เจาะลึก ความแตกต่างระหว่าง การลงทุน VS การพนัน ถ้าพูดถึงเรื่องการเงิน หลายคนคงจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า " การลงทุนในตลาดหุ้นก็เหมือนกับการพนันที่คาสิโน " จริงอยู่ที่การลงทุนและการพนันมีทั้งความเสี่ยงและทางเลือก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเสี่ยงของเงินทุนโดยหวังผลกำไรในอนาคต แต่การพนันจะเป็นกิจกรรมระยะสั้น ๆ ในขณะที่การลงทุนในตราสารทุนสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต นอกจากนี้ยังมีผลตอบแทนที่คาดหวังในเชิงลบแก่นักพนันโดยเฉลี่ยและในระยะยาวด้วย ในทางกลับกัน การลงทุนในตลาดหุ้นมักจะให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยที่คาดหวังในระยะยาว การลงทุน คืออะไร การลงทุนคือการจัดสรรเงินทุนหรือมอบเงินทุนให้กับสินทรัพย์ เช่น หุ้น โดยคาดหวังให้สร้างรายได้หรือผลกำไร ความคาดหวังของผลตอบแทนในรูปของรายได้หรือการแข็งค่าของราคาเป็นสมมติฐานหลักของการลงทุน ความเสี่ยงและผลตอบแทนเป็นของคู่กันในการลงทุน ความเสี่ยงต่ำหมายถึงผลตอบแทนที่คาดหวังต่ำ ในขณะที่ผลตอบแทนที่สูงขึ้นมักจะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น นักลงทุนต้องตัดสินใจเสมอว่าต้องการเสี่ยงเงินมากแค่ไหน บางคนลงทุนประมาณ 2-5% ของฐานเงินทุนในการซื้อขายใ...
- Home
- About
- _Blockdit Our
- _Tradingview Our
- หมวดหมู่
- _ความรู้ทั่วไป
- _การวิเคราะห์พื้นฐาน
- _จิตวิทยาการเทรด
- _แนวคิดการเทรด
- _เทรด forex ยังไงให้ยั่งยืน
- _บุคคลที่ประสบความสำเร็จ
- _เศรษฐกิจโลก
- _Special Post
- _ไอเดียทำเงิน
- ทฤษฎี
- _รูปแบบแท่งเทียน
- _ElliottWave
- _Fibonacci
- _Fundamental
- _Harmonic
- _Price Action
- เครื่องมือ
- _ระบบเทรด
- _Expert Advisor
- _Indicators
- Crypto
- _Bitcoin
- _NFT
- _DeFi
Buscar este blog
บทความ
-
Author will
เชื่อได้เลยว่าส่วนที่เทรดในตลาดนั้นก็จะเลือกใช้กราฟแท่งเทียนหรือ Candlestick แต่เรามีอีกหนึ่งรูปแบบแสดงผลก็เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศมาก นั้นกราฟประเภท Bar Chart ซึ่งเราก็จะไปหาความแตกต่าง ระหว่าง Candlestick และ Bar Chart กัน Bar Chart แตกต่างกับ Candlestick อย่างไร 😀 Bar Chart เป็นรูปแบบกราฟที่แสดงผลราคาในอดีตที่สามารถบอกราคาปิด ราคาเปิด ราคาสูงสุด และ ราคาต่ำสุด ซึ่งจะเหมือนกับ Candlestick แต่สิ่งที่แตกต่าง คือ Bar Chart ไม่มีตัวเนื้อแท่งเทียน มีแค่ขีดให้รู้ว่าปิดและเปิดที่เท่าไหร่ แต่จุดเด่นของ Bar Chart นั้นการมองเห็นราคาสูงสุดและต่ำสุดได้ชัดเจนกว่า เพราะไม่มีตัวเนื้อเทียนมาบนบังกราฟ ถ้าเปิดใน meta trader 4 ก็จะเห็นขนาดเส้นของ Bar Chart ใหญ่กว่าหางของ Candlestick 😀ส่วน Candlestick ก็อย่างที่ใช้งานกัน สามาถเห็นเนื้อเทียน ทำให้เรานั้น เห็นราคาปิดและปิดของราคาได้ชัดเจนกว่า Bar Chart นั้นจึงทำให้คนส่วนใหญ่นั้นเลือกเทรด Candlestick มากว่า Bar Chart นั้นเอง แต่สำหรับคนที่เทรดระยะยาวหรือต้องการลด อคติต่อกราฟ หร...
-
Author FOREX FOR YOU
เทคนิคการใช้ RSI+TDI บอกจุดกลับตัว หากคุณเป็นเทรดเดอร์สายเกา (Scalping) แอดฟันธงได้เลยว่าหลายๆคนน่าจะต้องรู้จัก TDI หรือเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วแน่ๆ แต่หากคนไหนยังไม่เคยได้ยินหรือลองใช้เจ้าอินดี้ตัวนี้แล้วละก็ ต้องลองเอาไปใช้ดูนะ เน้นการเข้าเร็วออกเร็ว ไม่ชอบถือออเดอร์นานๆ ต้องตัวนี้เลยแหละ มา มาทำความรู้จักกันดีกว่า TDI หรือชื่อเต็มว่า Traders Dynamic Index คือ อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคสำหรับสาย Scalping อินดิเคเตอร์ TDI ใช้สำหรับหาความเชื่อมั่นของตลาด ความผันผวนของตลาด และโมเมนตัมได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งข้อได้เปรียบของการรวมคุณสมบัตินี้เอาไว้ ทำให้อินดี้ตัวนี้ค่อนข้างจะเป็นที่นิยม สำหรับสายเทรดสั้น Scalping นั่นเอง รูปแบบการเทรด TDI ตัวนี้ เน้นรูปแบบแท่งเทียนการกลับตัวแถวแนวรับแนวต้าน และเข้าเร็วออกเร็ว กำไรก็ปิด ไม่ต้องถือนาน จะ Scalping หรือ Sniper ก็ว่ากันไป ใช้ได้...
-
Author will
เชื่อได้ว่าหลายคนที่เทรด forex นั้นจะต้องเคยเจอข่าวที่จะส่งผลต่อกราฟของราคา forex และหนึ่งในข่าวที่แรงที่สุดนั้นก็คือ ข่าว Non Farm ซึ่งวันนี่เราก็จะไปทำความรู้จักและวิธีการตีความหมาย รวมไปถึง เหตุผลที่เราไม่ควรเทรดข่าวนี้ Non-Farm คืออะไร 🚩 Non-Farm Payrolls หรือในชื่อย่อว่า NFP การรายงานอัตราการจ้างงานของสหรัฐฯ ไม่รวมอุตสาหกรรมภาคเกษตร ประกาศออกมาสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ถ้าตัวเลขสูงกว่าตัวเลขที่คาดการ์ณใว้ ก็แสดงว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีขึ้น แต่ถ้าตัวเลข น้อยกว่า คาดการ์ณใว้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ แย่ลง และเนื่องด้วย USD เป็นทุนสำรองแทบจะทุกประเทศ ฉนั้นมันก็จะสงผลต่อราคาแลกเปลี่ยน จึงทำให้ราคากราฟทั้งตลาดมีการผันผวนหลังจากประกาศตัวเลข โดยจะประกาศตัวเลข วันศุกร์แรกของเดือน เข้าไปดูได้ที่ forexfactory การตีความหมาย Non-Farm Payrolls 🔥 ตัวเลข Non-Farm Payrolls สูงขึ้น ตัวเลขออกมาสูงกว่าเดิม USD มักจะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ราคาทองคำจึงมีแนวโน้มปรับตัวต่ำลง และผลกระทบต่อคู่เงินที่มี USD อยู่ข้างหน้า เช่น USDJPY, USDCHF : ราคามีจะแนวโน้ม ปรับตัวสู...
-
Author FOREX FOR YOU
โบรกเกอร์ A book & B book คืออะไร??? หลังจากการเทรดฟอเร็กซ์ (Forex) เริ่มกลายเป็นที่นิมยมของคนไทย สิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ในการเลือกโบรคเกอร์ นั่นก็คือความแตกต่างของโบรคเกอร์นั่นเอง และผลประโยชน์ที่เราควรจะได้รับจากโบรกเกอร์กัน จากในหน้าโฆษณา ตามสื่อต่างๆ จะเห็นได้ว่ามีโบรคเกอร์จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ให้เราได้เลือกสรร ในการเข้าเป็นสมาชิกเพื่อเทรดทำกำไร แต่หลายคนยังสับสนระหว่างโบรคเกอร์ A- Book กับ B-Book ว่าคืออะไร เป็นชื่อของโบรคเกอร์หรือ??? ก็ไม่ใช่ มา...วันนี้แอดจะมาเล่าให้ฟัง A-Book และ B-Book คืออะไร? A- Book และ B-Book เป็นคำเรียกลักษณะการซื้อขายของโบรกเกอร์ โดยผ่านเฟลตฟอร์มของโบรคเกอร์แต่ละเจ้านั่นแหละ คำว่า A- Book กับ B-Book ก็เป็นเหมือนการจัดเกรด แยกความแตกต่างของโบรกเกอร์ โบรกเกอร์ A-Book คือ โบรกเกอร์ที่ถูกกฎหมาย 👉...
-
Author FOREX FOR YOU
Self awareness แค่รู้จักและเข้าใจตัวเอง ก็สามารถเข้าใจกราฟได้ EP.2 👀 จากความเดิมตอนที่แล้ว เราได้เริ่มรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของตัวเองมากขึ้นแล้ว สเตปต่อไป สำหรับการทำความรู้จักตนเองให้มากขึ้น ก็คือการพัฒนาตนเอง มา วันนี้เราจะมาพัฒนาตนเองไปพร้อมๆกันนะ ต้องรู้จักใจตัวเองให้มากขึ้น ทุกวันนี้น้อยคนนักที่จะบอกว่าไม่รู้จักใจตัวเอง เพราะคนส่วนใหญ่ทุกคนก็วิ่งหาความสุขทั้งนั้น ทำงานก็อยากมีเงิน อยากมีความมั่นคงในชีวิต อยากมีความสุข แต่สิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นต้องยอมรับนั่นก็คือ ความทุกข์มักมาพร้อมกับความสุขเสมอ แต่เชื่อไหมว่าคนส่วนใหญ่มักยอมรับแค่ความสุขเท่านั้น แต่ความทุกข์กลับไม่ยอมรับสะงั้นแหละ เพราะความทุกข์กว่า 90 เปอร์เซ็นต์มาจากจิตใจล้วนๆ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเรารู้ว่าเราเป็นคนฟุ้งซ่าน ชอบกังวลกับอนาคต แสดงว่าเราเป็นคนชอบคิดถึงแต่เรื่องในอดีต ต้นเหตุของทุ...
-
Author will
หากใครเทรดหุ้นมาหรือเทรดมาสักระยะ ก็เคยได้ยิน คำว่า เม่าติดดอย เป็น เม่ามือใหม่ ซึ่งคำนี้ก็มักจวนอยู่ในตลาดมานาน ซึ่งวันนี้มาทำความรู้จักกัน ทำมัยถึงเรียกว่า เม่า เม่า คืออะไร 🐞 เม่าคือแมลงที่จะออกมาในตอนกลางคืน และมีอายุสั้น และมักชอบแสงไฟ ด้วยลักษนะชีวิตของมัน เราจึงเอามาผูกกับคนเล่นหุ้นว่า เม่า คนที่เป็นเม่าในตลาดหุ้นคือ คนที่ขาดทุนจากการเข้าซื้อในช่วงเวลาที่เป็นขาขึ้นอย่างรุนแรง เปรียบเสมือนกองไฟที่ลุกโซน แต่โดยราคาเทขายจนตัวเองติดดอย เราเรียกว่า เม่าติดดอย เป็นต้น เปรียบเหมือน เม่าบินเข้ากองไฟ 🐞 โดยส่วนใหญ่เม่าจะชอบอะไรที่แรงๆ และเข้าโดยตามคนอื่น โดยไม่ได้ดูพื้นฐานของหุ้นหรือพื้นฐานของสินค้านั้นเลย ซึ่งคำว่า เม่าใน ปัจจุบันก็นำมาใช้ นักลงทุนรายย่อย ซึ่งคนที่สำเร็จจากการเป็นนักลงทุนรายย่อยก็จะถูกเรียก ว่า พญาเม่า สินค้าอะไรบ้างที่มีโอกาศที่จะทำให้เราเป็นเม่า 🐞 1.หุ้นปั้น เมื่อนักลงทุน ล่อเม่าโดยหุ้นที่ราคาไม่สูงและพื้นฐานไม่ดี จนราคาหุ้นสูงมากๆๆ จนล่อเม่าได้สำเร็จ หลังจากนั้น เทขายอย่างรุนแรง จนทำให้เม่าขาดทุนหนัก ...
-
Author FOREX FOR YOU
Self awareness แค่รู้จักและเข้าใจตัวเอง ก็สามารถเข้าใจกราฟได้ EP.1 👀 จุดเริ่มต้นของปัญหาเกิดจากการไม่เข้าใจ แต่.....หากเราลองเปลี่ยน เพียงแค่ รู้จักและเข้าใจตัวเองให้ได้เสียก่อน แล้วจะเราจะเริ่มเข้าใจสิ่งอื่นๆเพิ่มมากขึ้น แล้วเราจะมีความสุขขึ้นอีกเยอะ จงลงมือทำตั้งแต่วันนี้มาดูกันว่าคุณรู้จักและเข้าใจตัวเอง มากน้อยแค่ไหนกัน แล้วมันสามารถพัฒนาต่อยอดไปสู่การเข้าใจกราฟได้ในอนาคตได้อีกด้วยยังไง ลองมาอ่านกันดู รู้จักตัวตนที่แท้จริง ต้องเข้าใจว่ามนุษย์ทุกคนมีความแตกต่างกัน ไม่มีใครเหมือนกันเลย วิธีการเรียนรู้ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน คนบางคนเรียนรู้ผ่านการอ่าน บางคนเรียนรู้ผ่านการฟัง และบางคนเรียนรู้ผ่านการกระทำ ยกตัวอย่างเช่น แม่กับลูก ที่มีสายเลือดเดียวกันแท้ๆ แต่ยังไม่เหมือนกัน คนเป็นแม่เรียนรู้ผ่านการอ่านเขียน แต่พอเห็นลูกไม่อ่านหนังสือ กลับต่อว่าลูกว่า ทำไมจึงไม่อ่านหนังสือ นั่นเป็นเพราะ ลูกเรีย...
-
Author will
สำหรับหลายคนที่เป็นเทรนเดอรมือใหม่แล้วเทรดมาสักพักแล้วไม่ถูกใจกับการแสดงผลกราฟของ MetaTrader 4 วันนี้่เราจะนำเสนอวิธีการเปลียนสีสันของกราฟให้ตรงใจเรา วิธีการปรังแต่งสีกราฟบน MetaTrader 4 🔧🔨 หลังจากที่เปิดโปรแกรม MetaTrader 4 เราก็จะเห็นหน้าตากราฟที่เป็นตั้งค้าเบื้องต้น ของโปรแกรม MetaTrader 4 คลิกขวาบนกราฟ และเลือก properties หรือกด F8 บนคีย์บอร์ด ก็แสดงหน้าจอสำหรับปรังแต่งกราฟ โดยเราสามารถเลือกปรับแต่งที่เราต้องการดังนี้ แค่นี้เราก็จะได้กราฟที่เราต้องการ การตั้งค่าให้เหมาะกับเรา ก็จะช่วยในการเทรดได้ดีมากขึ้น มองง่ายไม่ต้องเพ่งสายตามากเกินไป สนับสนุนบทความนี้ด้วยการส่งเพชร 💎ส่งดาว🌟 และกดติดตาม ใน Blockdit ของเรา https://www.blockdit.com/posts/62198530e901d228dfc4928b
-
Author FOREX FOR YOU
Hedging อย่างไรให้ได้เปรียบ เทรดเดอร์หลายๆคนมักประสพกับปัญหาการเทรดผิดทางมานักต่อนักแล้ว โดนลาก ติดดอย แล้วก็ทำอะไรไม่ถูก ไปต่อไม่เป็น หนักเข้าก็เครียดกังวล แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว วันนี้แอดจะมาแชร์วิธีการทำเฮจจิ้ง หรือการป้องกันความเสี่ยงและป้องกันการขาดทุนให้ เอาไปลองฝึกใช้กันนะ Hedging คือ การเทรดเพื่อป้องกันความเสี่ยง หลักการที่ใช้เทรดคือ การเข้าซื้อและขายในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน ในจำนวน Lot ที่เท่ากัน การเทรดในลักษณะนี้เกิดขึ้นเนื่องจากไม่สามารถเดาทางหรืออ่านกราฟให้ขาดได้ ว่าจะไปทางไหนดี การออกออเดอร์ทั้ง บาย และ เซล จึงเปนทางเลือกที่ดีในการเทรดอีกทางเลือกหนึ่ง แต่บางคนก็ใช้วิธีการเฮจจิ้ง เพื่อเป็นการแก้พอร์ตก็ได้ด้วยเช่นกัน เช่นในช่วงที่โดนลาก หรือเทรดผิดทางแต่ไม่อยากตัดขาดทุน จึงเปิดออเดอร์อีกฝั่งไว้ในขนาดที่เท่ากัน จะเป็นการรักษาการขาดทุนไม่ให้มีความเสียหายมากยิ่งขึ้น และเมื่อกราฟกลับมาถูกทางจึงทำการปิดออเดอร์ไป วิธีการทำ Hedging ...
-
Author will
สำหรับคนที่เทรดคลิปโต นั้น จะต้องเคยเจอ การเหตุการเผาเหรียญ หรือ Coin Burn ซึ่งสำหรับมือใหม่ก็อาจจะงง เผาทำไม เผาแล้วได้ราคาอะไร ราคาขึ้นจริงหรอ ไปหาคำตอบนั้นไปพร้อมกัน Coin Burn เผาเหรียญ คืออะไร 🔥 Coin Burn หรือ เผาเหรียญ คือการลดจำนวนเหรียญในตลาดให้น้อยลง เพื่อลดการ Supply หรือ ปรับสมดุลของเหรียญ โดยเหตุผลของการเผานั้นก็ต้องขึ้นกับจุปประสงของผู็พัฒนาเหรียญ ยกตัวเช่น เหรียญตัวหนึ่งมีอยู่ 10,000,000 ในตลาด แต่ผู้พัฒนาเผาเหรียญ จนเหลือเหรียญในตลาดที่เทรดกันเหลือเพียง 5,000,000 เป็นต้น วิธีการเผาเหรียญ 🔥 การเผาเหรียญทำได้โดยการโอนเหรียญออกจากระบบไปยัง Wallet ที่ไม่มีใครสามารถเข้าถึงได้ แม้แต่บริษัทเจ้าของเหรียญเอง หรือผู้พัฒนาก็ตาม เหมือนการ “ขังลืม” เอาไว้ และถามว่าเชื่อถือได้แค่ใหนว่าไม่มีใครเข้าได้ เชื่อถือได้่ เราสามารถที่ตรวจสอบได้ผ่าน Blockchain เผาแล้วเหรียญจะราคาขึ้นใหม 📈 ขึ้นอยู่กับความต้องการในตลาด แต่ส่วนใหญ่ราคาก็ปรับขึ้นตามอุปสงที่น้อยลง แต่อุปทานเท่าเดิม ราคาก็จะขึ้นเป็นเรื่องปกติ ตัวอย่างเหรียญที่...
-
Author FOREX FOR YOU
การเทรดกลยุทธ์ Arbitrage Arbitrage คำนี้หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินกันมาหนาหูอยู่เหมือนกัน แต่น้อยคนนักที่จะเลือกเล่นกลยุทธิ์นี้ เพราะอะไรหน่ะหรือ??? จะบอกว่ายากก็ยาก แต่จะบอกว่าง่ายก็ง่ายอยู่นะ เอาละ เรามาดูกันดีกว่าว่ามันเป็นยังไง อย่าเพิ่งส่ายหัวและถอดใจนะ นี่เป็นกลยุทธิ์ที่ทำกำไรได้มากเลยทีเดียวเชียว Arbitrage (อาร์บิทราจ ) คือ กลยุทธ์การทำกำไรรูปแบบหนึ่ง โดยทำกำไรจากช่องว่างของราคา และต้องเป็นการทำกำไรจาก 2 ตลาดขึ้นไปในสินทรัพย์ประเภทเดียวกัน ที่คือกฎหลักเลย ที่จำเป็นต้องจำให้ขึ้นใจ และอย่าลืมสังเกตุอีกนิดว่าราคาที่ซื้อขายในตลาดนั้นจะต้องไม่มีราคากลางที่ตายตัวหรือถูกกำหนดเอาไว้ สมมุติว่า นาย A ขายทองคำอยู่ที่บาทละ ...