กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ ระบบเทรด

บทความ

เชื่อได้ว่าไม่ว่ามือเก๋า หรือ มือใหม่ ก็น่าจะรู้จัก โรบอตเทรด หรือ Expert Advisors (EA) ซึ่งมีให้ขายและ แจกฟรี ต่างตามเว็บไวต์ แต่การเอามาใช้งานเลยนั้น ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่สูงมาก ดังนั้นจึง ต้องมีการทดสอบระบบก่อน  หรือ Backtest   วิธีการทดสอบ  Expert Advisors (EA) บน MetaTrader4 💻 หลังจากเปิด โปรแกรม MetaTrader4 ก็คลิก Strategy Tester บนแถบเครื่องมือ หรือ CTRL+R  หลังจากนั้นหน้าต่าง Tester แสดงขึ้นมา  โดยมีการตั้งค่าดังนี้  1.เลือก Expert Advisors (EA) ที่เราจะทดสอบ 2.เลือกคู้เงิน ที่ใช้ทดสอบ 3.ความละเอียดในการทดสอบ แนะนำให้เลือก Every tick  4.แนะนำให้ติก ใช้ข้อมูล  5.แนะนำให้ติก ความเร็วในการทดสอบแนว และการกดข้ามเพื่อเร่งการสรุปผล  6.เลือก Timeframe กรอบเวลา ที่ใช้ในการทดสอบ 7.เลือก spread ในการทดสอบ  8.ตั้งค่า Expert Advisors (EA)  9.ข้อมูลของคู้เงิน  10.เปิดกราฟ  11.แก้ไขโค้ด Expert Advisors (EA)   12.เริ่มทดสอบ ระบบ 
            แกะระบบเทรด Advanced Gold Trading  (EA Robot)                👌 หลังจากแนะนำอินดิเคเตอร์ไปได้พอสมควรแล้ว คราวนี้แอดจะมาแกะระบบ การเทรดจาก EA โรบอทกันดูบ้าง  ต้นแบบตัวนี้มาจากโรบอทสายขุดทอง                 👌 ตัวนี้มีให้ทดลองฟรีแค่เดโม่ bcaktest เท่านั้น ถ้าอยากได้ตัวจริงอาจต้องเสียเงินซื้อนะ แต่ก็ยังมีให้เช่าใช้แบบรายเดือนด้วยนะ แต่เราลองมาอ่านที่แอด  แกะระบบเทรด EA ให้กันดูก่อน  แล้วสังเกตุดูวิธีการเทรดของเจ้าโรบอทตัวนี้ แล้วนำมาประยุกต์ในการเทรดเอง จะประหยัดเงินไปได้อีกเยอะเลยครับ ลองดู สรุปการแกะระบบเทรดตามรูป             1. กลยุทธิ์ในการเทรดเป็นแบบ    real ticks   จัดว่าค่อนข้างไวถ้าใช้ EA หากเราใช้มือ ก็ต้องเฝ้ากราฟนานหน่อยนะ ใช้หลักการเทรดแบบ  following trend โดยดูกราฟ Day เป็นหลัก แล้วเทรดสั้นๆ                2. เทรดในกรอบทามเฟรมใหญ่แล้วซอยไม้ถี่ๆ ตามคลื่นลูกเล็กๆ เก็บสั้นๆ Scalping ไม่เกิน 100 จุด                3.ปิดเก็บกำไรตามแนวรับแนวต้าน ทั้งกรอบเล็ก กรอบใหญ่ และ กรอบย่อย               4.  ข่าวมาไม่เทรด งดเทรดเลย             5. กรอบทามเฟรมที่เล่น ตั้งแต่ 1H ขึ้น
วิธีการเทรดกำไรบวก 100%  ของ Mark Ritchie II                Mark Ritchie II เป็นใคร ? เขาเทรดเดอร์ระดับแนวหน้าที่ประสบความสำเร็จ และยังเป็น Momentum Master จากหนังสือ  Momentum Master 1 ใน 4 เทรดเดอร์คนดังของอเมริกาอีกด้วย ประวัติและที่มาของเขาก็ไม่ธรรมดานะ เนื่องจาก พ่อและลุงของเขาก็เป็นเทรดเดอร์สายอาชีพอยู่แล้ว แต่อย่าเพิ่งอ่ออออ ว่าแล้ว นะ                เพราะเขาไม่ได้โดนปลูกฝังให้เทรดมาตั้งแต่เด็กๆ Mark เริ่มจะมาสนใจการเทรดเมื่อตอนที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย เพราะได้ทำงานกับอดีตผู้ช่วยของพ่อเขา จากการส่งคำสั่งซื้อขาย ดูกราฟ นานๆไปเขาก็เริ่มชอบและสนใจอยากศึกษาจริงๆจังๆ                 จุดแข็งของเขาคือ การมี Mindset  ที่ดีมาก นั่นคือ การพยายามพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องไม่มีวันจบสิ้น จุดเด็ดที่ทำให้เขาเทรดได้กำไรดีนั้น มาจาก การที่ลองผิดลองถูก ตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ จนพัฒนามาเป็น คนที่รู้จักและเข้าใจความเสี่ยงเป็นอย่างดี ทำให้ผลตอบแทนกำไรนั้นโตขึ้นเรื่อยๆ ทีนี้เรามาเรียนรู้วิธีเทรดกำไรบวก 100%  ของ Mark กันดีกว่า มา  1. หลักๆ เขาใช้กลยุทธิ์การเทรดแบบ SEPA   ก็คือการจบข
อีกหนึ่งเครื่องมือที่ เทรดเดอรที่ทุกคนต้องใช้ในการเข้าออเดอร์ นั้นคือการ pending order   หรือการตั้งการซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยทำให้เราไม่ต้องรอเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา สำหรับมือใหม่ก็อาจจะ งง ว่า  Buy stop , buy  limit / Sell stop , Sell  limit   ซึ่งเป็น คำสั่งแยกใน  Pending order   แตกต่างอย่างไร  ซึ่งวันนี้จะมาหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน  Buy stop 📈 ,   Sell stop 📉  คืออะไร ? Buy stop   รูปแบบคำสั่งซื้อล่วงหน้า  โดยที่ราคา ณ ปัจจุบัน อยู่ต่ำกว่า Buy stop เมื่อราคาขึ้นมาถึงราคาที่วางใว้ ระบบก็จะทำตามเปิดคำสั่ง buy บริวเวณที่ราคาที่เราวาง Pending order  Buy stop  Sell stop เหมือนกัน Buy stop   แต่ต่างกันตรงที่กลับด้านกัน โดย Sell stop ราคา ณ ปัจจุบัน จะอยู่สูงกว่า ตำแหน่งของ Sell stop เมื่อราคาลงมาถึงตำแหน่ง Sell stop ก็จะเปิดคำสั่งขายหรือ หรือ sell   แนวทางการใช้ 👈 Buy stop ,  Sell stop โดยส่วนใหญ่จะใช้ เบรคราคา หรือ ทะลุแนว  และตามแรงไป ไม่แนะนำให้ไปใช้กับการเทรด ข่าว เพราะจะมีเรื่อง ของ  slippage เข้ามา  Buy  limit 📈 / Sell  limit 📉  คืออะไร ? Buy  limit Buy  limit รูปแบบคำสั่งซ
  เชื่อได้ว่าหลายคนที่เปิดโปรแกรมเทรด meta trader 4  สิ่งที่มีในกราฟ นอกจากกราฟราคา ก็จะเส้นตาราง สีเหลียม  และเราก็จะหาวิธีการที่จะปิดมัน แต่หารู้ไม้ว่าเส้น grid พวกนั้น มีประโยชน์มาก และ สามารถนำมาประยุคใช้ได้ ซึ่งเราจะไปหาคำตอบว่าทำไม ถึงสำคัญ  😀 ทำไม เส้น Grid  ถึงสำคัญ 📐 การตีเส้น Grid ของโปรแกรมเทรดนั้น จะตีโดยอ้างอิงเลขที่เท่ากัน แต่ละช่วงเวลา โดยส่วนใหญ่ก็จะกำหนดตัวเลขที่ลงท้ายโดย 0 เช่น หลัก 10 หลัก 100 หรือ หลัก 1000  ฉนั้น ตัวเลขที่มีเลข 0 นั้น คือตัวเลขที่มีนัยยะสำคัญที่รายใหญ่ หรือเทรดเดอร์ มักใช้เป็นการเข้าชื้อขาย เราจึงมักเห็นราคากลับตัวบริเวณเส้น grid   แนวทางการใช้งาน👍📏 1.ใช้เพิ่มนัยยะในการซื้อขายหรือระบบซื้อขาย 2.ยิ่ง Timefame ยิ่งใหญ่ ตัวเลขที่ใช้การตีเส้น  grid ก็จะยิ่งเยอะขึ้น ตัวอย่างเช่น  M1 นาที ตีเส้นทุก 10. แต่ H1 ตีทุก 100. ยิ่งตัวเลข 0 ยิ่งเยอะ นัยยะก็ยิ่งมีสูง  😀*นับว่าเป็นที่อีกเครื่องมือที่สามารถใช้งานได้ดี และทุกโปรแกรมเทรดมี เส้น grid และไม่ต้องติดตั้ง  cr.imageAll 🙏🙏🙏 www.freepik.com สนับสนุนบทความนี้ด้วยการส่งเพชร 💎ส่งดาว🌟 และกดติดตาม ใน Blo
วันนี้เราจะมาแนะนำ ทริคการตั้ง TSL หรือ Trailing Stop  ให้เลื่อน Stoploss   อัตโนมัติ โดยไม่ได้ใช้ Ea หรือโรบอทเทรด ใช้แค่ โปรแกรม  MetaTrader 4 จะมีวิการยังงัยไปดูกันครับ  วิธีการ ตั้ง Trailing Stop TSL บน MetaTrader 4👍❌ วิธีการนั้นง่ายมาก โดยลำดับแรก หลังจากที่เราได้เข้า ซื้อขายไปแล้ว และตั้ง stoploss เรียบร้อย  ให้ไปที่หน้าต่าง Terminal  ที่แสดงออเดอร์ที่เราเข้าใว้ เลือกออเดอรที่จะตั้ง  Trailing Stop   หลังจากนั้นให้คลิป ขวาที่ออเดอร์ที่ต้องการ หลังจากนั้นเลือกไปที่คำสั่ง  👍 Trailing Stop  หลังจากนั้นจะแสดงตัวเลขความกว้าง ระหว่างออเดอรและ ราคาปัจจุบัน เราก็เลือกได้เลย หากต้องการกำหนดค่าเองก็เลือก custom 👍 จะแสดงหน้าต่างให้กรอกความกว้างของออเดอร์  หลังจากนั้นตอบ OK 👍  เป้นการตั้งค่า Trailing Stop  เรียบร้อย ออเดอร์ที่ตั้ง ค่า Trailing Stop  จะมีแถบสีเหลือบริเวณ stoploss   ออเดอร์ที่เราเข้า  เมื่อราคา กำไรตามที่เรากำหนด Trailing Stop ราคาก็จะเลื่อน tsl ไปใว้ที่ราคาที่เราเปิดราคาซื้อขาย และ ปรับและปรับ ตามราคราที่เปลียนไปเรื่อยๆๆทำให้เราไม่ต้องมาปรับ stoploss เอง  📌ปล.คำสั่ง Trail
โบนัสเงินฝาก😀 🎊นั้นคือ โปรโมชั่นที่โบรคเกอร์นั้นออกมาเพื่อให้เรานั้น ฝากเงินเทรดกับโบรคเกอร์ ซึ่งจะมาในรูปแบบ credit ซึ่งจะทำให้ พอร์ตของเรานั้นใหญ่ขึ้น พรอ์ตทนมากขึ้น  ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนถามหากันไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือเก่า   ทำไม โบนัสเงินฝาก ถึงสำคัญสำหรับมือใหม่😀 แน่นนอนว่ามือใหม่นั้น เข้าตลาดมา ความรู้ยังไม่เยอะมากพอ ยังต้องลองผิดลองถูก การที่มีเงินพอร์ตเยอะ นั้นก็จะทำให้เรานั้นลองผิดลองถูกได้เยอะๆ เพื่อหาระบบ หรือ หาจุดบอดของเรา ร่วมไปถึง ได้ฝึกคาวยคุมอารมต่างๆ ข้อเสียของเงินโบนัสเยอะ สำหรับมือใหม่😂 แน่นอน ว่าเงินเยอะ ก็จะออกออเดอร์ได้ใหญ่ขึ้น และด้วยที่ระบบและความไม่ชัดเจน ก็มีแนวโน้มที่จะ โอเวอร์เทรด จนล้างพอร์ตได้  แต่ถ้าเรานำเงินมาใช้ในการสร้างระบบหรือเทรดในระบบ ก็จะเป็นตัวเร่งทำให้มือใหม่นั้นเก่งขึ้นได้เร็วขึ้น  แจกโบนัสเงินฝาก 😁 🎊🎊 สำหรับวันนี้แอดมินก็มี โบนัสเงินฝากมาแจก สำหรับทุกคนไม่ว่าจะมือเก่าหรือมือใหม่  โดยโบรคเกอร์ olymp trade เพียงฝากเงิน และ กรอบโค้ด TM22 /  SM22  ก็จะได้โบนัสเงินฝาก 30%  โดยใช้ตั้งแต่ 01.05.22 - 15.05.22 เวลา 23.59 cr.imageAll 🙏🙏🙏 www.fr
   Winning Methods  6 กลยุทธ์การเทรด EP.2                การทำกำไรที่ดี ต้องมีกลยุทธิ์การจัดการในการเทรด จากความเดิมตอนที่แล้ว แอดได้แนะนำกลยุทธิ์การเทรดไปแล้ว 3 แบบ มา มาต่อกันอีก3 แบบที่เหลือกัน ดูสิว่า เทรดเดอร์ชอบแนวไหนกัน  4.  Position Trading                Position Trading หรือเรียกว่า News Trading    เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเทรดในระยะยาว โดยจะถือสินทรัพย์ไว้เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรืออาจจะเป็นปีก็ได้  การเทรดในลักษณะนี้จึงเหมาะกับคนที่เน้นผลประกอบการ หรือดอกเบี้ย เพราะใช้ความอดทนสูงมากและยังต้องเข้าใจภาพรวมของตลาด ติดตามข่าวเศรษฐกิจหรือข่าวที่เกี่ยวข้อง มากกว่าโฟกัสที่ผลลัพธ์หรือการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นๆ              ข้อดี  คือ ไม่ตองเข้าออเดอร์บ่อย เข้าทีเดียวรอเป็นเดือนไปเลย เหมาะมากกับคนที่มีเงินเย๊น เย็น ไม่ร้อนเงินนะ คนที่เอาเงินหมุนมาเล่นไม่แนะนำวิธีนี้เลย               ข้อเสีย  คือ ใช้เวลานานมากๆเพื่อได้มาซึ่งกำไร และใช้เงินทุนค่อนข้างสูงมาก เพราะออกออเดอร์แค่ครั้งเดียวจบ กำไรจึงต้องค่อนข้างคุ้มค่าแก่การรอคอย  5.  Trend Trading                Trend Trading คือ การเทรดที่มี
  Winning Methods  6 กลยุทธ์การเทรดEP.1                การทำกำไรที่ดี ต้องมีกลยุทธิ์การจัดการในการเทรดด้วย นอกจากการมีทัศนติที่ถูกต้องแล้ว กลยุทธ์และเทคนิคในการเทรดเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการเทรดให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น  เนื่องจากสินทรัพย์แต่ละตัวล้วนมีลักษณะการวิ่งที่แตกต่างกัน   วันนี้เรามาศึกษากลยุทธ์พื้นฐานในการเทรดที่สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเองได้กัน                กลยุทธ์ในการเทรดแบบที่นิยมกันในปัจจุบัน มีรูปแบบประมาณ 6 แบบในแต่ละแบบก็จะมีมีข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันไป  ฉะนั้นนักเทรดมือใหม่ที่กำลังค้นหาสไตล์การเทรดของตัวเอง หรือเทรดเดอร์ที่ต้องการพัฒนากลยุทของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไม่ควรพลาดนะ 1. Scalping Trading                Scalping Trading  เป็นการเทรดแบบเข้าเร็วออกเร็วในระยะสั้น โดยดูการเปลี่ยนแปลงของตลาดในกรอบเวลาหน่วยวินาทีหรือนาที เหมาะมากกับพวก option, CFD และ ฟิวเจอร์ส  แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาต่อยอดสำหรับการเทรดสั้นนี้ให้มีความยาวขึ้นใน  15 M ,1H และ 4H  ซึ่งก็ให้ผลเป็นที่น่าพอใจเช่นกัน            ข้อดี คือ ทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน เน้นเก็บกำไร
   แนวคิดการเทรดของ Ed Seykota EP.2 👉 Ed เริ่มเข้าสู่อาชีพเทรดการเทรดแบบเต็มตัวในปี 1970 ในบริษัทโบรคเกอร์หุ้นเจ้าใหญ่เจ้าหนึ่ง ในบริษัทนี้ Ed ได้พัฒนาระบบเทรดระบบแรกของเขาสำหรับเทรดในตลาด Futures เขาได้ไปที่บริษัท IBM 360/65 และทดสอบระบบเทรดของเขากับคอมพิวเตอร์ เขาใช้ภาษา FORTRAN 4 ในการทดสอบและการทดสอบประมาณ 50 ค่า Parameter ในตลาดโภคภัณฑ์ทดสอบย้อนหลังไปเป็น 10 ปี เขาต้องใช้เวลาทดสอบกว่า 6 เดือน  ภายใต้เครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคนั้นที่มีความล้าหลังมากเมื่อเทียบกับสมัยนี้ และนั่น!!!! จึงเป็นที่มาของคำว่า บิดาแห่ง System Trader ผู้ซึ่งพัฒนาระบบการซื้อขายบนคอมพิวเตอร์ 👉   Ed ลาออกจากที่ทำงานเดิม เนื่องจากปัญหาที่ไม่ร่องรอยกันกับหัวหน้าของเขา ดังนั้น    Ed Seykota ในวัย 23 ปี  จึงได้ออกมาเทรดด้วยเงินของตัวเอง ประมาณ 10,000 – 25,000 เหรียญ และในช่วงกลางปี 1988 เขาก็ได้เปิดให้คนอื่นร่วมลงทุนด้วย  ซึ่งสร้างผลตอบแทนกว่า 250,000 % หรือ 2500 เท่า   ในเวลา 12 ปี  เชียวหละ  นั่นยิ่งตอกย้ำให้เราได้รู้ว่า ระบบเทรดของเขาเทพจริงๆ   ระบบการเทรดของ Ed Seykota                 ระบบการเทรดของเขา เป็นก
  นอกจากรูปแบบแท่งเทียนแล้ว ในโลกเราก็รูปแบบกราฟ หลายรูปแบบ และวันนี้เราจะมีอีกรูปแบกราฟที่นิยมใช้ต่างประเทศ นั้นคือ Point and figure (P&F) กราฟที่ไม่สนเวลา ซึ่งเราจะทำความรู้มันไปพร้อมกันๆ  Point and figure คืออะไร ? Point and figure หรือในชื่อย่อ P&F เป็นรูปแบบกราฟ ที่แสดงการเคลือนที่ของราคา โดยไม่ได้สนใจเวลาเหมือนกับแท่งเทียน เพื่อให้ราคานั้นมีแนวโน้มที่ชัดเจนและง่าย  Point and figure นั้นจะไม่ได้ใช้รูปแบบแท่งเทียนมากำหนดราคาขึ้นหรือลง แต่ใช้เครื่อง x กับ o ในการแสดงผล โดย.... ตัวอักษร X บนกราฟ  แสดงถึงการปรับตัวขึ้นของราคา 📈 ตัวอักษร O แสดงถึงการปรับตัวลงของราคา📉 โดยเราจะเรียก 1 ตัวอักษรที่แสดงบนกราฟ ว่า box โดยเราสามารถกำหนด ขนาดของ  box (box size) เช่น กราฟ box size = 10 จุด นั่นหมายความว่า ในหนึ่ง box ของ X และ O ช่วงการแกว่งตัวคือ 10 จุด  ยกตัวอย่าง X ในช่วงราคา 1560 ก็จะแสดงการขึ้นของราคาช่วง 1560-1564.99  ส่วนแถว X ล่าสุด (ขวาสุด) แสดงถึง X ถึง 5 ช่อง ก็แสดงถึงการขึ้นของราคาช่วง 1560 -1584.99 ส่วนในการเริ่มต้นแถวใหม่ จากแถว X เป็น O หรือจากแถว O เป็น X) เราจะพิจารณา
  สำหหรับข่าวนอกกจาก ข่าวนอนฟาร์ม หรือการประกาศการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแล้ว ยังมีอีกหนึ่งข่าวที่น่าสนใจมาก นั้นคือข่าว CPI and Core หรือ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน วันนี้เราจะทำความรู้จักและการตีความข่าว ⛛ CPI and Core CPI คืออะไร  ⛛ CPI คือข่าว รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core Consumer Price Index (CPI)) จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในราคาสินค้าและบริการต่างๆ ที่ไม่รวมถึงสินค้าประเภทอาหารและพลังงาน ดัชนีราคาผู้บริโภคนี้จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงจากมุมมองของผู้บริโภค ดัชนีนี้เป็นวิถีทางที่สำคัญที่จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มการจัดซื้อและภาวะเงินเฟ้อ ส่วน Core CPI เป็น  ผู้บริโภคพื้นฐาน ที่จะไม่นับรวมสินค้าประเภทอาหารสดเข้ามา เพราะเป็นสินค้าที่มีราคาผันผวนสูงไปตามช่วงเวลาระยะสั้นๆ  ใช้ในการวิคเคราะห์สถานการณ์การเงินของประเทศ รวมถึงนโยบายของรัฐบาล ⛛หมวดหมู่สินค้าที่นำมาคำนวณมีอยู่ด้วยกัน 8 หมวด ได้แก่ 1.ค่าเช่าบ้าน (Housing) 2.เครื่องนุ่งห่ม (Apparel) 3.อาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverages) 4.ค่ารักษาพยาบาล (Medical Care) 5.ค่ายานหานะการขนส่ง (Transportation) 6.การสื่
 การทำ evaluation ในการเทรด evaluation คืออะไร???                evaluation คือการประเมินมูลค่าหุ้น เพื่อช่วยในการตัดสินใจในการลงทุนให้ดียิ่งขึ้น แต่วันนี้แอดจะมาแนะนำวิธีการดัดแปลง evaluation เพื่อใช้ในการประเมินการเทรดของตัวเองกัน พูดง่ายๆก็ดูว่า ระบบที่เราใช้ วิธีการเทรดที่มีทำ ระบบที่เรามี และคู่เงินที่เราเทรดนั้น มันสัมพันธ์และ มันไปกันได้ดีจริงมั้ยนั่นแหละ                 เราสามารถประเมินได้เองง่ายๆเลยไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากซับซ้อน วิธีการนี้จะช่วยให้เรารู้จักตัวเองได้ดีขึ้น และสามารถพัฒนาทักษะในการเทรดให้ดียิ่งขึ้นไปอีก หรือ ช่วยทำให้เรารู้ว่าเราผิดตรงไหน และต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง มา มาดูกัน                หลักการที่ใช้สำหรับวิเคราะห์เนี่ย แอดนำเอามาจากหนังสือThink & Trade Like a champion ของ Mark Miniervini โดยมีหลักการโดยใช้สามเหลียมของการเทรดดิ้ง                                               สามเหลี่ยมของการ Trading  จะประกอบด้วย                                              Average Gain – จำนวนที่คุณ trade ชนะ                                                 Average Loss – จ
วันนี้เราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับรูปแบบของราคาที่จะมักเกิดขึ้นได้บ่อย นั้นคือรูปแบบ Gab ซึ่งสามารถเจอได้ทุกตลาด ซึ่งเราจะหาคำตอบไปพร้อมกัน ว่าคือะไรและใช้อย่างไร  Gab คืออะไร✅ Gab คือช่องว่างของกราฟ ที่เกิดการกระโดดของราคาซึ่งมาจากความไม่บาลานซ์ของราคา ซึ่งเป็นความผันผวนของราคา โดยจะเกินหลังจากการปิดของแท่งเทียน และเปิดของแท่งเทียน  ยกตัวอย่าง การเกิด Gab  ราคาหุ้น ตัวหนึ่ง แท่งเทียนปิดราคา 10บาท และอยู่ก็มีแรงชื้อจำนวนศาลเข้ามา ทุ่มซื้อ หรือ จนราคาต้องไปเปิดแท่งเทียนราคาที่ 15 บาท จึงทำให้เกิดช่องว่างราคา  สาเหตุที่เกิด Gab 😀 ก็มีหลายปัจจัย ไมว่าจะมาจากข่าวหรือเหตุการณ์สำคัญ หรือเกิดการเทขายหนีตาย ซึ่งจะเกิดกับหุ้นที่ไม่มีพื้นฐาน หุ้นปั้น  หรือเหรียญคลิปโตที่เกิดใหม่ที่มันความผันผวนสูง  การตีความ Gab  🚀 โดยยหลักที่เคาตีความหมายกัน คือการเข้ามาของแรงซื้อแรงขายจำนวนมหาศาล จึงใช้เป็นตัวเพิ่มความมั่นใจและนัยยะสำคัญในการเข้าซื้อขายมากขึ้น  ถ้า Gap กระโดดขึ้นมักแสดงแนวโน้มขาขึ้น  ถ้า Gap กระโดดลงมักแสดงแนวโน้มขาลง  แต่เราไม่สามารถที่จะใช้  Gab   อย่างเดียวในการเข้าซื้อขาย แน่ต้องใช้รวมกั
เชื่อได้ว่า  leverage  คือสิ่งจำเป็นของเทรดเดอร์ เพราะจะเป็นตัวช่วยเพื่อกำไรให้เรามากขึ้น หรือใช้ทุนเทรดน้อยลง ซึ่งเมื่อก่อนก็นิยมเทรด leverage Lot ที่ใช้ในโปรแกรม Meta Trader 4  แต่มายุคหลังนี้ โบรกเกอร์บางโบรกเกอร์ ก็หันมาใช้โปรแกรมเทรดของตัวเอง และ ใช้วิธีคิด leverage แบบใหม่ นั้นคือ กำลังคูณในออเดอร์ไปเลย ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จักและความแตกต่างกัน  leverage lot 1:100 😀 เป็นรูปแบบที่เทรดเดอร forex รู้จักเป็นอย่างดี รูปแบบนี้จะเป็นรูปแบบกำหนด  leverage ให้กับบัญชีเทรด  ตัวอย่างเช่น เปิดบัญชีแล้วเราเลือก leverage  1:100 หรือ 1*100 โดยเงินบัญชีขนาด 100 เหรียญเราก็เทรดได้ไม่เกิด 10,000 เหรียญ หรือเปิดได้ไม่เกิน 0.1  โดยใน 0.1 อาจจะแบ่งออกมาเป็น 0.01 ออกเป็น 10 ออเดอร์ก็ได้ โดยขนาด lot ดังนี้  1 Lot = 100,000 Unit 0.1 Lot = 10,000 Unit 0.01 Lot = 1000 Unit leverage x100 😀 จะเป็นรูปแบบหนึ่งที่เริ่มนิยมใช้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นโบรกเกอร์ option ที่มีการเทรด forex เข้ามา หรือ โบรกเกอร์ คริปโต ที่ให้เทรด future โดยหลักคำนวนจะเหมือนกัน นั้นคือ คูณกำลัง แต่แต่ต่างตรงที่ เป็นการกำหนด leverage
ข่าววันนี้ที่เรานำเสนอนั้น ก็เป็นยอีกหนึ่งข่าวตัวที่น่าสนใจมากเพราะมันเป็นการบ่งบอกถึง การใช้งานของคนในประเทศ รวมไปถึงเศรษฐกิจ นั้นคือข่าว  Retail Sales และ Core Retail Sales  Retail Sales และ Core Retail Sales👚👛 --Retail Sales คือ รายงานยอดขายปลีก จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายอดขายทั้งหมดในระดับการค้าปลีกที่มูลค่าดังกล่าวได้ปรับชดเชยอัตราเงินเฟ้อแล้ว ซึ่งเป็นดัชนีที่สำคัญมากที่สุดที่บ่งชี้ถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นจำนวนที่มากที่สุดของระบบเศรษฐกิจโดยรวม --ส่วน Core Retail Sales คือ รายงานยอดขายปลีกพื้นฐาน จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าทั้งหมดของยอดขายในธุรกิจการขายปลีกโดยไม่รวมยอดขายรถยนต์ ถือเป็นดัชนีที่สำคัญของการใช้จ่ายของผู้บริโภคและยังถือว่าเป็นดัชนีหลักตัวหนึ่งสำหรับระบบเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา --ดัชนียอดค้าปลีกหรือ Retail Sales เป็นตัวบอกให้เห็นถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วนใหญ่ ของ GDP ในสหรัฐ (ประมาณ 70%) การตีความข่าวRetail Sales ✅ ค่าที่สูงกว่าที่คาดไว้ถือว่าเป็นลักษณะเชิงบวกตลาดกระทิงสำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ📈 ส่วนค่าที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ถือว่าเป็นลัก