🖋️โบลิงเจอร์แบนด์ : เส้นแห่งชัยชนะ (Victory Bollinger Bands) Update!🔥

สวัสดีครับ! วันนี้ผมจะพูดถึงอินดิเครเตอร์พื้นฐาน นั้นคือ โบลิงเจอร์แบนด์

โบลิงเจอร์แบนด์คืออะไร?

โบลิงเจอร์แบนด์เป็นตัวบ่งชี้(เครื่องมือ)ที่แสดงทิศทางของแนวโน้ม (เทรนด์) และช่วยหาจุดกลับตัวของแนวโน้ม
หลักการพื้นฐานในการเทรดกับตัวบ่งชี้(เครื่องมือ)นี้ จึงเป็นการเทรดกับเทรนด์และการกลับตัวของราคา

การคำนวณ Bollinger Bands


Bollinger Bands สร้างขึ้นโดยเส้นสามเส้น มีเส้นตรงกลางเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ดัชนีนี้ใช้งานในการคำนวณตำแหน่งราคาต่ำสุดและสูงสุดในตลาด โดยสูตรการคำนวณในการสร้างเส้นดัชนี Bollinger Bands มีดังนี้
BB = MA ± k * StdDev
โดยที่
MA คือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
StdDev คือ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
k คือ ค่าสัมประสิทธ์เบี่ยงเบนมาตรฐาน
ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน StdDev มีการคำนวณดังนี้:
StdDev = SQRT (SUM ((CLOSE – SMA (CLOSE, N))^2, N)/N)
โดยที่ N คือจำนวนระยะเวลาที่ใช้ในการคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (เช่น แท่งเทียน 20 แท่ง) และ SQRT คือรากที่สอง
เวลาสร้างดัชนี Bollinger Bands โดยทั่วไปนักเทรดจะใช้ค่าสัมประสิทธิ์เบี่ยงเบนมาตรฐาน k ซึ่งมีค่าเท่ากับ 2 ที่ตัวเลขนี้ 95% ของราคาทั้งหมดจะอยู่ภายในช่วงราคา ซึ่งเป็นช่วงที่จำกัดโดยเส้นแบนด์ของดัชนี
สำหรับการคำนวณค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน คุณควรเลือกระยะเวลาในการคำนวณ โดยตามกฎแล้วให้ใช้ค่าเดียวกันกับค่าสัมประสิทธ์ของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

ระยะเวลา


ระยะเวลาที่แนะนำสำหรับดัชนี Bollinger Bands คือตั้งแต่ 13 ถึง 24 (20 คือการตั้งค่าที่พบบ่อยที่สุด) ค่าเบี่ยงเบนมักถูกเลือกภายในช่วงตั้งแต่ 1.5 – 5 และมีตัวเลขการตั้งค่าที่แนะนำตั้งแต่ 2 ถึง 3
คุณสามารถใช้ตัวเลขฟิโบนักชี เลขทศนิยมตัวกลมเช่น 50 100 150 200 และจำนวนวันในการเทรดและปีปฏิทิน (240 หรือ 365) ในการตั้งค่า แต่อย่าลืมว่าระยะเวลาที่ยาวนานขึ้นสามารถลดระดับความอ่อนไหวของดัชนีซึ่งไม่เหมาะสมกับตลาดที่มีความผันผวนต่ำ
ส่วนใหญ่ราคาจะเคลื่อนที่ในช่องนี้ แต่ราคาก็สามารถตัดผ่านเส้น Bollinger Bands ในกรณีที่มีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากราคาตัดผ่านเส้นแบนด์ด้านบนหรือด้านล่างบ่อยมากเกินไป คุณควรตั้งค่าเพิ่มระยะเวลาและหากราคาแทบไม่เคยแตะถึงเส้นแบนด์กรอบนอกเลย คุณควรลดระยะเวลาให้สั้นลง

ราคาและกรอบเวลา


ราคาปิดตัวส่วนใหญ่นั้นใช้งานในการคำนวณดัชนี Bollinger Bands โดยสามารถใช้งานราคาเฉลี่ยหรือน้ำหนักราคาเฉลี่ยได้เช่นกัน
ดัชนี Bollinger Bands ทำงานได้ดีกับกรอบเวลาทุกประเภท แต่ตามกฎแล้วดัชนีนี้ใช้งานกับการเทรดรายวัน โปรดคำนึงว่าการเลือกการตั้งค่าสำหรับคู่สกุลเงินที่ต่างกันและกรอบเวลาที่ต่างกันควรแยกออกแตกต่างกันไป

สัญญาณหลักของดัชนี



  1. เทรดเส้นแบนด์ตรงกลาง
หากราคาตัดผ่านเส้นแบนด์ตรงกลางขึ้นไป ถือว่าเป็นสัญญาณขาขึ้น และหากราคาตัดผ่านเส้นแบนด์ตรงกลางลงไป ถือว่าเป็นสัญญาณขาลง


  1. เทรดหลังจากราคากลับมาในช่อง
ควรมีการเปิดตำแหน่งที่ตรงกันข้ามกับทิศทางที่ราคาวิ่งออกจากดัชนี รอจนกว่าแท่งเทียน/แท่งจะปิดตัวภายในดัชนีและเปิดตำแหน่งในทิศทางที่เข้าหาเส้นแบนด์ตรงกลาง ตามตรรกะแล้วจุดเข้าตำแหน่งซื้อขายคล้ายกันกับตำแหน่งเข้าซื้อขายมาตรฐานของออสซิลเลเตอร์

  1. ใช้งานเส้นแบนด์ด้านนอก
เส้นแบนด์ด้านนอกมีการปรับตัวเพื่อก่อตัวเป็นระดับแนวรับ/แนวต้านสำหรับการเคลื่อนที่ของราคาในเวลาปัจจุบัน เมื่อราคาขยับถึงระดับด้านบนของแนวต้าน คุณสามารถเลือกขายได้ และเมื่อราคาขยับถึงระดับด้านล่างของแนวรับ คุณก็ควรเลือกซื้อ


ข้อแนะนำ



นายจอห์น โบลิงเกอร์ ให้คุณสมบัติของดัชนีที่เขาคิดค้นไว้ดังนี้
  • การเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรวดเร็วมักเกิดขึ้นหลังจากช่องดัชนีแคบลงมา ซึ่งหมายความว่าความผันผวนลดลง
  • หากค่าสูงสุดและค่าต่ำสุดนอกกรอบแบนด์ตามมาด้วยค่าสูงสุดและต่ำสุดภายในกรอบแบนด์ แปลว่าเป็นไปได้ว่าจะมีการกลับตัวของเทรนด์
  • การเคลื่อนที่ของราคาที่เริ่มต้นจากด้านหนึ่งของช่องแบนด์มักขยับไปในด้านที่ตรงกันข้าม ข้อสังเกตนี้เป็นประโยชน์ต่อการหาค่ามาตรฐานของราคา
อย่าลืมว่าการตั้งค่า Bollinger Bands ของดัชนีใดๆ แบบมืออาชีพต้องอาศัยความรู้ที่ลึกซึ้งและการฝึกฝนที่ดีของนักเทรด เข้าร่วมสัมมนาออนไลน์เพื่อฝึกอบรมกับ Olymp Trade และเทรดด้วยความมั่นใจกันเลย!

การตั้งค่าตัวบ่งชี้

ผมขอแนะนำให้ตั้งค่ามาตรฐานเลยครับ  20 และ 2.0 ตามลำดับ
เพื่อนๆสามารถเปลี่ยนสีของเส้นตัวบ่งชี้ได้แล้วแต่ชอบเลยครับ
อีกอย่างหนึ่ง กราฟแท่งเทียนญี่ปุ่นที่มีกรอบเวลา 5 หรือ 15 นาที เป็นช่วงเลาที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด

วิธีอ่านสัญญาณโบลิงเจอร์แบนด์

ส่วนประกอบหลักของตัวบ่งชี้ ได้แก่ เส้น ยกตัวอย่างเช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 3 ค่า
เส้นกึ่งกลางที่เคลื่อนที่ผ่านแผนภูมิแสดงทิศทางของแนวโน้ม
เส้นบนและล่างสร้างช่องราคา เมื่อแผนภูมิออกนอกทางเดินช่อง จะเป็นสัญญาณเพื่อเปิดการเทรด

เปิดการเทรด ขึ้น

จุดตัดกันของแผนภูมิและเส้นบอกระดับด้านล่างบ่งชี้ว่าแนวโน้มอาจย้อนกลับได้ในอนาคตอันใกล้นี้
ดังนั้นหากแท่งเทียนของแผนภูมิ ข้ามขอบล่างของช่องราคาคุณสามารถเปิดการเทรด ขึ้น ได้(ตามรูปภาพด้านบนวงกลมขวามือ)

เปิดการซื้อขาย ลง

คุณสามารถเปิดการซื้อขาย ลง เมื่อแผนภูมิได้ข้ามเส้น โบลิงเจอร์ ด้านบน(ตามรูปภาพด้านบนซ้ายมือ)

หวังว่าบทความสั้นๆนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์ทุกคนนะครับ


ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ