbled Trader คือใคร??             Humbled Trader เป็นชื่อฉายาหรือนามแฝงของ เทรดเดอร์สาวคนหนึ่ง เธอมีชื่อว่า SHAY   เป็นเทรดเดอร์สาวชาวแคนาดา เชื้อสายจีน เป็นสาวสายอินดี้ ติดดิน ติดบ้าน แต่ชอบกินหรู หรืออาหารดีๆ และชื่นชอบการท่องเที่ยว บุคลิกที่เป็นที่รู้จักในยูทูปของเธอ คือการโชว์เล่นสโนว์บอร์ด เต้นโพล ฟิตเนส และการทำให้คนอื่นหัวเราะด้วยมุกตลกฝืดของเธอ             Shay เป็นเทรดเดอร์สาย day trade เนื่องจากเบื่อหน่ายกับงานประจำ ทำให้ค้นพบวิธีการหาเงินจากที่บ้านด้วยการเทรด   และด้วยฝีไม้ลายมือในการเทรดที่หาตัวจับยาก สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำทำให้มีคนกดติดต
แน่นอนว่าทุกคนที่เทรดก็ต้องการที่เห็นพอร์ตตัวเองนั้นเติบโตและใหญ่ขึ้นอื่นๆ แต่ก็ใช้ว่าทุกคนที่จะไปถึงจุดนั้น บางคนก็ติดลบ หรือล้างพอร์ด และก็เลิกและออกจากตลาดไป วันนี้เราจะมาแนวทางที่พัฒนาตัวเราและพอร์ดของเราให้ข้ามขีดกำจัด และเติบโตอย่างยังยืน  แนวทางการข้ามขีดกำจัด📈 1.ต้องรู้ตัวเอง👦 หากเราไม่รู้ว่าเราอยู่ตรงใหนของเส้นทางการเทรด เราก็จะไม่ว่ารู้ว่าเรากำลังหลงทางหรือจะไปทางใหนได้ต่อ การรู้ตัวเองนั้นก็คือ จุดเริ่มต้นของการข้ามขีดจำกัด โดยวิธีรู้ตัวเองนั้นคือ จดทุกอย่างเกียวกับการเทรด เช่น เข้าออเดอรนี้ด้วยเหตุผลอะไร แล้วชนะเพราะอะไร และแพ้เพราะอะไร บริหารเงินแบบใหน แนวทางการแก้เป็นอย่างไร อารมการเทรด ณ ตอนนั้น รู้สึกยังงัย ซึ่งการจดแบบนี้ก็จะทำให้เรา เห็นกระบวนการเทรดของเราทั้งหมด และเราก็จะเห็นปัญหาและหาแนวทางการแก้ไขได้ เพราะว่าบางปัญหาหรือจุดผิดพลาดถ้าเราไม่จด ก็มีแนวโน้มที่เราจะทำผิดพลาดแบบเดิมบ่อย ๆ  2.วางแผน📃 ไม่ว่าจะทำอะไรก็ล่วนต้องมีแผนการ เพราะมันเป็นตัวเพิ่มโอกาสที่จะสำเร็จมากขึ้น และแน่นอนในการข้ามขีดจำกัดการมีแผนก็เหมือนแผนที่ GPS ที่ทำให้เราเดินทางได้ไปถูกทาง และลดเวลา แ
 Revenge Trading   ทำไม ยิ่งเทรด ยิ่งเสีย ???                บทความนี้ แอดจะพาเทรดเดอร์มือใหม่ทั้งหลายไปทำความรู้จักนิยามของคำว่า การเทรดเพื่อเอาคืน  Revenge trading หรือง่ายๆก็คือการแก้แค้นนั่นแหละ  หลายคนหลงไหลเผลอไผลไปกับการเทรด จนหลงลืมคำว่า หยุด พักก่อน หากเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ และพลาดท่า หลายต่อหลายครั้ง ก็มักจะรู้สึกว่า "ไม่ได้ ฉันต้องเอาคืน จะเอาเงินที่เสียไปกลับคืนมา " แล้วบทสรุปในตอนท้ายก็คือ เจ๊ง ระเนระนาด พอร์ตแตกระเบิดระเบ้อ ไม่เหลืออะไรเลย เพลงมา.....แล้วละ                 หลายต่อหลายคนเลือกที่จะก้มหน้าก้มตาเทรดต่อไป ด้วยความหวังว่า เดี๋ยวก็ได้เงินคืน  ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว  แทนที่จะได้ทุนกลับคืนมา กลับกลายเป็นว่า ยิ่งเทรด ยิ่งเสีย มากขึ้นไปอีก ในบางครั้งอาจจะต้องมีใครมาบอกมาเตือนให้ เราหยุด แต่ก็นั่นแหละ ในเมื่อกล้าได้กล้าเสียมาขนาดนี้แล้ว ก็ต้องลองเสี่ยงอีกสักตั้ง แอดจะบอกว่า เป็นกันเยอะนะ ระบบนี้  ระบบเอาคืน   ดังนั้น จะดีกว่าไหม หากเราเลือกที่จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการเทรดโดยไม่ตั้งเป้าไปที่การเอาคืน แต่ไปโฟกัสที่ การรับมือกับการสูญเ
จากตอนที่แนว ที่เรานำเสนอ เกี่ยวกับ Consecutive Win and Loss และ  DrawDown ไปแล้วและเราก็ยกตัวอย่างวิธีดูค่าพวกนี้ผ่าน Myfxbook ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทำสถิติของพอร์ต ซึ่งหาคนก็อยากที่มีบัญชี Myfxbook เป็นของตัวเอง วันนี้เราจะไปวิธีการเชื่อต่อบัญชีเทรดกับ Myfxbook  เข้าด้วยกัน เปิดบัญชี Myfxbook   https://www.myfxbook.com/?lr=http://www.myfxbook.com/dashboard โดยเราสามารถที่เปิดบัญชีด้วยแอคเค้าท์ของ  Google และ Facebook  การเชื่อมต่อบัญชีเทรด ให้คลิกไปแถบด้านบน ที่ชื่อว่า Portfolio 1 หลังจากนั้นเลือก Add Account 2 หลังจากนั้นจะเข้าสู้ หน้าจัดการบัญชี Myfxbook ให้เราเลือก   Add Account  3 ให้เลือก ประเภทบัญชีของ Myfxbook ให้เลือก MetaTrader 4 (Auto Update) 4 จากนั้นกรอกข้อมูลตามนี้  5. ตั้งชื่อบัญชี myfxbook  6. เลือกโบรกเกอรที่เราเทรด 7. ใส่เลขบัญชีเทรดของเรา  8. รหัสผ่านของบีญชี  หลังจากนั้นคลิก Create Account 10 จากนั้นรอสักครู่  เมือสร้างเทรด จะแสดงหน้าต่างนี้ เราสามมารถเข้าไปดูและการใช้บัญชีได้ ทำขั้นตอนที่ 1   และคิกเลือกบัญชีที่สร้าง  ปล.นี้คือการเชือมต่อเบืองต้น เราสามรรถเห็นได้คน
Rebalancing Portfolio  การเทรดแบบ รีบาลานซ์คืออะไร              Rebalance คือ การปรับสมดุลของสัดส่วนน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้กลับมาอยู่ในสัดส่วนตามแผนการลงทุนเดิมตั้งแต่ต้น เช่น จากเดิมลงทุนในกองทุนรวมหุ้นไทย กองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมทองคำ โดยเมื่อรวมกันแล้วจะมีสัดส่วนประมาณ 80% ของพอร์ตการลงทุนโดยรวม ขณะที่อีก 20% ที่เหลือจะอยู่ในกองทุนรวมตราสารหนี้                เมื่อเวลาผ่านไป เศรษฐกิจขยายตัว บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นคึกคัก ส่งผลให้ผลตอบแทนโดยรวมจากการลงทุนเติบโตขึ้น ผลที่ตามมา คือ สัดส่วนการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ปรับลดลง เช่น เหลือ 5% ของพอร์ตการลงทุนโดยรวม                เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องเข้าไปปรับสัดส่วนพอร์ตการลงทุน ด้วยการขายสินทรัพย์ที่ปรับสูงขึ้นแล้วนำเงินไปซื้อสินทรัพย์ที่ลดลง เช่น ซื้อกองทุนรวมตราสารหนี้ให้อยู่ที่ 20% ของพอร์ตการลงทุนโดยรวม เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนกลับไปใกล้เคียงดังเดิม แล้วทำไมนักลงทุนถึงควรทำ Rebalancing?                จริงๆแล้ว ไม่ใช่นักลงทุนทุกคนที่จำเป็นต้องทำการปรับสมด
 DrawDown เชื่อว่าหลายคนที่เริ่มสร้างระบบ ก็จะต้องเจอกับคำนี้แน่อน และไม่ไม่อยากที่ให้ค่า นี้ มากค่ามากแน่นอน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักรว่า  DrawDown นั้นคือะไร และ ใช้ทำอะไรได้บ้าง  Drawdown คืออะไร❓❓ Drawdown หรือตัวย่อ  DD คืออัตราส่วน (%)ที่ขาดทุนต่อเงินทุนที่เราลงไป โดยจะนับไม่ว่าออเดอร์นั้นจะปิดออเดอรหรือไม่ หรือพูดพูดง่ายๆ ว่า ค่า Equity  ลบไปเท่าไหร่ก็จะถูกเอาไปคิดเป็นเปอร์เซน Drawdown  ตัวอย่างเช่น✅ หากคุณถือเงินทุนในพอร์ตอยู่ $1000 แต่คุณมีออเดอร์ติดลบอยู่ 2 ออเดอร และ2ออเดอรนั้น รวมกันแล้ว ลบอยู่ 250$ ก็แสดงว่า คุณมี Drawdown ลบอยู่ 25% ความสำคัญของ Drawdown 👍 สำหรับที่สร้างระบบใช้งานเอง เราก็จะทราบว่า ระบบเรามี Drawdown  อยู่เท่าไหร เพือให้เห็นแนวทางในการแก้ไข และพัฒนาต่อไป   และอีกสว่นหนึ่งสำหรับคนที่ซื้อ  Expert Advisor  (EA) หรือ CopyTrade ก็จะดูว่าตั้งแต่เทรดมา Drawdown  MAX (อัตราส่วน (%)ที่ขาดทุนสุด)  เท่าไหร  ยิ่งมี Drawdown  MAX ต่ำก็ยิ่งดี ก็ยิ่งมีความมั่นใจต่อระบบมากขึ้น  เราจะวัด  Drawdown  ได้อย่างไร💥 สำหรับคนที่สร้างระบบหรือต้องที่ปล่อยขายระบบ EA sinvvtwiหรื
Jarratt Davis สุดยอดเทรดเดอร์ในศตวรรตที่ 21 ตอน 3                มาถึงที่คนสุดท้ายท้ายที่สุด ของ 1ใน 3 นักเทรดอันดับต้นๆ ของโลก หากกล่าวถึงเทรดเดอร์ตัวท้อปของโลกทั้งที จะพลาด Jarratt Davis ไปก็คงไม่ได้ เพราะเขาติดโพลนักเทรดอันดับต้นๆ ของโลกมาตั้งแต่ปี 2008 และได้รับการขนานนามจากธนาคาร Barclays ว่าเป็นเทรดเดอร์ฝีมือดีที่สุดอันดับ 3 ของโลก โดย Davis ได้ครองตำแหน่งนี้เรื่อยมาถึง 5 ปี จนกระทั่งปี 2013                ปัจจุบัน Davis ได้ผันตัวมาเป็นโค้ชสอนเทรดให้กับนักเรียนมากมาย พร้อมทั้งแบ่งปันเทคนิคการเทรดให้ผู้ติดตามจำนวนมากผ่านวิดีโอเกี่ยวกับคู่มือและบทเรียนเทรดทุกสัปดาห์ เขายินดีต้อนรับเทรดเดอร์มือใหม่ด้วยเนื้อหาการสอนตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงทักษะการเทรดที่เขาใช้เทรดจริงๆ จากประสบการณ์จริงในตลาดมาอย่างยาวนาน เทรดเดอร์สามารถเรียนรู้ forex ขั้นพื้นฐาน รวมถึงการใช้ อินดิเคเตอร์เชิงเทคนิค ร่วมกับกลยุทธ์การวิเคราะห์กราฟเทคนิคหลายๆ รูปแบบ ยิ่งไปกว่านั้น Davis ยังเปิดเผยเทคนิคการใช้ข่าวและเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจให้เกิดประโยชน์ต่อการเทรดอีกด้วย                แอดจะสาธยายแบบคร่าวๆนะ ว่า  J
Consecutive Win และ Consecutive Loss  สำหรับคนที่เทรดรายใหม่ก็อาจจจไม่รู้จักร 2 คำนี้ แต่สำหรับคนที่สร้างระบบเทรดเป้นของตัวเอง ก็จะผ่านหูผ่านตามามั้งแล้ว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับการเทรด วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับ Consecutive Win และ Consecutive Loss กัน  Consecutive Win และ Consecutive Loss คืออะไร  ✅❌ Consecutive หมายถึง ติดต่อกัน ดันนั้น Consecutive Win และ Consecutive Loss  อัตราการแพ้ หรือ ชนะติดต่อกัน ตัวอย่าง เราเทรด 10  ชนะติดต่อกับ 3 ออเดอร์  แพ้ 2  ออเดอร์  ที่เหลือสลับแพ้ชนะ 5 ไม้ ก็จะเท่ากับ  Consecutive Win = 3 Consecutive Loss 2 ความสำคัญของ Consecutive Win และ Consecutive Loss ✅❌ แน่นอนว่าเมือเทรดจริงแล้ว Consecutive Win และ Consecutive Loss จะมีผลต่ออารมการเทรดมากๆ ตัวอย่างเช่น  Consecutive Win เยอะ ก็แสดงว่าระบบเราดีเยียม ความมั่นใจก็มากขึ้นบางทีก็มากเกินไปจนประมาณได้  และ Consecutive Loss  ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งเครียด เพราะ ว่าลบติดๆกัน อาจจเป็นการบ่งบอกการทำ ผิดพลาดอะไรบางอย่าง หรือ ช่วงเวลาเทรดยังไม่ดี  โดยหลัก เราจะนำค่า Consecutive Win และ Consecutive Loss มาใ
Austin Netzley สุดยอดเทรดเดอร์ในศตวรรตที่ 21 ตอน 2                Austin Netzley เป็นนักเทรดมือเทพ อันดับต้นๆของโลก อีกคนที่ท่านๆทั้งหลายสายเทรดหุ้น ต้องติดตาม เขาคือตัวแทนแห่งยุค จากผลงานการพัฒนาการเทรดด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเขา มีชื่อเสียงจากการคิดค้นระบบเทรดหุ้นอัตโนมัติที่ทรงพลัง และได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในหมู่นักเทรดทั่วโลก ทำให้เขาโด่งดังและมีรายได้มหาศาลจากการคิดค้นดังกล่าว  ซึ่งถึงแม้ว่า Netzley จะยังเทรดและทำงานประจำไปด้วยแต่เขาก็กลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จในตลาดการเงินได้ในที่สุด ซึ่งขอบอกเลยว่า อายุน้อย ร้อยล้านของจริง จริงๆเลยคนนี้เนี่ย    Austin Netzley  เขาเป็นผู้ก่อตั้ง ONE Pursuit Investments และโฮสต์ของบล็อก YoPro Wealth เขาเป็นบุคคลที่ไม่มีสมบัติอะไรมาก่อนนะ ไม่ใช่ลูกคนรวย ไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด และเคยเป็นหนี้ก้อนโต 81,000 ดอลลาร์ และด้วยความสามารถด้านวิศวกร ทำให้เขามองเห็นช่องทางทำกำไร และประสบความสำเร็จด้วยวัยเพียง 27 ปี เอง อู้วววหูวววว แบบว่าอยู่ในตลาดการเงิน งมๆคลำทางมาตั้งแต่อายุ 22 นะจ๊ะ ไม่ธรรมดาจริงๆนะคนนี้   Austin ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการ
แน่นอนว่า การเทรดนั้นการที่เราเอาเงินของเราไปลงทุนเเพื่อให้ผลกำไร และแน่นอนว่า การลงทุนก็มีความเสี่ยงที่เสียเงินทุนที่ลงไป แน่นอนว่าเวลาเข้าแต่ล่ะออเดอรนั้น สิ่งที่ตามมานั้นสำหรับมือใหม่ นั้นคือแรงกดดัน อาจทำให้ตัดสินใจบางอย่างผิดพลาด วันนี้จะมาหาแนวทางรับมือกับความกดดดัน และความเครียดจากเทรด กดดันและความเครียดเกิดจากใหนบ้าง❌😡 ซึ่งแน่นอนว่า การกดดันและความเครียดของแต่ล่ะคนอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ก็มีรูปแบบที่คลายๆกัน ดังนี้  1.เทรดแบบ OverTrade หรือเทรดเกินตัวไปเกินไป ทำให้เกิดความกดดันและความกลัวถถ้าเทรดในกรณีที่เทรดแพ้  2.การแก้ไม้รูปแบบ Martingale หรือ ซื้อถัว ซึ่ง Martingale  ก็เป้นการแก้ออเดอร์รูปแบบหนึ่งที่ต้องมีการวางแผนและบริหารเงินต้องดีมาก แต่ถ้าวางแผนมาไม่ดี และโดนราคาลาก ก็ยิ่งออกไม้ เพื่อแแก้ออเดอร์ ตัวเงินก็ยิ่งติดลบเป็นทวีคูณ ซึ่งแน่นอนว่า กดดันและเครียดมากขึ้น หากราคายิ่งลงก็ยิ่งเครียด  3.ใช้เงินร้อนมาเทรด ซึ่งเป็นเงินที่คุณเสียไปไม่ได้ ฉนั้นทุกไม้ที่คุณเข้านั้น มันจะมีความกดดันมหาศาล  4.การแพ้ติดต่อกันเป็นเวลานาน และฝืนเทรด แน่นอน การที่ยิ่งเทรดแล้วแพ้ ติดต่อกันอย่างต่
สำหรับใครที่ต้องเทรดกินกำไรคำใหญ่ หรือ RunTrend วันนี้เรามีเครื่องที่ช่วยวิเคาะห์และหาจุดเข้าที่สามารถ RunTrendได้ นั้นคือ SuperTrend  SuperTrend  คืออะไร  📈 SuperTrend เป็นอินดิเคเตอร์ที่สร้างขึ้นมาจาก อินดิเคเตอร์ ATR และ CCI โดยที่ตัวชี้วัด CCI (มาตรฐานของพารามิเตอร์อยู่ที่ 50) เป็นตัวแสดงทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาด และตัวชี้วัด ATR เป็นตัวกำหนดระดับของตัวชี้วัด หากค่าของตัวชี้วัด CCI อยู่เหนื่อ 0 ค่าของตัวชี้วัด SuperTrend อาจจะพุ่งขึ้นหรือเคลื่อนไปตามแนวขนานก็ได้ (ขึ้นอยู่กับค่า ATR) แต่หากค่าตัวชี้วัด CCI ติดลบ ค่าของตัวชี้วัด SuperTrend จะดิ่งลง (ขึ้นอยู่กับค่า ATR เช่นกัน) โดยใช้สีมาเป็นตัวกำหนดเพือให้ง่ายต่อการใช้งาน  สูตรคำนวณ💻 UpperLevel=(High[i]+Low[i])/2+Multiplier*Atr(Period); LowerLevel=(High[i]+Low[i])/2-Multiplier*Atr(Period); ความสามารถของ SuperTrend💬 1.บอกแนวโน้มของเทรน  2.เป็นสัญณาณในการเข้าซื้อขายได้  3.ใช้เป็น แนวรับแนวต้าน  4.ใช้เป็น TSL Trailing Stop Loss การใช้งาน SuperTrend  สำหรับสัญญาณซื้อขาย 💭 ก็มีหลายวิธีขึ้นอยู่กับระบบที่เทรด ตัวอย่างเช่น  1. เข้าตามสี
Trading Statistics สถิติในการเทรด สำคัญอย่างไร ?                หลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์หน้าใหม่ น้องใหม่มาแรงหรือ เทรดเดอร์หน้าเก่าๆ บางคนหลงลืมเกี่ยวกับการจดสถิติในการเทรดไปแล้ว หืม ???? บางคนบอกว่าต้องจดด้วยหรอ จดสิ !!!!การจดสถิติในการเทรดของเรา ถือเป็นหัวใจสำคัญ ในการเทรดอย่างเป็นระบบระเบียบ นักลงทุนที่ดีควรมีการเก็บสถิติระบบเทรด ของตัวเองอย่างเสมอ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ ประเมินประสิทธิภาพระบบเทรดของตน แถมยังรวมไปถึงหาเจาะ วิเคราะห์หาปัญหา หรือสิ่งที่ทำให้เราเทรดเสีย เพื่อที่เราสามารถแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นได้                 สถิติของระบบเทรดส่วนใหญ่นำไปใช้ในการวางแผนบริหารความเสี่ยง  แล้วถ้าหากเราหากไม่เก็บสถิติ ไม่สนใจสถิติ ผลจะเป็นอย่างไรละ? นั่นก็อาจจะเปรียบได้กับ การลงทุนแบบนักพนัน ได้ๆเสียๆไปเรื่อยๆ ไม่มีตัวเลขวัดค่าความน่าจะเป็น และ วิเคราะห์ไม่ได้ว่าตรงไหนควรเสี่ยง ตรงไหนไม่ควรเสี่ยงเพราะนักลงทุนคนนั้นไม่ได้รู้จักระบบเทรดของตัวเองเลยจริง ๆ ข้อดีของการจดสถิติในการเทรด Forex 1. สถิติทำให้คุณรู้ว่าระบบเทรดนั้นดีหรือไม่ดี, มีประสิทธิภาพที่จะอยู่รอดได้ในระยะยาวหรือไม่
Samuel Leach สุดยอดเทรดเดอร์ในศตวรรตที่ 21  ตอน 1                วินาทีนี้ เราต้องตามกระแสโลกให้ทัน การนำเสนอเรื่องราวของเทรดเดอร์ในตำนานก็มีมาเยอะแล้ว วันนี้แอดขอแทรกคิว ของเทรดเดอร์ Forex ในยุคปัจจุบัน และยุคใหม่ๆกันบ้าง แม้ว่าประสบการณ์ในการเทรด อาจจะไม่มากเท่ารุ่นพี่เก๋าๆหลายๆคน  แต่ความสามารถของพวกเขาก็แทบจะมองข้ามไม่ได้เลย รายชื่อที่เราจะเสนอต่อไปนี้คือ 3 ผู้มีอิทธิพลในการวงการ Forex ยุคใหม่ ที่คุณต้องจดจำชื่อพวกเขาไปอีกนาน!แสนนานเลยทีเดียว               Samuel Leach    หลังจบการศึกษาและได้รับเกียรติยศ "Dean's Award" Samuel ก็ได้กลายเป็นเทรดเดอร์ที่มีชื่อเสียงระดับสากลเลยทีเดียวแหละ โดยเขาได้สั่งสมประสบการณ์ในโลกแห่งการเงินระหว่างการทำงานกับหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ จนกระทั่งในปี 2012 Samuel ได้ประกาศโปรเจ็คของตัวเองในชื่อว่า "Samuel and Co Trading" ที่เจริญก้าวหน้ามากๆ และถูกแต่งตั้งให้กลายเป็นบริษัท CPD ระดับโลกไปแล้ว                นอกจาก Samuel จะเป็นหนึ่งในเทรดเดอร์มือดีที่สุดที่น่าติดตามในปี 2020 แล้ว เขายังได้รับชื่อเสียงจากการเป็น Influ