ที่มาของ Spread




-หลายท่านคงสงสัยว่าทำไมเปิดออเดอร์ต้องติดลบตลอด ยิ่งLotเยอะยิ่งลบเยอะ
-ทำไมตั้งTP แล้วราคาไปเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งนั้นแล้วไม่ปิดให้เรา
-ทำไมตั้งSL ยังไม่ทันจะโดน ก็ปิดให้ก่อนเลย
เหตุการณ์ที่กล่าวมานั้น เกิดมาจาก ค่าBid และ ค่าAsk โดยทั่วไปแล้ว เราจะเห็นเฉพาะค่า Bid

5C0IxJ.png [1912x928px] ฝากรูป
แต่สามารถเรียกเส้นแสดงค่า Ask ออกมาได้โดย
qOII8k.png [1912x928px] ฝากรูป

Q0miug.png [1912x928px] ฝากรูป


จะเห็นเส้น Ask เส้นสีแดงแสดงออกมา

nL4F8R.png [1912x928px] ฝากรูป

เมื่อเราเห็นทั้งสองเส้นคือทั้ง ค่าBid และ ค่า Ask ต่อไปเราจะมาดูกันว่า ทั้งสองเส้นมีความหมายและที่มายังไง
“Bid” คือ ราคาที่ โบรกเกอร์กำลังจะซื้อ Base Currency ในการแลกเปลี่ยนสำหรับ
Quote Currency แบบนี้หมายความว่า Bid ก็คือราคาที่คุณจะขาย sell

- “Ask” คือ ราคาที่ โบรกเกอร์กำลังจะขาย Base Currency ในการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้
Quote Currency แบบนี้หมายความว่า Ask คือราคาที่คุณจะซื้อ Buy

Bid และ ค่า Ask จะมีเงื่อนไข คือ Bid จะต่ำกว่าราคา Ask เสมอ เกิดเป็นช่องระยะห่างราคาและช่องระยะห่างจากราคา
ค่า Bid และ ค่า Ask นั้นเรียกว่า “Spread” นั้นเอง
 UFquqI.png [1912x928px] ฝากรูป

“Spread” จะขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์นั้นๆว่าจะมีเงื่อนไขข้อกำหนดอย่างไร บางโบรกเกอร์ ก็จะระบุ Spread ชัดเจน บางโบรกเกอร์ก็จะกำหนดให้
Spread ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของตลาดหรือขึ้นอยู่กับคู่เงินที่เล่นด้วย ฉะนั้น Spread ยิ่งน้อยก็ยิ่งดี เพราะ Spread ก็คือ
ค่าคอมมินชั่นที่โบรกเกอร์รับจากเราไปนั้นเอง
เราพอจะรู้ที่มาที่ไป Bid และ Askกันบ้างแล้วต่อไปลองมาดูตัวอย่างการเข้าออเดอร์ การตั้ง TP และ SL
กันครับว่าจะมีความเกี่ยวข้องกันยังไง
 ULjN0H.png [843x571px] ฝากรูป

ตัวอย่างเราต้องการ Sell คู่เงิน EURUSD

cVpFQa.png [1733x900px] ฝากรูป

“Bid” คือ ราคาที่ โบรกเกอร์ กำลังจะซื้อBase Currency ในการแลกเปลี่ยนสำหรับ
Quote Currency แบบนี้หมายความว่า Bid ก็คือราคาที่คุณจะขาย sell

จากภาพตำแหน่ง ที่เปิดSell จะอยู่ที่ค่า Bid ซึ่งจะทำให้ตอนแรกเข้าออเดอร์จะติดลบจาก Spread ประมาณ 10 Pips หาก Lot ที่ 0.01
จะลบติดที่ -0.10$ , Lot ที่ 0.10 จะติดลบที่ -1.00$ , Lot ที่ 1.00 จะติดลบที่ -10.00$
ส่วนการปิดออเดอร์โดยการ ตั้งTP จากภาพเราถือ ซึ่งหากตั้งTP ไว้ นั้นหมายความว่าเราจะต้องรอ ค่า Ask ไปที่ตำแหน่งTP ออเดอร์ถึงจะปิดตัวเองลง
ส่วนเกินที่มาจากค่า Bid เกิดเป็น มีSpread ให้โบรกเกอร์ไป
เช่น เปิดออเดอร์โดยLot 0.10 ระยะ TP 20Pips จากตำแหน่งที่ราคาอยู่มี Spread 10 Pips เราจะได้กำไรสุทธิที่ 10 Pips หรือ 1.00$
แสดงให้เห็นว่า เหตุที่ราคาชนTP แล้วไม่ยอมปิดให้ เพราะตอนTP ฝั่งSellนั้นจะให้ค่า Ask ในการชน SL และปิดออเดอร์ไป แต่ส่วนมากเราจะมองแต่ค่า
Bid ที่ชนแล้วไม่ยอมปิดออเดอร์ให้เราจนทำให้คิดว่าโดนโบรกเกอร์โกงเรา
การตั้งSL ก็คล้าย คือต้องรอให้ค่า Ask ไปที่ตำแหน่ง SL ออเดอร์ถึงจะปิดตัวเองลง ส่วนเกินที่มาจากค่า Bid เกิดเป็น Spread เช่นกัน
เช่นเปิดออเดอร์โดยLot 0.10 ระยะ SL 20Pips จากตำแหน่งที่ราคาอยู่ มี Spread 10 Pips เราจะขาดทุนสุทธิที่ 20Pips หรือ -2.00$
ตรงนี้เองที่ทำให้หลายๆท่านงง ว่าทำไมตั้งSL ยังไม่ทันจะโดน ก็ปิดให้ก่อนเลยนั้นเพราะ ตอน SL ฝั่งSell นั้น จะให้ค่า Ask ซึ่งจะชนSL
และปิดออเดอร์เราไปก่อนค่า Bidนั้นเอง

ตัวอย่าง เราต้องการจะ Buy คู่เงิน USDDKK

0k6QAb.png [1733x732px] ฝากรูป

 “Ask” คือ ราคาที่ โบรกเกอร์ กำลังจะขาย Base Currency ในการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้
Quote Currency แบบนี้หมายความว่า Ask คือราคาที่คุณจะซื้อ Buy

จากภาพตำแหน่ง ที่เปิด Buy จะอยู่ที่ค่า Ask ซึ่งจะทำให้ตอนแรกเข้าออเดอร์จะติดลบจาก Spread ประมาณ 450 Pips
หาก Lot ที่ 0.01 จะลบติดที่ -0.45$ , Lot ที่ 0.10 จะติดลบที่ -4.50$ , Lot ที่ 1.00 จะติดลบที่ -45.00$
ส่วนการปิดออเดอร์ไม่ว่าจะเป็น ตั้งTP จากภาพเราถือ ซึ่งหากตั้งTP ไว้ นั้นหมายความว่าเราจะต้องรอ ค่า Bid ไปที่ตำแหน่งTP
ออเดอร์ถึงจะปิดตัวเองลง ส่วนเกินที่มาจากค่า Ask เกิดเป็น Spread ให้โบรกเกอร์ไป
เช่น เปิดออเดอร์โดยLot 0.10 ระยะ TP 1000 Pips จากตำแหน่งที่ราคาอยู่ มีSpread 450 Pips เราจะได้กำไรสุทธิที่ 550 Pips หรือ 55$
แสดงให้เห็นว่า เหตุที่ ราคาชนTP แล้วได้กำไรสุทธิน้อยกว่าที่คำนวณเกิดมาจากค่าของ Spread ที่หักออกไป
การตั้งSL ก็คล้าย คือต้องรอให้ค่า Bid ไปที่ตำแหน่ง SL ออเดอร์ถึงจะปิดตัวเองลง ส่วนเกินที่มาจากค่า Ask เกิดเป็น Spread เช่นกัน
เช่น เปิดออเดอร์โดยLot 0.10 ระยะ SL 1000 Pips จากตำแหน่งที่ราคาอยู่มีSpread 450 Pips เราจะขาดทุนสุทธิที่ 1000Pips หรือ 100$

ฉะนั้นยิ่ง Lot เยอะ Spread ก็จะยิ่งแพงตามขึ้นไป โบรกเกอร์ไหน Spreadยิ่งน้อยยิ่งเป็นผลดีกับเรา

ส่วนโบรกเกอร์ เอา Spread ที่ได้จากเราไปเมื่อไหร่ ก็คือเอาไปทุกครั้งที่เราปิดออเดอร์ ทั้งนี้การปิดเปิดออเดอร์นั้นจะขึ้นอยู่กับ
สภาวะตลาดและความเร็วของอินเตอร์เน็ตเราด้วย




Credit:thaiforexschool

ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ