Part 16 : การบำบัดโดยสังเขป – ส่วนที่ 2 : วิสัยทัศน์ และเป้าหมาย

ในโพสต์ของผมล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้อธิบายถึงเทคนิคการเปลี่ยนแปลงที่ผมได้อ้างถึงว่าเป็นเสมือน 

“การบำบัด” สำหรับด้านจิตใจอย่างดี ซึ่งหากจะกล่าวโดยสังเขปแล้ว แนวทางอันเคร่งครัดสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้แตกต่างไปจากการบำบัดแบบพูดคุยใน ลักษณะดั้งเดิมค่อนข้างมาก อันเป็นการพูดคุยถึงสิ่งที่เข้ามาในจิตใจของบุคคลเมื่อพวกเขานึกถึงจิตวิทยา ในโพสต์ต่อจากนี้ ผมจะได้อธิบายถึงวิธีการเฉพาะอย่างบางประการ รวมถึงวิธีการใช้ในสถานการณ์การซื้อขายต่างๆ รวมถึงสถานการณ์ในชีวิตอื่นๆ ที่มีความสำคัญในแง่ของการบรรลุผลสำเร็จด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ผมยังได้กล่าวถึงในโพสต์ก่อนหน้านี้ว่า เทคนิคเหล่านี้ไม่ใช่ขั้นตอนแรกๆ ในกระบวนการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการกำหนดเป้าหมายสำหรับการเปลี่ยนแปลงนั้นดูจะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่า เพื่อเป็นการทราบถึงสิ่งที่คุณต้องการจะเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างแรก

มันไม่ง่ายเลยที่เราจะมานั่งครุ่นคิดวันแล้ววันเล่ากับความรับผิดชอบต่างๆ ทั้งในที่ทำงานและที่บ้าน อันเป็นภาพใหญ่ของชีวิตที่เกิดขึ้นเบื้องหลัง ในทุกๆ ปีเรามักยุ่งอยู่กับตัวเองและภาระงาน รวมถึงกิจวัตรประจำวันอื่นๆ เพียงเพื่อจะมาตระหนักในภายหลังว่าโอกาสดีๆ หลายอย่างได้ผ่านพ้นเราไปแล้ว

ดังนั้น คำถามข้อแรก คือ การกล่าวถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงว่า “อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง?” หรือในทางตรงกันข้าม “คุณอยากจะให้ชีวิตของคุณแตกต่างไปอย่างไร?”

คำตอบโดยทั่วไปสำหรับคำถามนี้เกี่ยวข้องกับการกำจัดหรือการลดความคิดเชิงลบ เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ เช่น “ฉันอยากหยุดความคิดในแง่ลบเหล่านี้”, “ฉันอยากรู้สึกกระวนกระวายน้อยลง” หรือ “ฉันอยากโต้แย้งให้น้อยลงในความสัมพันธ์ของฉัน” เป็นต้น แม้ว่าจะมีการตอบสนองในเชิงบวกก็ตาม แต่ก็ยังคงมีความไม่ชัดเจนที่ว่า ไม่มีใครสามารถแสดงตนออกมาได้อย่างแท้จริงเกี่ยวกับบางอย่าง เช่น “ฉันอยากรู้สึกดีกับตัวเองมากกว่านี้” หรือ “ฉันอยากจะเป็นผู้ค้าที่ดีกว่านี้”

การขาดเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง รวมถึงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับอนาคต คือ เหตุผลหลักที่เรายังคงจมอยู่กับเรื่องเล็กน้อยประจำวันแบบนี้ ซึ่งสามารถปล่อยผ่านไปได้และไม่จำเป็นที่จะต้องเอาติดไปกับตัวในวันข้างหน้า ด้วย

หากชีวิตของคุณคือผ้าแคนวาสและคุณเองก็คือจิตรกร งานที่เสร็จสมบูรณ์แล้วจะดูเป็นอย่างไร? งานชิ้นนั้นจะเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ผสมผสานแนวทางและการบูรณาการในตัวเอง หรือไม่? หรือจะเป็นการรวบรวมเองสีสันและรูปทรงต่างๆ แบบสุ่มเข้าด้วยกันโดยปราศจากความหมายหรือนัยสำคัญใด?

จิตรกรจะจับเอาวิสัยทัศน์ของตนเองลงมาแสดงบนผืนผ้าแคนวาส แล้ววิสัยทัศน์ของคุณสำหรับผ้าแคนวาสแห่งชีวิตคืออะไร? นี่คือการออกกำลังที่เป็นประโยชน์อย่างหนึ่งที่อาจช่วยให้คุณตอบคำถามนั้น ได้ ลองจินตนาการถึงความตายของตัวคุณเอง คุณได้ตายไปแล้ว และบนป้ายหลุมศพนั้นก็มีคำจารึกสำหรับไว้อาลัยคุณด้วย แล้วข้อความแบบไหนกันล่ะที่จะเขียนอยู่บนป้ายหลุมศพนั้น? อะไรคือประโยคที่สามารถอธิบายถึงสิ่งที่คุณได้ทิ้งไว้เบื้องหลังและผลกระทบ ของคุณที่เกิดขึ้นในระหว่างที่คุณยังมีชีวิตอยู่ได้? ลองจินตนาการอย่างเฉพาะเจาะจงให้มากที่สุดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณอยากจะกล่าวถึงบนป้ายหินนั้น

ตอนนี้ลองจินตนาการว่าคุณได้รับผลการทดสอบทางการแพทย์จากคุณหมอของคุณ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณเหลือเวลาที่จะมีชีวิตอยู่อีกแค่ 5 ปีเท่านั้น และไม่มีการรักษาหรือการบรรเทาใดที่เป็นไปได้สำหรับโรคร้ายของคุณ ภายใน 5 ปีนี้คำจารึกของคุณจะต้องถูกเขียนลงบนป้ายหลุมศพอย่างแน่นอน

แล้วคุณจะทำอะไรในหว่าง 5 ปีนี้ดีล่ะครับ?คุณ จะสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบสุดขั้วและทำสิ่งต่างๆ ให้แปลกออกไปจากเดิมแบบที่คุณเคยทำ หรือคุณจะแค่ทำสิ่งเดิมๆ แบบที่เคยทำอยู่แล้วแบบเร่งรีบมากขึ้น? อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการใน 5 ปีนี้เพื่อให้บรรลุตามคำจารึกบนป้ายหลุมศพในช่วงปลายชีวิตของคุณอย่างแท้จริง?

หากคุณอยากจะทำให้คำจารึกดังกล่าวแตกต่างไปจากสิ่งที่คุณกำลังอยู่ตอนนี้อย่างสุดโต่ง คุณอาจจะกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ผิด คุณจะต้องค้นหาเป้าหมายของตัวเองจากกิจกรรมต่างๆ ที่คุณจะทำให้ 5 ปีที่เหลืออยู่นี้ รวมถึงสาระสำคัญที่คุณอาจค้นพบความหมายบางอย่างในชีวิต สิ่งที่คุณอยากทำให้สำเร็จ ตลอดจนสิ่งที่คุณอยากทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์เบื้องหลังอีกด้วย

การเรียนรู้เทคนิคเหล่านี้เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตให้เกิดขึ้นเป็น ส่วนที่ง่ายมาก เพราะส่วนที่ยากกว่าคือการรู้ว่าความเปลี่ยนแปลงใดที่คุณต้องการจะให้เกิด ขึ้นจริงๆ และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดในใจคุณ ครั้งหนึ่งมาร์ค ทเวน (Mark Twain) ได้เคยแนะนำผู้คนว่า อย่าปล่อยให้ระบบการศึกษามาขัดขวางการเล่าเรียนหาความรู้ของคุณ ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะไม่ปล่อยให้ชีวิตมาขัดขวางการดำรงชีวิตอยู่ของเรา เช่นกัน

คุณคงไม่อยากเป็นบุคคลที่มานั่งเสียใจในตอนท้ายของชีวิตหรอกครับที่ได้ทำให้ผู้อื่นต้องเจ็บปวด ผ้าแคนวาสที่เต็มไปด้วยแถวสีต่างๆ ได้วางอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว สิ่งสำคัญทั้งหมดก็คือโอกาสที่ได้ช่วยสร้างความเป็นตัวตนของคุณขึ้นมา เพื่อให้พร้อมเผชิญหน้ากับช่วงสุดท้ายของความภาคภูมิใจ การเติมเต็ม และความรู้สึกที่ได้สร้างสรรค์งานศิลปะของแห่งชีวิตที่คุณได้รับนั่นเอง

ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ