Jesse Livermore นักเทรดระดับโลก ตอน 2

 Jesse Livermore    นักเทรดระดับโลก ตอน 2

            มาต่อกันจากความเดิมตอนที่แล้วกับ  เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ (Jesse Livermore) เทพเจ้าแห่งการเก็งกำไร   ผู้ที่มีชีวิตผันผวนยิ่งกว่ากราฟทองเสียอีก 

             👉ในปี 1929 (อายุ 52) ลิเวอร์มอร์ อยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพ ในตอนนั้นเขาทำกำไรมาได้ต่อเนื่อง จากสภาพตลาดที่เป็นขาขึ้นหลายปี จนก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ (Great Depression) เขามองออกแล้วว่าเศรษฐกิจไม่ได้ดีพอที่จะหนุนตลาดหุ้นให้ขึ้นต่อได้ ตลาดน่าจะลงยาว ซึ่งเขาก็ไม่พลาดที่จะทำการ Short Sell เช่นเคย คราวนี้เขาทำเงินได้ถึง 100 ล้านเหรียญ

            👉หลายครั้งหลายหนที่เขาเผชิญกับปัญหาครอบครัว เพราะเขามีภรรยาหลายคน แต่ละคนใช้เงินฟุ่มเฟือย ลูกติดยาเสพติด ส่งผลให้ ลิเวอร์มอร์ เกิดความเครียด จนต่อมาเริ่มความจำเสื่อม สมองเสื่อม รวมทั้งกลายเป็นโรคซึมเศร้า

             👉ปี 1934 (อายุ 57) และแล้วชีวิตที่ร่ำรวยของเขา ได้ผ่านไปราวกับความฝัน ไม่กี่ปี กำไรมหาศาลของเขาก็หมดลง เชื่อกันว่าด้วยสภาพจิตใจและอาการป่วย ทำให้เขาไม่สามารถวิเคราะห์ได้เฉียบขาดเหมือนเคย เขาทำผิดพลาดอีก โดยการที่ไม่ยอมตัดขาดทุนเมื่อเล่นผิดทาง สุดท้ายต้องสูญเงินทั้งหมด

            👉ปี 1940 (อายุ 63) ลิเวอร์มอร์ ตัดสินใจจบชีวิตตนเอง ด้วยการยิงตัวตายที่โรงแรม โดยทิ้งข้อความสุดท้ายให้กับภรรยาว่า เขาคือความล้มเหลว.....

มาถึงตรงนี้แล้ว เราสามารถเรียนรู้อะไรได้จากชีวิตของเขาได้บ้าง?

            👌สิ่งที่ เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ ทำคือมนุษย์ทุกคนไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิด และตัวเขาไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย แต่เขาใช้พรแสวงในการศึกษาหาความรู้ ทุ่มเททำการบ้านอย่างหนักเป็นเวลาหลายปี ลองผิดลองถูก จนมีความเชี่ยวชาญในแนวทางที่ตัวเองถนัด

            👌การวางแผนที่ดี มีวินัย ทำให้เรามีแต้มต่อในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์อะไรขึ้น เราจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที แต่ถึงมีแบบแผนการเทรดที่ดีพร้อม หากไม่เป็นดั่งแผนที่วางไว้  การฝึกจิตใจ การควบคุมอารมณ์ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน

           👌 โดยตัวเจสซี่เองก็ยอมรับว่า จุดอ่อนของเขา คือไม่สามารถ อดใจ ที่จะไม่ฝ่าฝืนกฎการเทรดหุ้นที่ตัวเองตั้งเอาไว้ได้ เขาต้องสูญเสียเงินอยู่หลายครั้ง เพราะไม่ทำตามระบบที่วางไว้ ไม่ยอมตัดขาดทุน หูเบาบ้าง เชื่อคนอื่นบ้างแอดเชื่อว่า หลายคนก็เป็นกัน ขอให้หนักแน่น และเชื่อในตัวเองดีที่สุด

            👌ในท้ายที่สุด ตอนจบของเรื่องนี้ก็คือความโศกเศร้าซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ควรจะลอกเลียนแบบเพราะฉะนั้น อย่าให้อารมณ์เข้ามากัดกินใจเรา อย่าให้อารมณ์บ่อนทำลายชีวิตเรา หมั่นฝึกฝน ละเรียนรู้ การแพ้ และ ชนะ แล้วเราจะมีความสุขในชีวิตมากขึ้น 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก longtunman

"สนับสนุนบทความนี้ด้วยการส่งเพชร 💎ส่งดาว🌟 และกดติดตาม  ใน Blockdit ของเรา

https://www.blockdit.com/posts/61a422921a54a20ca22de1e2


ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ