กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ Fibonacci

บทความ

 Indicator Free automatic fibonacci  สายเทรดทองต้องมี                          👰💀   สำ หรับเทรดเดอร์หน้าใหม่ที่กำลังผันตัวเองมาอยู่สายขุดทอง จำเป็นต้องมีเครื่องมืออินดิเคเตอร์คู่ใจติดโปรแกรมไว้สักนิดครับ                           👰💀   หลายคนที่เทรดทองเป็นชีวิตจิตใจ น่าจะรู้กันอยู่แล้วแต่สำหรับมือใหม่นั้้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่จะลากเส้นฟิโบได้เป๊ะและตรงจุดที่จะเทรด การมีอินดิเคเตอร์ตัวช่วยสักตัว ช่วยปัญหาเหล่าออกไปได้ครับ                        💀  Fibonacci อัตโนมัติฟรีเป็นอินดี้ที่ตอบโจทย์ รวมไปถึงความง่ายที่มากขึ้นด้วย โดยรูปแบบการวางเส้น เป็นแบบ  Fibonacci retracement   เจ้าอินดี้ตัวนี้ มันอัปเดตโดยอัตโนมัติตามเวลาจริงเมื่อค่าสูงสุดและต่ำสุดใหม่ปรากฏขึ้นในแถบที่เลือก                            💀  และที่แจ่มไปอีกขั้นคือ เราสามารถเลือก ค่าระดับที่จะแสดงในการตั้งค่าตัวอินดี้ได้  แถมยังตั้งค่าเปลี่ยนสี ได้เองอีก ซึ่งจะทำให้เห็นเส้น และตัวเลขสีที่แตกต่างกัน BarsToS can - กำหนดจำนวนแท่งสำหรับตัวอินดี้เพื่อตรวจสอบค่า                          Level_1 - ระดับแรกของ Fibonacci          
การใช้  Bollinger band  ควบคู่ไปกับ  Relative Strength Index  และ  Stochastic Slow  ในตลาดฟอเร็กซ์ บทความนี้ได้มีเพื่อนผมคนนึงครับ บอกให้ผมช่วยหา "Indicators" ที่ใช้ควบคู่กับ  Bollinger Band  หน่อย  ซึ่งตอนนั้นผมก็ตอบเพื่อนคนนี้อย่างรวดเร็วไปว่า "เออ ใช้กับ Stochastic Slow ว่ะ"ซึ่งผมยังไม่ได้บอกมันเลยครับว่า"ผมไม่ได้บอกทั้งหมดว่าใช้กับ RSI ได้ด้วย"  แต่ว่าใช้ได้เหมือนกัน เพียงแต่  Stochastic  บอกสัญญาณที่เร็วกว่า Relative Strength Index (Rsi)   Oscillators ที่บอกสัญญาณได้เร็วอันดับแรกก็คือ Commodity Channel Index (CCI) และรองลงมาก็คือ   Stochastic   สองตัวนี้จะเหมาะสมกับกราฟพักตัว หรือที่เรียกว่ากราฟไซเวย์ (Sideway) นั่นเอง  เพราะฉะนั้น : อย่าได้ใช้อินดิเคเตอร์สองตัวนี้ในการเล่นกราฟที่มีแนวโน้มไปทางเดียวเด็ดขาด เพราะคุณอาจจะถูกหลอกว่ามัน  Over Bought   ( OB = ภาวะตลาดมีแรงซื้อเยอะเกิน ) ในช่วงขาขึ้น และภาวะตลาดที่มีแรงขายเยอะเกิน ( Over Sold ) ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นักลงทุนตกใจ อย่าพยายามคิดว่า "มันสุดแล้วนี่หน่า Sell ดีกว่า&quo
5/4/2018 Update:ได้รับการแก้ไขแล้ว แก้ไขในส่วนของการคำนวณ S/R points(แนวรับ - แนวต้าน) ของ Fibo. แก้ไขในส่วนของ บัคในการแสดงภาพ อินดี้นี้ใช้ได้ 2 แบบ 2 ทาง ในการคำควณแนวรับ - แนวต้าน R1/R2/R3/S1/S2/S3:  Main parameters PivotMode : Normal : ใช้สูตรปกติในการคำนวณ S and R. (แนวรับ - แนวต้าน) Fibonacci : ใช้ Fibonacci เพื่อคำนวณ S and R. (แนวรับ - แนวต้าน) CurrentHourOnly : คำนวณเฉพาะรายชั่วโมง [DownLoad##download##]
สวัสดีเพื่อนๆทุกท่าน หลายๆท่านที่เพิ่งเข้ามาเทรดใหม่ๆอาจจะยังดู แนวรับ - แนวต้าน ในแอพพลิเคชั่นของโอลิมเทรด ยังไม่เป็น(ส่วนใหญ่) วันนี้ผมจะมาสอนเคล็ดไม่ลับมาฝากเพื่อนๆเอาไปทำเป็นการบ้านด้วยละครับ สำหรับท่านใดที่เป็นอยู่แล้วก็เข้ามาดูผมบ่นๆได้ในวิด๊โอแห่งนี้ ฮ่าๆๆ.... ไม่ใช่สิ...เข้ามาศึกษาเพิ่มเติมได้นะครับ แลกเปลี่ยนความรู้กันครับ!!!
การหาเป้าหมายราคาด้วย  Fibonacci extension ต่อไปเราจะมาพูดถึงการหาราคาเป้าหมายด้วยการใช้ Fibonacci ซึ่งเราจะใช้   Fibonacci extension   การลาก Fibonacci extension นั้นแตกต่างจากการลาก Fibonacci Retracement อยู่นิดหน่อย เพราะเราต้องหาตำแหน่งวาง 3 จุด ตัวอย่างเช่น ถ้าราคาวิ่งเป็นเทรนขาขึ้น ปรกติเราจะทำกำไรจากการเข้าบาย และเราจะหาเป้าหมายราคาในขาขึ้นจาก Fibonacci extension โดยการวางตำแหน่งแรกของ Fib ไว้ที่สวิงโลว์ที่มีนัยยะ แล้วลากเม้าท์ไปที่สวิงไฮ แล้วคลิ๊กเม้าท์ และลากต่อมาที่จุดที่ราคามีการวิ่งมาทดสอบ ( Retracement ) เห็นได้ว่าแต่ละจุดที่เราวางนั้นมีความสอดคล้องกัน ลองไปดูตัวอย่าง USD/CHF กัน เห็นได้ว่าที่ระดับ Fib 50.0% เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง เนื่องจากราคาลงมาทดสอบถึง 3 รอบ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ และจากภาพตัวอย่างยังเห็นได้ว่าราคาวิ่งสูงขึ้นผ่านสวิงไฮด้วย ทีนี้เราก็มาหาเป้าหมายในการปิดทำกำไรบางส่วนด้วยการใช้ Fibonacci extension และนี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่ราคาลงมาพักตัวทำให้เกิดสวิงโลว์ ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นไปตลอดทางจนถึงระดับ 61.8% ซึ่งอยู่ใ
Hedging strategy hedging strategy หรือ กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง  เป็นกลยุทธ์การเทรดเพื่อป้องกันความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยที่จะเปิดออเดอร์ทั้งสองทาง ( Buy-Sell) ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเทรด EUR/USD คุณเปิดทั้งออเดอร์ Buy และ Sell ไว้อย่างละ 1 ออเดอร์ ออเดอร์ละ 1 lot ดังนั้น ไม่ว่าราคาจะวิ่งไปในทิศทางใด คุณก็จะไม่มีทางได้หรือเสีย ยอดรวมบัญชีของคุณจะความสมดุล หรืออาจกล่าวได้ว่า ความเสี่ยงในการเทรดของคุณเป็น 0 แล้วกลยุทธ์แบบนี้มันน่าสนใจตรงไหนล่ะ ? ที่น่าสนใจก็ตรงที่ กลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง หรือ Hedging นี้ถูกนำมาใช้เพื่อปกป้องผลกำไร และใช้ประโยชน์ได้เมื่อเวลาที่ราคามีการปรับตัว การป้องกันเงินทุน   ถ้าออเดอร์ที่คุณเปิดมีการป้องกันความเสี่ยง ก็เท่ากับว่าคุณไม่ได้เสี่ยงอะไรเลย แม้ว่าจะมีความผันผวนเกิดขึ้นกับคู่เงินที่คุณเทรด แต่ยอดเงินทุนของคุณก็จะไม่เปลี่ยนไปเลย การป้องกันความเสี่ยงจะถูกนำมาใช้เมื่อมีการเปิดออเดอร์ไปแล้วแล้วเกิดไม่มั่นใจในทิศทางของราคาในอนาคตขึ้นมา ก็จะใช้การ Hedging เพื่อเป็นการป้องกันผลกำไรที่มีอยู่จากออเดอร์ที่เปิดไว้แล้ว ตัวอย่างที่ 1   
คุณมีรูปแบบกราฟพื้นฐาน ในกล่องเครื่องมือ มาก พอสมควร ตอนนึ้ถึงเวลาที่จะเดินก้าวต่อไป และ หาเครื่องมือที่รุดหน้ากว่า เพื่อใช้ในการเทรด ในบทนี้ จะเน้นไปที่รูปแบบพฤติกรรมราคาแบบ  ฮาร์โมนิค  ซึ่งอาจจะยากในการทำความเข้าใจ แต่เมื่อจับแนวทางถูก มันก็จะทำให้ คุณได้กำไร อย่างง่ายดาย ได้เหมือนกัน ! รูปแบบ ABCD และ รูปแบบ Three-Drive. สิ่งที่ต้องทำคือ รอให้รูปแบบเหล่านี้เกิดขึ้นเสร็จแล้ว (ให้ถึงจุด D) ก่อนที่จะส่งออร์เดอร์ Buy หรือ Sell - เวลาที่ทำให้ราคา เคลื่อนไปจากจุด A ถึงจุด B ควรจะเท่ากับเวลาที่มันเคลื่อนจากจุด C ถึงจุด D แต่ก่อนอื่น เราควรตรวจดูว่า ตรงตามกฏเหล่านี้หรือไม่: - เวลาที่ไปจนถึงจุดสิ้นสุด ของ Drive 2 ควรจะเท่ากับ เวลาที่จบ Drive 3 - เวลาที่ไปถึงจุดสิ้นสุดของเส้นแนวรับ A ควรจะเท่ากับ จุดแนวรับ B รูปแบบ Gartley และ รูปแบบสัตว์ต่าง ๆ รูปแบบนี้อาจจะยากซักหน่อย เพราะมันทำให้คุณสับสันเมื่อคุณใส่ เครื่องมือ Fibonacci ลงไป กุญแจสำคัญ ในการหลีกเลี่ยงไม่ให้มีความสับสน คือให้ทำทีละอย่าง แล้วค่อย ๆ วิเคราะห์ทีละขั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม รูปแบบต่อไปนี้จะเกิดขึ้นทั้งรูปแ