บทความ

 -- ข่าวตัวเลขเศรษกิจต่างประเทศ นั้นเป็นอีกหนึ่งเครืองมือสำคัญของคนที่ลงทุนในต่างประเทศหรือคนเทรด Forex ,ทองคำ  เพราะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ขับเคลือนราคาของตลาด และเป็นการบ่งบองถึงเสถียรภาพประเทศนั้น สำหรับคนที่เทรด Forex นี้คือเรื่องพื้นฐานที่ต้องรู้ นอกจาก เทคนิค หรือ Money Management  การมีความรู้เรื่อง ข่าวตัวเลขเศรษกิจ ก็จะทำให้เรา เทรดได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น หรืออาจจะหาจังหวะในการทำกำไรจาก ข่าวตัวเลขเศรษกิจ Forex Factory คืออะไร ❓ Forex Factory  คือเว็บไซต์ชั้นนำในการรายงานข่าว Forex และช่วยสรุปผลกระทบจากข่าวนั้น และแสดงตัวเลขเศรษกิจ แบบ Realtime  รวมไปถึงจัดความสำคัญของตัวเลขเศรษกิจ ทำให้คนเข้าไปงานนั้น เข้าใจได้ง่ายไม่ซับซ้อน Forex Factory ตั้งค่าโซนเวลา ⏰ เนื่องด้วยเว็บ Forex Factory เป็นเว็บที่แสดง ข่าวตัวเลขเศรษกิจต่างประเทศ ทั่วโลก ซึ่งโซนเวลาของแต่ล่ะประเทศก็จะไม่เหมือนกัน ฉนั้นก่อนที่เราจะไปอ่านตัวเลข  เราต้องไปตั้งค่าโซนเวลาให้เป็นของประเทศไทยก่อน  ขั้นตอนที่ 1 คลิกที่แถบเวลา  ขั้นตอนที่ 2 ตั้งค่าตามด้านล่าง GMT+7 : Bangkok DST : Off Time Format : 24 Hour จากนั้นกด Save แล
  รูปแบบกลยุทธิ์ในการเทรดมีหลายรูปแบบ                            รูปแบบกลยุทธิ์ในการเทรดนั้นมีมากมายหลายรูปแบบมาก แต่จะแนะนำรูปแบบที่เป็นที่นิยมมาให้อ่านและได้ลองศึกษาเรียนรู้กันดูสักหน่อย ก่อนจะตัดสินใจที่จะเลือกสายการเทรดหรือกลยุทธิ์สักทาง บางทีสายที่เราคิดว่าดี อาจจะยังไม่ถูกใจหรือตรงใจกับเรา หรือช่วงเวลาและเงินทุนก็เป็นปัจจัยหนึ่ง ที่อาจส่งผลต่อระบบเทรดของเราได้เช่นกัน มาวางแผน และไต่ตรองพัฒนาระบบการเทรดกันดูสักหน่อยเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับกลยุทธิ์เสริมเหล่านี้กันเถอะ                   1. Scalping   คือการเทรดที่เน้นความถี่ของออเดอร์ เข้าหลายไม้ เน้นทำกำไรระยะสั้นๆ เทคนิคการเทรดแบบ Scalping  ส่วนใหญ่จะใช้เวลาที่ 1-5 นาที สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ แต่อาจดัดเเปลงใช้ให้อยู่ในกรอบ 5-15 นาทีได้ด้วยเช่นกันในกรณีที่เริ่มเก่งแล้ว   แต่การเลือกเทรดด้วยกลยุทธ์นี้ จะต้องทุ่มเททั้งเวลาและการโฟกัสจุดสำคัญๆหลายอย่าง อย่างมากในการเทรด เพราะหากคลาดสายสายแม้เพียงเสี้ยววินาที คุณอาจจะผิดทาง หรือตกรถ หรือมีกำไรหรือเสียเงิน แบบหวุดหวิดก็เป็นได้ เน้นเก็บสั้นที่ 1-100 จุด ช่วงเวลาเทรดที่ดีคือ เลิกงาน หล
ค่า  Leverage    คือ จำนวนเปอร์เซนที่ได้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อทำการเปิดออเดอร์เทรด พูดง่ายก็ ซื้อได้มากขึ้น โดยที่ใช้เงินเท่าเดิม ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณซื้อ 1000 หุ้นในตลาดหุ้นโดยที่ราคาหุ้นละ 10 $ ต่อหุ้น คุณต้องใช้เงิน 10000$ เพื่อเปิดการเทรด บางโบรกเกอร์ให้คุณยืมเงินเพื่อเทรดสูงถึง 50-80% ของมูลค่าหุ้นทั้งหมด แทนที่คุณจะใช้เงิน 1000$ แต่คุณกลับใช้แค่ 5000-8000 $ เท่านั้น สิ่งนี้แหละที่ทำให้เทรดเดอร์สามารถซื้อหุ้นได้มาก โดยใช้เงินเท่าเดิม อย่างไรก็ตามทางโบรกเกอร์ก็จะชาร์จกำไรจากการยืมของคุณ ในทางตลาด Forex ก็ใช้หลักการณ์นี้เช่นกัน ค่า Leverage ที่พบมากๆจะประกอบไปด้วย ค่า Leverage 1:1 ค่า Leverage 1:2 ค่า Leverage 1:100 ค่า Leverage 1:200 ค่า Leverage 1:888 ค่า Leverage 1:1000 ค่า Leverage 1:2000 ข้อดีของการ leverage  จะทำให้เราเทรดได้กำไรมากขึ้น และจะทำให้เรามี margin ลดน้อยลง ทำให้เราถือได้นานมากขึ้น ข้อเสียของการ leverage แน่นอนว่ากำไรมากขึ้นความเสีนงก็เพิ่มขึ้น และมีโกาสที่จะทำเงินพอตของเราเหลือ 0 บาท เพราะกำลังคูณของ Leverage และเทรดได้ไม่เกิน 10% ของทุน ถึงแม้เราจะมี leverage
 เบสิกอินดิเคเตอร์ บ่งบอกลักษณะนิสัยของเทรดเดอร์                    การเลือกใช้อินดิเคเตอร์สักตัว มักสะท้อนถึงอุปนิสัย หรือลักษณะนิสัยเฉพาะตัวของเราได้ไม่มากก็น้อย หากเราจำเป็นต้องเลือกใช้อินดี้สักตัว ก็คงต้องเลือกที่ถูกกับจริตของเรามากที่สุด แต่บางครั้งก็อาจจะไม่ตรงเลยสักทีเดียว การเลือกใช้อินดิเคเตอร์สักตัวเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งเพื่อช่วยเพิ่มทักษะการทำกำไรเท่านั้น  ไม่ได้ต้องการเจาะจงหรือชี้ชัดลักษณะของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง  ทีนี้  เราลองมาสังเกตุกันดูสิ ว่าเราเป็นสายไหน แล้วตรงจริงหรือเปล่า แอดนั่งเทียนเขียนจาก   ประสบการ์ณของแอดเอง และเหล่าบรรดาพวกเพื่อนพ้องเทรดเดอร์ด้วยกันนี่แหละ มาลองสังเกตุกันดูสิ ว่าจะตรงมั้ยนะ อ่านไว้เพลินๆ ดูกันขำๆกันนะอย่าไปคิดมาก 1. MACD                           เทรดเดอร์ที่นิยมชมชอบ อินดี้ตัวนี้ มักจะเป็นคนใจเย็น รอบคอบและรอจังหวะที่ดีที่สุดได้ แม้ว่าจะใช้เวลานานแต่ก็ยังรอได้ เรียกได้ว่า  ช้าๆได้พร้าเล่มงาม  บางทีก็รอจนเหงือกแห้งเลยนะ แต่คุ้ม สาย VI และ สาย Day Trade   และ สาย Trend following 2. RSI                            เทรดเดอร์ที่นิยมชมชอบ อินดี้ตัว
RRR หรือ Risk Reward Ratio   คือ ตราส่วนที่ช่วยบอกความคุ้มค่าของการลงทุน  ไม่ว่าจะ เป็นการเล่นหุ้น การพนัน การทำธุรกิจ หรือการลงทุนประเภทอื่นๆ --Risk Reward Ratio เป็นเครื่องมือสำคัญ ที่สามารถช่วยในการตัดสินใจของเทรดเดอร์ได้  ว่าควรจะเสี่ยงกับการ ซื้อขายครั้งนี้หรือไม่ ใช้เป็นตัวช่วยในการคำนวณหา Position Sizing  ในการเทรดแต่ละครั้ง  ว่าควรเสี่ยงมากหรือ เสี่ยงน้อยกับการซื้อขายหุ้นครั้งนั้นๆ  หรือบางที ก็ใช้เปรียบเทียบเวลาที่คุณมีหุ้นที่อยากซื้อหลายๆตัว  แล้วยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อตัวไหนดี ตัวอย่าง การใช้งาน RRR ✅✅ หุ้น A ราคา 100 บาท จากการวิเคราะห์ มีจุดขายทำกำไรที่ 120 บาท และ Stop Loss ที่ 90 บาท Risk = 10 (100-90) , Reward = 20 (120-100) Reward มีค่ามากกว่า Risk แปลว่า มีความคุ้มค่าที่จะเสี่ยง ความคิดเห็นจากแอดมินต่อ RRR 💬💬 RRR นั้นเป็นอีกหนึ่งเครืองมือที่สำคัญมาก เป็นเครื่องมือที่บอกว่าการลงทุนของเรา มีความเสี่ยงอยู่ที่เท่าไหน กำไรเท่าไหร่ และประเมินความคุ้มค่าต่อการลงทุนได้ดี แต่การตั้งค่า RRR นั้นต้องใช้ประสบการณ์และเครืองมือในการหาราคาที่จะตั้ง โดยอาจจะใช้ indy หรือแนวรับแ
  "รายได้จากโบรกเกอร์มาจากไหน ?"                      Forex Broker หรือ โบรกเกอร์ Forex   เป็นตัวกลางเชื่อมต่อการซื้อขายระหว่างนักเทรดฟอเร็กซ์รายย่อย กับตลาดฟอเร็กซ์ เรียกง่ายๆว่า “ นายหน้า”  หรือ "พ่อค้าคนกลาง " ซึ่งตัวโบรกเกอร์จะมีรายได้จากการส่งคำสั่งซื้อ-ขาย ของเราไปสู่ยังตลาดจริง โดยได้ค่าธรรมเนียมต่อจำนวนคำสั่งและขนาดของคำสั่งในแต่ละครั้งจะไม่เท่ากัน ยิ่งเราเทรดหรือออกออเดอร์บ่อยๆ ก็ยิ่งทำให้รายได้ของ Broker นั้นสูงขึ้นไปด้วย ถึงแม้ว่าเราจะทำกำไรได้หรือขาดทุน Broker ก็จะยังได้ค่าธรรมเนียมอยู่เหมือนเดิมเพราะเป็นตัวกลางในการส่งคำสั่งซื้อ-ขายให้กับเรา ถ้าพูดตามภาษาชาวบ้านง่ายๆก็เรียกว่าค่าคอมมิชชั่นนั่นแหละ  แล้วได้รายได้แบบไหน ได้มาอย่างไร                     เคยสังเกตุมั้ย หลาย Broker ทำไม กำหนดค่า spread ไม่เท่ากัน บางที่ก็แพง บางที่ก็ถูกแสนถูก ค่า spread นี่แหละ คือทางเลือกที่หลากหลายให้กับเราชาวเทรดเดอร์กันหละ นั่นเป็นเหตุผลที่โบรกเกอร์มีมากมายให้เลือกเยอะเหลือเกินในประเทศไทย  แล้วทำไมเราเทรดเองส่งคำสั่งโดยตรงเองไปสู่ตลาดจริงเองไม่ได้??                    
Relative Strength Index (RSI) คืออะไร RSI เป็นเครื่องมือชี้วัดทางเทคนิคประเภท Momentum ใช้สำหรับวัดการแกว่งตัวของราคาว่ามีภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือ การขายมากเกินไป (Oversold) โดยมีค่าตั้งแต่ 0-100  โดยค่ามาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปนั้นจะอยู่ที่ 30 และ 70 โดยหาก RSI อยู่ในระดับที่ตํ่ากว่า 30 จะถือว่าราคาอยู่ในภาวะ “ขายมากเกินไป” (Oversold) และหากมากกว่า 70 จะถือว่าราคาอยู่ในภาวะ “ซื้อมากเกินไป” (Overbought) จากสูตร ก่อนที่จะคำนวณ RSI ได้ เราต้องได้ ค่า RS มาก่อน … โดยค่า RS มาจากการคำนวณค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 14 วัน (ราคาปิด) ซึ่งจะแยกเป็นการนับจากเฉลี่ยย้อนหลังของวันที่ขึ้น กับค่าเฉลี่ยของวันที่ลง ตัวเศษ : ค่าเฉลี่ยย้อนหลังของวันที่ขึ้น (14 วัน ย้อนหลัง มีขึ้นกี่วัน ก็ใช้ค่านั้นมาคำนวณ) ตัวส่วน : ค่าเฉลี่ยย้อนหลังของวันที่ลง (14 วัน ย้อนหลัง มีลงกี่วัน ก็ใช้ค่านั้นมาคำนวณ) การใช้งานที่นิยมใช้ ของ Relative Strength Index (RSI) 1.ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) ภาวะ “ซื้อมากเกินไป” หรือ Overbought คือ การที่ราคาพุ่งไปสูงมากๆ จนอาจจะไม่มีคนซื้อต่อ เพราะ คนเริ่มรู้สึกว่าหากซื้อที่ราคานั้
 เลือกเทรดตามช่วงเวลามีโอกาสทำกำไรมากกว่าจริงมั้ย??                   👯      เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า ตลาด Forex นั้นเปิดให้เทรดได้ 24 ชั่วโมง ตลอด 5 วัน จันทร์-ศุกร์ ยกเว้น BTC ที่เปิดทุกวันเลยไม่มีวันหยุด แล้วทำไมมันเปิดตลอด24ชั่วโมงหนะหรอ ก็เพราะการแลกเปลี่ยนสกุลเงินมีอยู่ทั่วทุกมุมโลกไงละ ซึ่งการซื้อขายสกุลเงินนั้นๆทำกันผ่านระบบ การเทรดออนไลน์ทั้งหมด                   👯   หลายคนเทรดไป กำไรบ้าง เสียบ้าง ดอยบ้าง เพราะเราไม่มีแผนในการเทรด หรืออาจจะมีแต่ก็ไม่ได้คำนึงเรื่องเวลา เพราะเข้าใจว่ามันเทรดได้ 24 ชั่วโมง ก็เลยไม่ได้สนใจ การเลือกเวลาในการเทรด หากเข้าถูกที่ถูกเวลา กราฟจะมาแรงแซงทางโค้งมาก แต่ถ้าหากผิดที่ผิดเวลา เราก็ต้องรอนาน หรือดอยนาน เพราะกราฟไม่ค่อยวิ่งนั่นเอง การ Overlap ของเวลาเปิดปิดตลาด                  👯     เมื่อมีผู้เล่นจำนวนมาก จะทำให้ตลาดซื้อขายกันได้ง่าย เราเรียกว่าสภาวะแบบนี้ว่า "ตลาดมีสภาพคล่อง" ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเทรด  Forex จะอยู่ประมาณ   14.00 - 23.00 น.    ช่วงนี้มักเป็นช่วงที่มีผู้เล่นคึกคักมากที่สุด เพราะผู้เล่นรายใหญ่ มักจะซื้อขายด้
Trailing Stop หรือ TSL   คือ การเลื่อนจุด Stop loss ขึ้นมาเรื่อยๆ ตามราคาปัจจุบัน โดยเป็นการตั้ง Stop loss ในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถ Lock กำไรในการเทรดได้ เพื่อให้ไม้ที่กำไร ไม่กลับเป็นขาดทุนโดยเป็นการยกระดับ Stop loss ขึ้นไปเรื่อยๆ ในกรณีที่เราเทรดถูกทางแล้ว ความแตกต่างของ Stop Loss ปกติและแบบ Trailing Stop เปิดออร์เดอร์ Buy ที่ราคา EUR/USD = 1.10000  ตั้ง Stop Loss หรือตั้ง Trailing Stop ไว้ที่ 100 จุด แล้วราคาปรับตัวขึ้นมาที่ EUR/USD = 1.11000 -Stop Loss ปกติ จะมี Stop Loss อยู่ที่ราคา EUR/USD = 1.00900 ตลอดไป -Trailing Stop จะมี  Stop Loss  อยู่ที่ราคา EUR/USD = 1.10900 หาราคาปรับตัวขึ้น Stop Loss ก็จะเลื่อนขึ้นมา เพื่อรักษาระยะห่างให้ได้ 100 จุด แต่ถ้าราคาปรับตัวลง ตัว Stop Loss จะไม่มีการปรับตัวลงตาม ถือว่าเป็นการ Take Profit ไปในตัว เพราะอย่างน้อยๆก็ได้กำไร หากราคาได้มีการเคลื่อนที่ไปตามที่คาดการณ์แล้วมีการปรับตัวลง วิธีการตั้ง Trailing Stop มีอยู่ 2 แบบ 1.ไม่ใช้กราฟ 2.ใช้กราฟ การตั้ง Trailing Stop แบบ ไม่ใช้กราฟ ส่วนมากเราจะกำหนดจุด Trailing Stop เป็น % ไปเลย เช่น 5%, 10% หรื
 เทคนิคแบบเรียบง่ายกับเส้น Trend Line ที่ทำกำไรได้จริง เส้น Trend Line เป็นเทคนิคที่ง๊ายง่าย และ  Basic ที่สุดในการวิเคราะห์หุ้นหรือ forex ด้วยกราฟ ถึงแม้ในสนามจริงมันจะไม่ง่ายมากก็ตาม แต่ในความเรียบง่ายนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ซึ่งต้องใช้การฝึกฝน และความชำนาญพอสมควร  1. จะลากจากตรงไหนไปตรงไหนก็ได้ ไม่มีคำว่าผิด เพราะว่ามันคือ  ศิลปะ     Trend Line เรียกอีกอย่างว่า เส้นแนวโน้ม หรือที่เรียกว่า เส้นไกด์ไลน์  ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง ทำให้เห็นภาพแนวโน้มโดยรวมๆที่ง่ายต่อการเข้า และชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ที่สำคัญ ต้องลากเส้นแบบมีที่มาที่ไปนะ อย่าลากมั่วซั่วละ ไม่งั้นก็จะลากเอง งงเอง โอ๊ยงงงง 2. ความชัน ไม่ใช่อุปสรรค บางครั้ง เส้นเทรนไลน์ก็ชันสะเหลือเกิน อย่าไปยอมแพ้นะ ลากไปเถอะ แล้วเล่นในกรอบหลุดกรอบ คือ หลุดเทรน ไม่เข้า ไม่เล่นแล้ว พอ...จบ  รอรอบใหม่ 3. จุดกลับตัวในกรอบเส้นเทรนไลน์   หรือการชนกรอบของเส้นเทรนไลน์ โดยมีสัญญาณกราฟแท่งเทียนกลับตัว นั่นแหละ จังหวะในการเข้าทำกำไรเลยละ  วิธีการลาก  - ใช้จุด 2 จุด   ลากจากจุดต่ำสุด ไปจุดสูงสุดหรือ จาก จุดสูงสุดไปจุดต่ำสุดก็ได้โดยเส้นแรกกับเส้น
 วิธีการทำ Money Management  Money Management คือการบริหารจัดการเงินทุนของคุณที่มีอยู่ให้งอกเงย หรือขาดทุนน้อยที่สุด  โดยกำหนดและวางแผนเป้าหมายในการเทรด กำหนด กำไร ขาดทุน เอาไว้ล่วงหน้า และคำนวนเป้าหมายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มีความน่าจะเป็น และเป็นไปได้เท่าไหร่ Forex กับ การบริหารเงินทุน          1.อย่าทุ่มจนหมดตัว = ให้แบ่งเงินออกเป็นสองส่วนก่อนจะเริ่มเทรด  เช่น มีทุน 10,000 บาท ให้ฝากแค่ครึ่งนึงก่อน 5,000บาท  ส่วนอีกครึ่งนึงเก็บเอาไว้เป็นกรณีฉุกเฉิน เมื่อพลาดพลั้ง ล้างพอร์ต          2. ได้กำไรแล้วต้องถอน = ค่อยๆถอนออกทีละน้อย จนครบที่ลงทุนไป อย่าโลภ หากเห็นว่าเงินเริ่มเยอะแล้วจะสามารถใส่ลอทที่ใหญ่ขึ้นได้ อย่าลืมว่า เงินเยอะขึ้น แต่ถ้าไม่คำนวน ลอทในการเทรด เปอร์เซนต์ที่ได้ จะเสียมากกว่าได้ เนื่องจากความโลภล้วนๆ          3.ใช้กำไรล้วนๆในการเทรด จะฟินกว่า เพราะหากล้างพอร์ตไปก็ยังมีทุนเหลืออยู่เท่าเดิม จริงมั้ย         4.ตั้งเป้ากำไรต่อวัน โดยคำนวนกำไร 2-3 % ก็พอแล้ว สำหรับเทรดทุกวัน          5.เมื่อมีกำไรก็ต้องมีขาดทุน คำนวนการขาดทุนด้วย ว่าในหนึ่งวัน จะขาดทุนได้กี่บาทดี  สูตรการคำนวนลอท
ราคาที่ลงท้ายด้วยตัวเลขกลมๆ 00 หรือ 000 หรือ 50 หรือ 20 สะท้อนอะไรบางอย่างให้เห็นที่ price chart ดูสิ่งที่ราคาบอก สะท้อนว่าเทรดเดอร์คิดอย่างไร จึงมีการบอกว่า Round Number เป็นตัวเลขเชิงจิตวิทยา ที่สะท้อนถึงว่าตัวเลขพวกนี้สัมพันธ์กับวิธีการคิดและตัดสินใจของเทรดเดอร์อย่างไร ทำให้ตัวเลขหลักกลมๆ กลายเป็นตัวเลขที่เทรดเดอร์มักจะโต้ตอบ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นตัวเลขที่ดึงดูด Liquidity Round numbers เป็นตัวเลขที่ลงท้ายด้วย 000 00 ตัวหลักๆ ตัวรองลงมาก็เป็น 50 หรือ 20 ยิ่งตัวเลข 0 มากยิ่งบอกถึงความสำคัญ และที่สำคัญอย่างที่เห็นในชาร์ตที่ยกตัวอย่างมาประกอบ ตัวเลขที่ลงท้ายด้วย 000 หรือ 00 พวกนี้มักจะกลายเป็นหรืออยู่พื้นที่แนวรับหรือแนวต้าน ที่ตรงเลขลงท้ายพวกนี้กลายเป็นพื้นที่แนวรับหรือแนวต้าน เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มักจะอ้างถึงอะไรที่จำได้ง่ายๆ เช่น ถ้าซื้อของที่ราคา 97 บาท ก็มักจะบอกว่าราคา 100 บาท  เป็นสิ่งสะท้อนว่ามนุษย์เวลาที่ตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลขมักจะอิงค่าอะไรที่ง่ายๆ ขบวนการการตัดสินใจในการเทรดก็เช่นกัน ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นชัดในราคาจึงมักจะมีการโต้ตอบที่ Round numbers พวกนี้เป็นประจำ
  5 ขั้นตอนการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเป็นเทรดเดอร์ ปัจจุบันการเป็นเทรดเดอร์เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากขึ้น สำหรับคนไทย  ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์ พาร์ทไทม หรือ ฟูลไทม เหตุผลก็เพื่อสร้างรายได้ที่เป็นกอบป็นกำ  หรือสร้างรายได้เสริมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นั่นเอง เวลา 👼👼 กว่าจะเข้ามาเป็นเทรดเดอร์ได้ไม่ใช่เรื่องยากและไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียวหากคุณไม่มีเวลาให้กับมันจริงๆ เวลาแบบไหนกันที่สำคัญ  เวลาในการเทรด เวลาในการหาความรู้ เวลาในการลองผิดลองถูก ไงละ และที่สำคัญที่สุด เวลาในการเก็บเกี่ยวประสบการ์ณจะส่งผลในระยะยาวที่ยั่งยืน ความรู้  👷👷 ความรู้เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุดที่เราสามารถทำได้โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลยแม้แต่บาทเดียว แค่เปิดมือถือ หรือเปิดกูเกิ้ลเพื่อค้นหาข้อมูล เพราะถึงแม้คุณจะไม่เสริซหาข้อมูลคุณก็ต้องเปิดเฟสบุคทุกวันอยู่ดี เช่นนั้นแล้ว สละเวลาสักน้อยนิด สัก 1-2 ชั่วโมงเพื่อเรียนรู้กันเถิด  เงินทุน 💚💛 แหล่งเงินทุนก็สำคัญไม่แพ้ความรู้ หากคุณไม่มีทุน มันก็ยากที่จะทำกำไร เพราะพอร์ตเดโม่ไม่สามารถถอนเงินได้ จริงมั้ยละ ประสบการ์ณ 👽👽 ประสบการ์ณจะเกิดขึ้นได้ ต้องผ่านข้อ1-3 มาแล้ว เมื่อความร