How to controlling emotions trading วิธีการควบคุมอารมณ์ในการเทร ด ตอน 1 ทุกครั้งที่เราเริ่มเทรดหรือเริ่มเปิดออเดอร์ซื้อขาย สิ่งหนึ่งที่ปฎิเสธไม่ได้เลยคือ อารมณ์ อารมณ์นั้นมีหลากหลาย อารมณ์ในการเทรดก็มีหลากหลายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความลังเล ไม่แน่ใจในกราฟ ความกลัวการผิดทาง ความเสียดายหากพลาดตกรถ ความมั่นใจมากจนเกินไป ความระแวง หรือกลัวการสูญเสียการล้างพอร์ต สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาจากการเทรดทั้งสิ้น บ่อยครั้งที่เราเผลอลืมที่จะควบคุมอารมณ์ ก่อนที่จะเริ่มเทรด หรือหลังจากเทรดไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีเทคนิคที่ดี ระบบเทรดที่ทรงพลัง และบวกกับความรู้เป็นตัวช่วยซัพพอร์ตแล้วก็ตาม แต่เราก็มักจะติดอยู่กับอารมณ์ ความรู้สึกเหล่านี้ และก็ยังต้องลุ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่จะตามมาหรือที่กำลังจะเกิดขึ้นอีก วันนี้แอดจะมาแนะนำวิธีการควบคุมอารมณ์ในการเทรดกัน พยายามหลีกเลี่ยงการสูญเสีย หากคุณเทรดแล้วผิดทางหรือคัทลอสเกินระบบที่ได้วางแผนเอาไว้ ให้หยุดก่อน (การวางแผนการเทรดได้และเทรดเสียขึ้นอยู่กับระบบของแต่ละคน ) และเมื่อความสูญเสียเริ่มเกิดขึ้น อารมณ์ของคุณจะเริ่มข
บทความ
หลังจากที่เรานำเสนอ เกี่ยวกับ Take Profit และ Let run Profit ไปแล้วหลายคนก็จะสงสัยล่ะ ว่าเราควรเลือกอะไรดี วันนี้จะแนวทางการเลืองรูปแบบทำกำไรให้เหมาะกับคุณกัน Take Profit VS Let run Prof it Take Profit ✅ คือการกำหนดเป้าหมายที่ชัดนในการปิดออเดอร์ ตัวอย่างเช่น กำไรที่แนวโน้นแนวนี้ หรือ กำไร 50% ของพอร์ดปิด ข้อดี ✅ 1.ชัดเจนถ้าชนะเราได้เท่าไหร่ กำหนดได้ชัดเจน 2.จบออเดอรไวกว่า ข้อเสีย❌ พลาดโอกาสสำหรับราคา ระยะยาว ตัวอย่างเช่น ราคามันขึ้นได้ 5000บาท แต่เราปิดออเดอรไปที่ราครา 500 บาท เหมาะสำหรับใครบ้าง 😀 เหมาะสำหรับสำหรับเดย์เทรด ไม่ว่าจะเป็นสาย Swing trader / scalping trading / หรือ ระบบที่มีการกำหนดการเข้าออกที่ชัดเจน
การหยุดชะงักทางเทคโนโลยีในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมาได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่เราสื่อสาร พูดคุย ซื้อสินค้า และทำธุรกิจ เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ในอุตสาหกรรมบริการทางการเงินได้ขัดขวางวิธีที่ผู้บริโภคมีปฏิสัมพันธ์กับเงินของพวกเขา สิ่งที่พวกเขาคาดหวังจากสถาบันการเงิน และวิธีที่องค์กรเหล่านั้นดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้กระบวนการง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดข้อผิดพลาด ปรับปรุงการสื่อสาร และเปลี่ยนวิธีที่ผู้บริโภคมองเห็นและโต้ตอบกับเงิน นอกจากการเงินแล้ว อุตสาหกรรมเกมก็ยังเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีค่อนข้างมาก เช่น ตัวสร้างเลขสุ่ม แนวโน้มของเทคโนโลยีเกิดใหม่ในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน สถาบันการเงินสามารถได้รับประโยชน์อย่างมากจากเทคโนโลยีเหล่านี้ เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน เช่น แชทบอทและระบบอัตโนมัติ ช่วยลดชั่วโมงการทำงาน ปรับปรุงคุณภาพของความสัมพันธ์กับลูกค้า และปรับปรุงผลกำไร แม้ว่าผลกระทบของเทคโนโลยีใหม่ในบริการทางการเงินจะแตกต่างกันไปตามหน้าที่ คุณมีแนวโน้มที่จะปรับตัวและได้รับประโยชน์อย่างมากจากสิ่งเหล่านี้
Passive income > วิธีทำเงินจาก Binance EP.1 วงการแห่งโลกคริปโตที่สาวกเทรดเดอร์คริปโตทั้งหลายต้องมีกันเกือบทุกคน นั่นก็คือ โบรกเกอร์ Binace เพราะ Binance คือกระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีปริมาณการซื้อขายเหรียญรวมกันมากกว่า 40,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และที่สำคัญเขามี platform การใช้งานภาษาไทยด้วยแม้ว่าจะมีข่าวลือ หนาหูออกมาว่าBinance จะนำภาษาไทยออกไปก็ตามแต่ เพราะผิดกฎกติกาหรือเงื่อนไขบางอย่างในประเทศไทย แหมไม่เห็นจำเป็นต้องง้อนี่นา แต่แอดก็ยังแอบเห็นล่าสุด ยังคงมีภาษาไทยอยู่นะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า จากการที่เราโลดเล่นอยู่ในโลกและกระดานซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดนี้แล้ว แน่นอนว่า มันก็คือการซื้อๆขายๆนั่นแหละ เพื่อทำกำไร แต่ๆๆๆๆๆๆ เดี๋ยวนี้ในโลกคริปโต ไม่ได้มีแค่การเก็งกำไรเพียงอย่างแล้วนะเขามีบริการที่หลากหลายมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะปล่อยกู้ ยืม ออมทรัพย์ กินดอกเบี้ย ขุด เจาะ บลา บลา บลา เขามีหมดเลย ไม่ต่างอะไรจากธนาคารเลยหละ แต่แจ่มกว่าเยอะ แล้วการจะหา Passive income จาก Binance ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปมา!!! เรามาดูกัน 1.ฝากเหรียญคริปโตเพื่อ
วันนี้เราจะหาแนวทางการตั้ง TakeProfit นั้น ว่าในตลาดนั้นเขานิยมใช้รูปแบบการใหนในการกำหนดกำไร เพื่อที่จะได้นำมาปรับใช้กับพอร์ตของเรา TakeProfit คืออะไร💸 ถ้าพูดง่ายๆก็คือ การตั้งเป้าหมายกำไร เพื่อที่เราจะปิดออเดอร์ และสามารถเอาเงินออกมาใช้ได้ โดยแนวทางการตั้ง TakeProfit ก็มีหลายรูปแบบดังนี้ 1.คิดเป็นเปอรเซ็น💯 เป็นรูปแบบที่ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย โดยส่วนใหญ่ก็แนวทาง RRR หรือ อัตราส่วนชนะต่อแพ้ มากำไร ตัวอย่างเช่น เรายอดขาดทุนได้ 2 เปอรเซ็นของพอร์ต แต่เราคาดหวังกำไร 5 เปอรเซ็น หรือ ยอมขาดทุน 1 บาทเพื่อกำไร 5 บาทเป็นต้น 2.ใช้แนวรับแนวต้าน ➖ น่าจะเป็นรูปแบบที่นินมมากที่สุดเพราะเป็นอะไรที่ชัดเจน เพราะวิ่งไปเพื่อทดสอบแนวรับแนวต้าน นั้นจึงใช้แนวเป็นตัวกำหนด TakeProfit 3.fibonacci retracement📍 ก็เป้นรูปแบบหนึ่งที่นิยมใช้กัน โดยใช้แนว ของ fibonacci retracement ในการกำหนด TakeProfit ตัวเลขที่นิยมใช้ก็ 168 กับ 261 4.ใช้ TSL แล้วปล่อยราคา let profit run 💪 Trailing Stop การปรับเส้น stoploss ขึ้นไปเหนือแนวราคา ออเดอร์ เพื่อป้องกันกำไร โดยปรับเลือนเส้น tsl ขึ้นไปเรื่อยๆ จะทำให้ได้เก็บกำไรได้เรื้อ
เทรด EA กับ AI ความเหมือนที่แตกต่าง EA หรือ Expert Advisors หรือเรียกแบบบ้าน ๆ ว่า bot เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการเทรดอัตโนมัติ โดยตั้งค่าให้เทรดตามที่เราตั้งกลยุทธิ์เอาไว้ ว่ามีเงื่อนไขแบบไหน โดยที่เราไม่ต้องมานั่งเฝ้ากราฟเองทั้งวันทั้งคืนเพื่อดูว่ามันเข้าเงื่อนไขหรือยัง เข้ายัง เอ๊ะ หรือยังไม่เข้า อะเนาะ ส่วนมากนิยมใช้ใน MT4 หรือ MT5 ซึ่งการทำงานนั้น ผู้ใช้จะต้องทำการ Setting ค่าต่าง ๆเอง จากนั้น EA ก็จะเริ่มทำการเทรดตามที่ตั้งค่าเอาไว้ ดังนั้นการใช้งาน EA มนุษย์จะเป็นผู้ควบคุม 100% ข้อดี - เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาเฝ้าหน้าจอ หรือหาจุดเข้าไม่เก่งก็สามารถให้ EA ช่วยจัดการเข้าๆออกๆ ออเดอร์แทนเราได้เลย ข้อเสีย - เงื่อนไขบางตัวไม่มีการอลุ่มอล่วย ทำให้เกิดการบัคของราคา หรือการเทรดโอเว่อร์ลอท เรายังต้องลุกขึ้นมาดูเช็คกราฟอยู่เป็นระยะๆ เพราะมันอาจผิดทางแล้วใส่ออเดอร์ รัวๆๆๆ จนโอเว่อร์ สุดท้ายก็ล้างตามระเบียบ - เรายังต้องคอยควบคุมEA อยู่ ด้วยการปิดมือหากผิดทาง หรือเกิดสัญญาณหลอก
หากราคาเทรดทองคำหรือซื้อทองคำแท่งมาสักระยะ เราก็มักจะผ่านหูมาว่า ทองคำ เป็นเหมือน หลุมหลบภัย สำหรับเหตุการที่ไม่ค่อยดี หรือ ราคาทองคำก็มักจะวิ่งตรงกับข้ามเศรษกิจ ซึ่งมันก้จะมีเหตุผลดังนี้ ทองคำ ทำไม ? ถึงเป็นหลุมลบภัย 😨 สาเหตุที่มันเป็น หลุมลบภัย ก็เพราะความสากลของมัน ที่ทั่วโลกเห็นทองคำมีค่า ยิ่งกว่าเงินดอลลาร์ ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะไม่สามารถใช้เงินดอลลาร์ซื้อของในบางประเทศ แต่คุณสามารถใช้ทองคำแลกของนั้นได้ นั้นจึงทำให้ทองคำ สามารถที่ไปใช้จ่ายซื้อของประเทศใหนก็ได้โดยที่ไม่ต้องแปลงค่าเงิน และสภานะมันเป็นของแข็งและเก็บใว้ง่ายกว่าเก็บธนบัตร ฉนั้นเวลาสงครามใหญ่อย่างสงคลามโลก นอกจากซื้อของอาหารเก็บทุนใว้ก็มักจะซื้อทองคำเก็บใว้ และนั้นก็อาจเป็นจุดเริ่ม ของการเรียกทองคำว่า หลุมลบภัย โดยเหตุที่จะทำให้ราคาทองคำขึ้น 📈 ก็มีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น สงคราม การแพร่ระบาด หรือแม้กระมั้ง เศรษฐกิจ ข่าวสำคัญ ต่างๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน โควิค ระบาด💥 ทองก็มีการทำราคาสูงสุดในประวัติการณ์มาแล้ว เพราะคนเริ่มซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัยเป็นต้น หรือแม้กระทั้ง การปรับดอกเบี้ยของ fed ก็ส่งผลต่อกเคลือ
VWAP อินดิเคเตอร์สำหรับมืออาชีพ หนึ่งใน Indicator ทรงพลังอีกตัวที่น่าสนใจ สำหรับสายเดย์เทรด Intra Day trade และ Scalping (เทรดสั้น) นั่นก็คือ (VWAP) หรือ ชื่อเต็มๆว่า Value Weighted Average Price ซึ่งเป็นอินดิเคเตอร์ที่มีใช้มานานแล้ว แต่บ้านเราน่าจะไม่ค่อยคุ้นหูหรือนิยมสักเท่าไหร่ บางคนก็ว่าใช้ยาก บางคนก็บอกว่าเหมือน EMA นั่นแหละ แต่มันมีความแตกต่างและพิเศษกว่านั้น มา แอดจะมาเล่าให้ฟัง Value Weighted Average Price (VWAP) คือ Indicator ที่แสดงราคาเฉลี่ย โดยใช้ราคาจริงของสินทรัพย์มาคำนวณกับปริมาณการซื้อขาย (Volume) ลักษณะคล้ายกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) เหมาะกับการใช้ในระยะสั้นๆ การเทรดแบบสไนเปอร์ หรือ Scalping นี่แหละ เหมาะยิ่งนัก - VWAP มีหลักการในการดู เส้นค่าเฉลี่ยในช่วง 1 วัน แต่ต้องเข้าใน ทามเฟรมย่อยลงมาอีก - VWAP ต่างจาก MA ตรงที่ MA ไม่ได้คำนึงถึงปริมาณในการซื้อขาย แต่ VWAP ให้น้ำหนักที่ราคาในแต่ละวัน และปริมาณซื้อขายที่เกิดขึ้นในวันนั้นๆด้วย พูดง่ายๆคือเร็วกว่า ชัดเจนกว่านั่นเอง จะให้ดีต้องดู price action ประก
Confidence & Fear เรียนมาก็เยอะ เข้าคอร์สมาก็แยะ แต่ทำไมยังเทรดขาดทุน???? 👉 หลายๆคนมักจะเข้าใจว่ายิ่งศึกษาเยอะ เรียนเยอะๆ เข้าคอร์สอบรมมากๆหรือรวมไปถึงการทำการบ้านหนักๆ มักจะทำให้เทรดเก่งและประสบความสำเร็จในที่สุด แต่.....แล้วทำไมเรายังขาดทุนอยู่ ??? ยังเทรดเสียอยู่ ??? 👉 จากการที่พยายามอ่านหนังสืออย่างหนัก ตามไล่ล่าหาที่เรียนจากอาจาร์ยเก่งๆสารพัดที่ ด้วยความหวังที่ว่าสักวันหนึ่งเราจะพบกับสุดยอดวิชาขั้นเทพ เทรดยังไงก็ไม่มีวันแพ้ ยิ่งรู้มากก็ยิ่งกลัว 👉 สิ่งนี้แหละที่กำลังทำลายชีวิตการเทรดของคุณอยู่ เพราะอะไรหน่ะหรือ ยิ่งรู้มาก ก็ยิ่งเป็นเหมือนการสร้างเกราะกำแพงแห่งความกลัว เพราะโดยปกติทั่วไปแล้ว มนุษย์เรามักหาสิ่งดีๆมาเสริมเพิ่มเติมในสิ่งที่ตัวเองขาดหรือไม่เคยมี และความกลัวก็เป็นตัวบ่อนทำลายระบบเทรดและความมั่นใจของคุณนั่นเอง 👉 การเรียนรู้มากๆเป็นสิ่งที่ดี แต่หากมันมากเกินไป แทนที่จะช่วยเพิ่มเติม เสริมให้เราได้ประโยชน์มากขึ้นจากการเทรด กลับกลายเป็นแรงขับให้เกิดความกลัว และสับสน แต่ด้วยความที่อยากไปต่อให้สุด คุณก็จะเทร
ด้วยการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในสังคมปัจจุบัน การที่เราจะหาอาหารที่ครบ 5 หมู่ นั้นก็แถบจะเป็นเรื่องยากมาก เมือเราได้รับสารอาหารที่ไม่พอ ก็จะสงผลต่อการทำงาน หรือมีผลต่อสูขภาพระยะยาว และสิ่งที่ทุกคนมองข้ามไป นั้นคือสมอง ถ้าสมองไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้สมองเรานั้นทำงานได้เต็มที่ และยิ่งอาชีพที่ต้องการสมาธิสูงอย่างการเทรดก็อาจจะส่งผลต่อการตัดสินในการเข้าซื้อขายได้ ถ้าสมองของเราไม่พร้อม วันนี้จึงแนะนำอาหารสมองที่ช่วยเพิ่ม สมาธิและบำรุงสมอง เพื่อเพิ่มประสิธิภาพในการเทรด ทำไหม ? ต้องกินหารเสริม จริงๆ แล้วเราไม่ต้องกินอาหารเสริมก็ได้ ถ้าเราได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนต่อ 1 วัน แต่ ในปัจจุบันนั้น อาหารส่วนใหญ่ไม่ได้ประกอบด้วย สารอาหารที่ครบถ้วน เราจึงต้องอาหารเสริมเข้ามาเติมในส่วนที่ขาดไป 1.Fish Oil น้ำมันปลา น้ำมันปลา กรดไขมันโอเมก้า 3 อีพีเอและดีเอชเอ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและการทำงานของสมอง และทักษะการคิดและการปฏิบัติที่ดีขึ้น แถมยังช่วยลดความเครียดหรือไมเกรนให้ดีขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้น้ำมันปลายังจัดอยู่ในนำมันที่ดีต่อร่ายกาย 2.วิตามิน B1, B2, B3,
Tricks BUY&SELL เคล็ดลับการเข้า-ออกออเดอร์ หลายครั้งหลายครา ปัญหาในการเข้าออเดอร์ มักเป็นปัญหาใหญ่เสมอ สำหรับชาวเทรดเดอร์ หลังจากที่ศึกษาการอ่านกราฟแล้ว วิเคราะห์ทิศทางแนวโน้มก็แล้ว แต่สุดท้าย ก็กลับมาที่คำถามเดิมว่า แล้วเข้าตอนไหนดีละ ???? เป็นกันเยอะมาก !! มา แอดจะมาเล่า มาแชร์ให้ฟัง 1. ขา BUY - SELL (ได้ทั้งเทรดสั้นและเทรดยาว) หากเราเริ่มวิเคราะห์กราฟแล้ว อ่านกราฟเป็นแล้ว แน่นอน ว่าน่าจะตีเทรนไลน์เป็นด้วย หรือบางคนก็ใช้อินดิเคเตอร์เข้ามาช่วยด้วยแน่นอน หลักๆเลยที่เราต้องมี คือ - แนวรับแนวต้าน มีไว้ทำไม? เส้นนี้แหละ เอาไว้เข้า-ออก ออเดอร์ละ = รอกราฟแท่งเทียนมาเทสราคาที่จุดแนวรับแนวต้าน แล้วรอการเปลี่ยนแท่ง รอดูสัญญาณการเปลี่ยนแท่งนี่แหละ ถ้ารับอยู่ ก็ขึ้นต่อ ถ้ารับไม่อยู่ ก็เบรคแตก นั่นคือ ราคาเปลี่ยนเส้นทางการเดินใหม่แล้วนะ Tricks หากเฝ้ามองกราฟที่ TF 1H หรือ 4H ต้องรอให้แท่งแรกแตะเส้นแนวรับ-ต้านก่อน จากนั้นค่อยรอแท่งที่สอง เพื่อยืนยันทิศทาง( แสดงว่าแท่งนี้ก็ยังต้องรอนะ ) แท่งที่สาม จึงจะเข้าออเดอร์ได้ วิ่งไปทางไห