กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ แนวคิดการเทรด

บทความ

โบนัสเงินฝาก😀 🎊นั้นคือ โปรโมชั่นที่โบรคเกอร์นั้นออกมาเพื่อให้เรานั้น ฝากเงินเทรดกับโบรคเกอร์ ซึ่งจะมาในรูปแบบ credit ซึ่งจะทำให้ พอร์ตของเรานั้นใหญ่ขึ้น พรอ์ตทนมากขึ้น  ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนถามหากันไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือเก่า   ทำไม โบนัสเงินฝาก ถึงสำคัญสำหรับมือใหม่😀 แน่นนอนว่ามือใหม่นั้น เข้าตลาดมา ความรู้ยังไม่เยอะมากพอ ยังต้องลองผิดลองถูก การที่มีเงินพอร์ตเยอะ นั้นก็จะทำให้เรานั้นลองผิดลองถูกได้เยอะๆ เพื่อหาระบบ หรือ หาจุดบอดของเรา ร่วมไปถึง ได้ฝึกคาวยคุมอารมต่างๆ ข้อเสียของเงินโบนัสเยอะ สำหรับมือใหม่😂 แน่นอน ว่าเงินเยอะ ก็จะออกออเดอร์ได้ใหญ่ขึ้น และด้วยที่ระบบและความไม่ชัดเจน ก็มีแนวโน้มที่จะ โอเวอร์เทรด จนล้างพอร์ตได้  แต่ถ้าเรานำเงินมาใช้ในการสร้างระบบหรือเทรดในระบบ ก็จะเป็นตัวเร่งทำให้มือใหม่นั้นเก่งขึ้นได้เร็วขึ้น  แจกโบนัสเงินฝาก 😁 🎊🎊 สำหรับวันนี้แอดมินก็มี โบนัสเงินฝากมาแจก สำหรับทุกคนไม่ว่าจะมือเก่าหรือมือใหม่  โดยโบรคเกอร์ olymp trade เพียงฝากเงิน และ กรอบโค้ด TM22 /  SM22  ก็จะได้โบนัสเงินฝาก 30%  โดยใช้ตั้งแต่ 01.05.22 - 15.05.22 เวลา 23.59 cr.imageAll 🙏🙏🙏 www.fr
เชื่อได้ว่าทุกคนไม่ว่าจะเทรดเทพขนาดใหนหรือมือใหม่ สิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั้นคือ การขาดทุน หรือ Stoploss ซึ่งความแตกต่างระหว่าง เทรดเดอรมืออาชีพ และ มือใหม่นั้นคือ วิธีการรับมือกับการขาดทุน  ซึ่งมือใหม่ที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้หรือกลัวพ่ายแพ้ ก็อาจจะเทรดเพื่อเอาคืนด้วยอารม และนั้นคือ อาการ Revenge Trading หรือ การเทรดเพื่อแก้แค้นเอาคืน  วันนี้จะมาดูผลกระทบของอาการ Revenge Trading  พร้อมแทนวทางการแก้ไข Revenge Trading การเทรดเพื่อแก้แค้นเอาคืน คืออะไร 😡 คือรูปแบบการไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ต่อการเทรด หรือพูดง่ายๆ คือ อยากเทรดเพื่อเอาเงินที่เสียไปคืนมา โดยอาการนี้จะเกิดตอนที่เทรดเสีย แล้วไม่มีแผนการรับมือกับการโดน stoploss หรือ พอร์ตติดลบ จึงทำให้ เกิดอารมที่อยากจะเอาเงินที่เสียไปคืนกลับมา  โดยสิ่งนึ่งที่เข้ามานั้นคืออารมอยากเอาคืน และต้องการให้พอร์ตและออเดอร์กลับมาเป็นบวก   โดยส่วนใหญ่จะเทรดนอกระบบ หรือเข้าออเดอร์ด้วยอารมณ์   โดยรูปแบบของการไม่ยอมแพ้ก็มีประมาณดังนี้  1.เลื่อนเส้น stoploss  2.เข้าไม้เพิ่ม หรือ มาติงเกล  3.เพิ่มขนาดไม้ให้ใหญ่ขึ้นและรีบหากราฟเพื่อรีบเข้าเทรด  ผลกระทบจากการ
วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก Chart Pattern หรือ รูปแบบกราฟ ที่นิยม ซึ่ง Pattern แรกที่เราไปทำความรู้จักกันนั้นก็คือ Flag Pattern ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้ในการเทรดตามเทรนเป็นหลัก และยอดนิยมาก งั้นเราไปทำความรู้จัก Chart Pattern ไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า  Flag Pattern คืออะไร ⛳🚩 รูปแบบความต่อเนื่องของราคาที่อยู่ในช่วงเทรนด์ เป็นรูปแบบการพักราคาเพื่อขึ้นต่อของเทรน ที่นิยมเทรดซึ่งรูปแบ่งของมันมันเหมือน ธง ประกอบไปด้วย  ⛳ 1.Pole หรือ เสาธง จะเกิดขึ้นเมื่อราคาหุ้นพุ่งขึ้นสูงมาก โดยมีวอลุ่ม (ปริมาณการซื้อขาย) ที่สูงสัมพันธ์กับราคา ⛳ 2.Flag หรือ ธง คือรูปแบบของการพักราคาของราคาเพื่อที่ขึ้นต่อ จะเกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในกรอบแคบๆ ด้านขวาของเสาธง โดยมีวอลุ่มลดลงเล็กน้อย ⛳ Flag Pattern จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ชื่อเรียกขึ้นอยู่กับเทรนที่เล่น นั้นคือ Bullish flag" หรือ "ธงขาขึ้น และ Bearish flag หรือธงกลับหัว เทรนขาลง  เงื่อนไขการเกิด Flag Pattern  ⛳🚩 🚩 1.เสาของธงซึ่งเกิดจากราคาที่พุ่งสูงขึ้นมา เพื่อเป็นการบอกถึงความแข็งแรงของแรงและเทรน 🚩 2.Flag หรือ ธง ควรจะเป็นกรอบที่ชัดเจน โดยสามารถตีเส้น chan
7 Habits of Successful Traders 7 นิสัยของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ                 หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากประสบความสำเร็จในการเทรด แต่ยังไม่รู้ว่าวันไหน วันใด วันหนึ่ง จะถึงเป้าหมายสักที วันนี้แอดมีเคล็ดลับมาบอก เกี่ยวกับนิสัยของเทรดเดอร์ระดับโลกที่เขามักจะทำกันบ่อยๆ และเขาก็ประสบความสำเร็จกันเยอะแยะเลย                แน่นอนว่า ใครๆก็อยากประสบความสำเร็จในชีวิต และการเลียนแบบหรือทำตามที่นักเทรดระดับโลกเขาทำกัน ก็ย่อมส่งผลให้เราเทรดได้ดีขึ้น และอาจประสบความสำเร็จตามเขาบ้างก็ได้ ต้องมาลองดูกันหน่อยแล้วละว่า นิสัยแบบไหนที่เขาชอบทำ แล้วทำให้เขาประสบความสำเร็จได้ มาดูกัน 1.มีความรับผิดชอบสูงในตัวเองแบบสมบูรณ์                 การมีความรับผิดชอบในตัวเองแบบสมบูรณ์คือ การยอมรับในการเทรดของตัวเอง และรับรู้ได้ว่าการเทรดนั้นมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ เมือเทรดเสีย ผิดพลาด ผิดทาง จะต้องไม่มีการกล่าวโทษคนอื่น โทษกราฟ โทษตลาด หรือโทษใคร เพราะเทรดเดอร์มือออาชีพ จะไม่พยายามแก้ตัว มีแต่จะหาทางแก้ไข    2.มีระบบที่เหมาะกับตนเอง                เทรดเดอร์มืออาชีพส่วนใหญ่ มักจะมีระบบการเทรดเป็นของตัวเอง บ
เชื่อได้ว่าหลายคนที่เทรดก็มักจะประสบความล้มเหลวจากการขาดทุนในเทรดจนทำให้อยากที่จะล้มเลิกการเทรดหรือมีภาวะท้อแท้หรือ เครียด  วันนี้เราจะแนะนำ Mindset สำคัญเพื่อ ดึงเรากลับมาจากความล้มเหลว ว่ามีอะไรบ้าง 😀Mindset สำคัญเพื่อ ดึงเรากลับมาจากความล้มเหลว 1.ยอมรับความพว่ายแพ้ เป็นเรื่องปกติ 😁 การแพ้ชนะหรือความล้มเหลว มันคือเรื่องปกติมากๆ คนที่สำเร็จแทบจะทุกคนก็เคยผ่านจุดล้มเหลวกันมาทั้งนั้นและทุกความสำเร็จก็ต้องมีความล้มเหลมมาเป็นส่วนประกอบเสมอ ยกตัวอย่างเช่น ทอมัส เอดิสัน ทดสอบสร้างหลอดไฟดวงแรกของโลกก็ผ่านการล้มเหลวนับหมื่นครั้ง กว่าเราจะได้หลอดไฟดวงแรก ฉนั้นการล้มเหลมคือเรื่องปกติ ทุกคนต้องเคยผ่าน  2.จริงๆ น่ะหรอ?❓ ช่วงเวลาที่ล้มเหลว ก็มักจะโทษตัวเองว่า เราอาจไม่เก่ง เราทำไม่ได้ 1 คำที่จะทำให้เรามีสติกลับมา นั้นคือการต่อคำว่า จริงๆ น่ะหรอ? หลังคำที่คิดว่าเป็นลบกับเรา เช่น ทำไม่ได้จริงๆ นะหรอ ? 3.คุยกับตัวเอง😀 ฟังดูแล้วเหมือน คนบ้า แต่การคุยกับเองนั้นมันคือวิธีการของคนที่สำเร็จมากมายใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิต สิ่งที่จะได้แน่ นั้นคือ สติเราจะกลับมาและเราจะเห็นข้อผิดพลาดของเรา  4.ความสำเร็จในคว
   Salary Or Extra Income เทรดเลี้ยงชีพ หรือ เทรดแค่เป็นรายได้เสริมดี 👉 ในยุคสมัยที่คนออกแบบชีวิตตัวเองได้เอง หาเงินง่าย ซื้อง่าย ขายคล่องกันแบบนี้ เทรดเดอร์ก็ดูจะเป็นอาชีพในฝันของใครหลายๆคน แต่ทุกเส้นทางมักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไปเราต้องมาชั่งน้ำหนักกันก่อน 👉 และหากใครที่กำลังลังเลอยู่ ว่าจะออกมาเทรดเป็นอาชีพหลักดี หรือแค่เทรดขำๆ แค่เป็นรายได้เสริมลองมาอ่านบทความนี้ดูก่อน อาจช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นว่า จะจัดการกับกับความว้าวุ่นในใจคุณได้แบบไหนกันบ้าง 1.) อาการเบื่อคน  👉 เชื่อเถอะว่าเหตุผลข้อนี้จะเป็นเหตุผลอันดับต้นๆเลย ที่ทำให้คนเราอยากออกจากงานประจำ เพราะเบื่อที่ต้องมาเล่นสงครามประสาทกับเพื่อนร่วมงาน ไหนจะโดนเอาเปรียบอีก ไหนเจ้านายไม่เห็นคุณค่าอีก บลา บลา  ฯลฯ และคนเหล่านี้ก็ไปหาทางออกจากการเป็นเทรดเดอร์หนะสิ หลายคนเชื่อว่าการเทรดหุ้นจะสามารถสร้างรายได้ได้ โดยที่ไม่ต้องไปง้อใคร   ข้อนี้มักจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบเข้าสังคม เพื่อนน้อยครับ หากคุณชอบอยู่คนเดียว แล้วต้องการมีรายได้ตลอดเวลา ก็เข้าข่ายที่ควรจะเริ่มอะไรใหม่ๆ แต่หากเพียงแค่หนีปัญหา แต่เดี๋ยวก็กลับไป
วันนี้เราจะนำเสนอ  อินดิเคเตอร์ยอดนิยม อีกตัวหนึ่งนั้นคือ Commodity Channel Index (CCI) ที่มีความสามารถหลากหลาย งั้นเราไปทำความรู้กจัก Commodity Channel Index (CCI)  ไปพร้อมกัน  Commodity Channel Indexหรือ CCI คืออะไร😱 Commodity Channel Indexหรือ CCI   คือ เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ประเมินทิศทาง และ ความแข็งแกร่งของแนวโน้มราคาในปัจจุบันเทียบกับราคาเฉลี่ยในอดีต  ถูกคิดค้นโดย Donald Lambert โดย  Commodity Channel Index จะบอกความผันผวนของดัชนี มีค่าอยู่ระหว่าง +100 และ -100 อธิบายอย่างง่ายคือ เมื่อ indicator มีค่าสูงกว่า +100 จะบ่งบอกถึงภาวะ Overbought และ ดัชนีมีค่าต่ำกว่า -100, จะบ่งบอกถึงภาวะ Oversold แต่นิยมนำ Commodity Channel Index นำมาวิเคราะห์ทิศทางของกราฟ ในรูปแบบ Bullish divergence และ Bearish divergence  สูตรที่มา CCI = (Typical Price – 20-period SMA of TP) / (0.015 x Mean Deviation) Typical Price = (High + Low + Close) / 3 Constant = 0.015 แนวทางการใช้งาน  1 . Overbought / Oversold👍   CCI มีค่ามากกว่า 100 หมายความว่าราคาอยู่ในภาวะ Overbought CCI มีค่าน้อยกว่า 100 หมายความว่
แนวคิดการเทรดของ  Ed Seykota EP.1 👉 วิธีการเทรดที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้ระบบการเทรดหรือแนวคิดการเทรดจากเทรดเดอร์ผู้ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่ง Ed Seykota ก็เป็นหนึ่งในนั้น มาวันนี้แอดจะพาไปทำความรู้จักกับเทรดเดอร์ผู้ที่ประสบความเร็จในการเทรดกัน  👉 Ed Seykota หรือชื่อเต็ม Edward Arthur Seykota เกิดปี 1946 ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ย้ายมาอยู่สหรัฐตั้งแต่ยังเด็ก  โดยมีคุณพ่อของเขาเอง เป็นอาจาร์ยคนแรก เพราะ พ่อของ Edเป็นนักเทรดหุ้น 👉 โดยเขาเริ่มศึกษาหุ้นตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และมีอุปกรณ์เป็นวิทยุเก่า ๆ  เครื่อง Oscilloscopes เพื่อทำการทดลอง เพราะ Ed ชอบสร้างรูปแบบของคลื่น ซึ่งอีก 4 ปีให้หลังพ่อของ Ed ก็ได้แสดงให้เขาเห็นถึงการซื้อหุ้น วิธีการซื้อหุ้น โดยเขาได้อธิบายว่า เขาควรจะซื้อหุ้นเมื่อราคาหุ้นมันทะลุกล่องด้านบน และควร Sell เมื่อราคาหุ้นทะลุกล่องด้านล่าง ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเทรดของ Ed Seykota 👉 Ed เริ่มเรียนจบ และเริ่มสนใจระบบเทรดของ นักวิเคราะห์ทางเทคนิคท่านหนึ่งชื่อ Richard Donchian   จากการอ่านหนังสือของเขา ระบบนี้เป็นระบบที่แสนจะธรรมดามาก  ระหว่างเส้น MA 5 และเส้น MA 20 โดยใช้
  นอกจากรูปแบบแท่งเทียนแล้ว ในโลกเราก็รูปแบบกราฟ หลายรูปแบบ และวันนี้เราจะมีอีกรูปแบกราฟที่นิยมใช้ต่างประเทศ นั้นคือ Point and figure (P&F) กราฟที่ไม่สนเวลา ซึ่งเราจะทำความรู้มันไปพร้อมกันๆ  Point and figure คืออะไร ? Point and figure หรือในชื่อย่อ P&F เป็นรูปแบบกราฟ ที่แสดงการเคลือนที่ของราคา โดยไม่ได้สนใจเวลาเหมือนกับแท่งเทียน เพื่อให้ราคานั้นมีแนวโน้มที่ชัดเจนและง่าย  Point and figure นั้นจะไม่ได้ใช้รูปแบบแท่งเทียนมากำหนดราคาขึ้นหรือลง แต่ใช้เครื่อง x กับ o ในการแสดงผล โดย.... ตัวอักษร X บนกราฟ  แสดงถึงการปรับตัวขึ้นของราคา 📈 ตัวอักษร O แสดงถึงการปรับตัวลงของราคา📉 โดยเราจะเรียก 1 ตัวอักษรที่แสดงบนกราฟ ว่า box โดยเราสามารถกำหนด ขนาดของ  box (box size) เช่น กราฟ box size = 10 จุด นั่นหมายความว่า ในหนึ่ง box ของ X และ O ช่วงการแกว่งตัวคือ 10 จุด  ยกตัวอย่าง X ในช่วงราคา 1560 ก็จะแสดงการขึ้นของราคาช่วง 1560-1564.99  ส่วนแถว X ล่าสุด (ขวาสุด) แสดงถึง X ถึง 5 ช่อง ก็แสดงถึงการขึ้นของราคาช่วง 1560 -1584.99 ส่วนในการเริ่มต้นแถวใหม่ จากแถว X เป็น O หรือจากแถว O เป็น X) เราจะพิจารณา
หลังจากที่นำเสนอว่า FOMC คืออะไรไปแล้ว วันนี้ก็จะมานำเสนอข่าวที่นัยยะสำคัญที่สูง ที่จะทำให้นักลงทุนอย่างเราต้องอดนอนเพื่อมาฟังข่าวนี้นั้นคือข่าว Fomc Meeting Minutes หรือ รายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จักข่าวนี้ไปพร้อมกัน FOMC Meeting Minutes คืออะไร 📊 การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือพูดง่ายคือการประชุมของ  FOMC   โดนมี คณะกรรมการ 12 คน, ผู้บริหาร 7 คน และคณะรัฐมนตรีอีก 5 คน จากธนาคารกลาง 12 แห่ง ซึ่งจะมีการจัดการประชุมจะเกิดขึ้นทุกๆ 8 ครั้งต่อปี  โดยวาระการประชุมก็ พิจารณาและพูดคุยในเรื่องสำคัญของประเทศซึ่งเป็นปัจจับยที่ส่ง ผลกระทบต่อการเงินโลก  ยกตัวอย่างเช่น อัตราดอกเบี้ย, อุปสงค์และอุปทาน, การจ้างงานและค่าแรง, รายได้ผู้บริโภคและการใช้จ่ายของผู้บริโภค และอื่นๆ การประชุมในแต่ละครั้ง  นักเทรดจะเล็งเห็นสุขภาพของระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทันที หลังจากที่ได้ประกาศผลการตัดสินใจจากการประชุม FOMC Meeting Minutes ส่งผลต่อตลาดใหนบ้าง  📊 ก็แทบจะทุกตลาดที่ตัวเงินดอลล่าจับคู้อยู่หรือเป็นทุนสำรองของประเทศ แต่
การพักผ่อนนั้นคือสิ่งที่สำคัญมกสำหรับเราทุกคน ขนาดตลาดเองก็มีช่วงเวลาที่พักเพื่อปรับฐานของราคา เราเป็นนักเทรด ก็ควรมีช่วงเวลาที่พักผ่อน วันนี้จะพูดถึงเรื่องการพักผ่อนกัน  ทำไมต้องมีการพักผ่อนจากการเทรด 😀 การเทรดนั้นเป็นอาชีพที่ใช้ความคิดและสมาธิค่อนข้างสูง แน่นอน พอเวลาผ่านไปยิ่งนาน สมาธิและสมองเราที่ใช้งานอย่างต่อเนื่องก็เริ่มที่จะเกิดอาการล้าและทำงานได้แย่ลง และนั้นก็อาจจะทำให้เรานั้น มีการตัดสินใจที่ผิดพลาด และ มีมีโอกาศที่จะมีอารมเข้ามาเกียวข้อง  ฉนั้นการพักนั้นเป็นเหมือนการให้สมองและร่างกายของเราได้ฟืนฟู เพื่อที่จะได้กลับมาพร้อมอกีครั้งสำหรับการเทรด  ประโยชน์ของการพักผ่อนจากการเทรด 😀 1.ได้พักสมองและความคิดเกี่ยวกับกราฟ  2.ลดโอกาศขายหมู เพราะว่า มองจอน้อยลง อารมที่เข้าไปเกียวข้องก็น้อยลง  3.ลดความเคียดวิตกกังวลได้จากการมองกราฟนานๆ 4.ทำให้มีโอกาศทำตามระบบได้ดีมากขึ้น  แนวทางการพักผ่อนจากการเทรด 😀 ควรเป็นกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ทำความสบายใจเบาสมอง และไม่ควรมีกราฟหรืออะไรก็ตามเกียวกับกราฟเข้ามาเกียวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ฟังเพลง ดูหนัง นอน หรือกินของว่าง สิ่งพวกนนี้จะทำให้ร่างการเรานั้นได้ผ่
การเตรียมความพร้อมก่อนเทรดนั้นคือเรื่องที่สำคัญมากๆในการเทรด ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม  วันนี้เราจะมาแนะนำแนวทางการเตรียมความพร้อมก่อนเทรดกัน  ทำไมต้องเตรียมความพร้อมร่างกายก่อนเทรด💬 แน่นอนว่าการเทรดนั้นก็เหมือนกันงานทั่วไปที่ต้องการสมาธิและสติที่สูง หากร่างงกายไม่พร้อมในการเทรด ก็จะทำให้การเทรดของเรานั้นแย่ลง รวมไปถึงการตัดสินใจต่างๆ  คนส่วนใหญ่ที่เทรดนั้นก็ไม่ได้เทรดเต็มเวลา ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาเทรดหลังเลิกงาน ตอนกลางวันทำงานมาได้ความกดดันหรือความเครียดมา แล้วมาเทรดเลยนนั้นก็อาจจะทำให้รางกายนั้นเหนื่อล้าจากการทำให้และทำให้การตัดสินใจนั้นแย่ลง  เตรียมความพร้อมร่างกายก่อนเทรด💭 1.การอาบน้ำ นั้นช่วยได้มาก ที่จพทำให้ร่างกายที่เหนื่อยล้าและความไม่สบายตัวนั้นหายไป ทำให้ร่างพร้อมสำหรับการเทรด  2.แวดล้อมการเทรด การที่มีแวดล้อมที่หมาะสมในการเทรด เช่นไฟสว่างเพื่อลดการทำงานหนักของตา หรือ ห้องที่เงียบ แอร่เย็น ก็จะช่วยให้เราโฟกัสกับกราฟได้ดีขึ้น  3.การนั่งสมาธิ ก็จะทำให้เรานั้นโฟกัสกับกราฟและระบบการเทรดมากขึ้น  4.ไม่สบายไม่เทรด หากคุณรู้สึกไม่สบาย ควรหยุดพัก เพราะว่าร่างกายไม่พร้อม จะทำให้ยิ่
  ความเสียใจของการเทรดนั้นหลักก็แบ่งได้ 2 รูปแบบ นั้นคือเสียใจที่ ‘ทำ’  ทำมัยถึงซื้อราคานี้ เรียกว่า Regretful Action และเสียใจที่ไม่ได้ทำ เสียใจที่ ‘ไม่ได้ทำ’ ทำมัยเราถึงไม่ขาย ปล่อยให้ดอยทำมัย เราเรียกกว่า Regretful Inaction  ซึ่งวันนี้เราจะมาความรู้กจัก 2 คำนี้ไปพร้อมกันๆ และ แนวทางการรับมือ  Regretful Action ในการเทรด 😢 คือรูปแบบที่เรากระทำไปโดยใช้อารมมากกว่าเหตุผล หรือนอกแผนการที่วางใว้ แล้วผลลัพท์มันออกมาแย่ จึงเกิดอารมเสียใจที่เราทำไปโดยที่ไม่ได้ว่างแผนให้ดีกว่านี้  หรือแม้การเข้าออเดอร์ซื้อขายแล้วติดลบหรือติดดอย นี้ก็นับเป็น  Regretful Action Regretful Inaction ในการเทรด  😭 อารมเดียวข้างบน แต่เลือกที่จะไม่ทำ โดยส่วนใหญ่ ก็มาพร้อมกับความหวังและความโลภเข้ามาครอบงำไม่ให้เราทำใตามแผน เช่น ไม่ยอมขาดทุนเพราะหวังว่าราคาจะขึ้นไปอีก จะกลับมาบวกได้ หรือ ราคาถึงเป้าหมายที่จะปิดกำไรแล้ว แต่ในใจยังเชื่อว่ายังขึ้นต่อ แต่ราคากลับลง ก็เสียใจทำมัยเราถึงไม่ขายไปนะๆ  Regretful Action vs Regretful Inaction 😭 คนเราเสียกับสิ่งที่ไม่ได้ทำมากกว่าทำ ยกตัวอย่างเช่น มีหวย 2 ใบ ให้คุณเลือกแต่คุณเลือกซื
เชื่อว่าหลายคนที่เทรดมา ก็คงคุ้นเคยข่าวที่ขึ้นต้น ด้วย FOMC ซึ่งเป็นข่าวที่แทบจะทุกตลาดให้ความสำคัญ เพราะมีผลต่อการเคลื่อนเที่ของราคา วันนี้เราจะมาทำความรู้จักไปพร้อมกันๆ  FOMC คืออะไร 👍 FOMC หรือในชื่อเต็มคือ  Federal Open Market Committee คือ คณะกรรมการตลาดเสรีกลาง เป็นหน่วยงานในระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve System) หรือที่เรียกว่า FED หรือพูดง่ายก็คือ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) หน่วยงานในระบบธนาคารแห่งประเทศไทย 📉 FOMC ทำไมถึงสำคัญต่อการเคลื่อนของราคา📈 FOMC เป็นคนกำหนดนโยบายทางการเงิน โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินการผ่านตลาดการเงิน (Open Market Operations) และเป็นผู้กำหนดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยตรง รวมไปถึง การบริหารจัดการเป้าหมายของอัตราการว่างงาน , เป้าหมายเงินเฟ้อ และ ซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดการเงินเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจ นั้นจึงทำให้การสื่อสารของ FOMC ผ่านรายงานการประชุม หรือการให้สัมภาษณ์ของคณะกรรมการจึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่สนใจ เพราะจะเป็นการบอกถึงทิศทางที่จะดำเนินนโยบายการเงิน 📌 เราสามารถเข้าไปติดตามข่าวได้ที่เว็บ https://www.fo
  สำหหรับข่าวนอกกจาก ข่าวนอนฟาร์ม หรือการประกาศการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแล้ว ยังมีอีกหนึ่งข่าวที่น่าสนใจมาก นั้นคือข่าว CPI and Core หรือ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน วันนี้เราจะทำความรู้จักและการตีความข่าว ⛛ CPI and Core CPI คืออะไร  ⛛ CPI คือข่าว รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core Consumer Price Index (CPI)) จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในราคาสินค้าและบริการต่างๆ ที่ไม่รวมถึงสินค้าประเภทอาหารและพลังงาน ดัชนีราคาผู้บริโภคนี้จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงจากมุมมองของผู้บริโภค ดัชนีนี้เป็นวิถีทางที่สำคัญที่จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มการจัดซื้อและภาวะเงินเฟ้อ ส่วน Core CPI เป็น  ผู้บริโภคพื้นฐาน ที่จะไม่นับรวมสินค้าประเภทอาหารสดเข้ามา เพราะเป็นสินค้าที่มีราคาผันผวนสูงไปตามช่วงเวลาระยะสั้นๆ  ใช้ในการวิคเคราะห์สถานการณ์การเงินของประเทศ รวมถึงนโยบายของรัฐบาล ⛛หมวดหมู่สินค้าที่นำมาคำนวณมีอยู่ด้วยกัน 8 หมวด ได้แก่ 1.ค่าเช่าบ้าน (Housing) 2.เครื่องนุ่งห่ม (Apparel) 3.อาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverages) 4.ค่ารักษาพยาบาล (Medical Care) 5.ค่ายานหานะการขนส่ง (Transportation) 6.การสื่
หลังจากที่เราได้ทำความรู้กจักเกี่ยว กับ Gap หรือ ช่องว่างของราคาไปในตอนที่แล้ว วันนี้เราจะมาทำทำความรู้จักรูปแบบ ของ Gap ในตลาดว่ามีรูปแบบใหนบ้าง และแนวทางการเทรด  รูปแบบ Gap ในตลาด สามารถที่แบ่งได้ 4 ประเภท 📉 1.Common Gap หรือรูปแบบ ธรรมดา ✅ ก็ตามชื่อของ Gap ที่มักจะเกิดในราคาที่สภาวะ Sideway โดยรูปแบบ Gap นี้จะไม่มีนัยยะสำคัญ เป็นช่องว่างทั่วไป  💬 แนะนำเมื่อเกิด Common Gap ให้ปล่อยผ่านไปจะดีกว่า  2.Breakaway Gap ✅ เป็นรูปแบบที่เกิดเมื่อราคา มีการพักราคาหรือสร้างกรอบราคา หรือทดสอบแนวรับแนวต้าน แลัวราคาเกิด  Gap ที่ทะลุแนวหรือทะลุกรอบพักราคาไปเปิดแท่งใหม่นอกกรอบหรือนอกแนว นั้นทำให้การเบรคราคานั้นมีนัยยะสำคัญมากที่จะขึ้นต่อไป เพราะแสดงถึงความต้องการของผู้ในตลาดที่มีมหาศาล  แต่รูปแบบนี้ในตลาดมักจะเกิดข้อนข้างน้อย  💬 แนะนำเมื่อเกิด Breakaway Gap ให้ซื้อชื้อหรือขายตามทันที  3.Runaway Gap  ✅ จะเกิด Gap รูปแบบนี้ขึ้นเมือราคามีแนวโน้มทิศทางที่ชัดเจน ตัว Runaway Gap  จะเป็นตัวช่วยยืนยันแนวโน้วว่ามีความแข็งแรงมาก 💬 แนะนำเมื่อเกิด Runaway Gap  ให้ปล่อยผ่านไปดีกว่า เพราะว่าราคาที่เข้าบางทีอาจ