โบรกเกอร์ A book & B book คืออะไร???

โบรกเกอร์  A book & B book คืออะไร???

            หลังจากการเทรดฟอเร็กซ์ (Forex) เริ่มกลายเป็นที่นิมยมของคนไทย สิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ในการเลือกโบรคเกอร์ นั่นก็คือความแตกต่างของโบรคเกอร์นั่นเอง และผลประโยชน์ที่เราควรจะได้รับจากโบรกเกอร์กัน

            จากในหน้าโฆษณา ตามสื่อต่างๆ จะเห็นได้ว่ามีโบรคเกอร์จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ให้เราได้เลือกสรร ในการเข้าเป็นสมาชิกเพื่อเทรดทำกำไร แต่หลายคนยังสับสนระหว่างโบรคเกอร์ A- Book กับ B-Book ว่าคืออะไร เป็นชื่อของโบรคเกอร์หรือ??? ก็ไม่ใช่  มา...วันนี้แอดจะมาเล่าให้ฟัง 

A-Book และ B-Book คืออะไร?

            A- Book และ B-Book เป็นคำเรียกลักษณะการซื้อขายของโบรกเกอร์ โดยผ่านเฟลตฟอร์มของโบรคเกอร์แต่ละเจ้านั่นแหละ คำว่า A- Book กับ B-Book ก็เป็นเหมือนการจัดเกรด แยกความแตกต่างของโบรกเกอร์ 

โบรกเกอร์ A-Book คือ โบรกเกอร์ที่ถูกกฎหมาย

            👉มีรูปแบบการซื้อขายแบบปกติ โดยจะมีการส่งเงินของคุณทั้งหมด 100% เข้าสู่ตลาดจริง ซึ่งการติดต่อทั้งหมดจะกระทำโดยตรงกับตลาดไม่ใช่กับโบรกเกอร์หรือบริษัทที่โบรกเกอร์ทำงานอยู่ และไม่มีผลประโยชน์อื่นแอบแฝง

            👉โบรกเกอร์ A-Book จะได้รับค่าตอบแทนที่มาจากค่า Spread และ Commission ตามเงื่อนไขที่ประกาศในตอนแรกเท่านั้น ทำให้ผู้ลงทุนมีความปลอดภัยสูงในการซื้อขายและสามารถทำกำไรได้อย่างเต็มที่ในการสมัครเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์

            👉A-Book จะมีเอกสารและข้อกำหนดต่างๆ ที่เป็นไปตามกฎหมายการเงินการธนาคารสากล

โบรกเกอร์ B-Book คือ โบรกเกอร์ที่ผิดกฎหมาย

            👉มีรูปแบบการซื้อขายแบบผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งจะไม่ส่งเงินของผู้ลงทุนเข้าตลาดจริง แต่จะดำเนินการผ่านระบบการจัดการที่ทำโดยโบรกเกอร์เอง สังเกตุง่ายๆ กราฟแรงๆ กราฟจะค้าง นั่นแหละ ใช่เลย

           👉 พูดง่ายๆว่า B-Book เป็นเจ้ามือเองนั่นแหละ รับแทงเอง จ่ายเอง  ซึ่งค่อนข้าจะมีความเสี่ยงสักหน่อย เพราะเงินไม่ได้เข้าสู่ตลาดจริง แต่กลับไปอยู่ในมือของโบรกเกอร์แทน ทำให้เกิดช่องว่าง กลโกงมากมายของโบรกเกอร์  ซึ่งก็มีวิธีและกลโกงอยู่ในหลากหลายรูปแบบ เช่น

                – การรีโควตคำสั่งออเดอร์

                – การถ่างค่าสเปรดเกินจริง

                – การดึงกราฟไส้เทียน

                – หรือการปิดบัญชีโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า

            👉👉👉ทีนี้ก็รู้กันแล้วนะ ว่าความแตกต่างระหว่าง โบรกเกอร์ A-Book และ โบรกเกอร์ B-Book เป็นอย่างไร แต่แอดอยากจะแนะนำเพิ่มเติมอีกนิดนึง เพราะโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ในบ้านเรานั้น ก็เป็นแบบ  B-Book กันสะเยอะเลย ฉะนั้น เลือกโบรคที่เปิดมานาน เกิน 10 ปี จะแลดูปลอดภัยกว่าโบรคที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่กี่เดือนกี่ปีนะ โชคดีกันทุกคนครับ

"สนับสนุนบทความนี้ด้วยการส่งเพชร 💎ส่งดาว🌟 และกดติดตาม  ใน Blockdit ของเรา

https://www.blockdit.com/posts/621c5afdf03a8c878d31e813


ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ