Five Force Model" 5 แรงกดดันที่จะทำให้"เทรดเดอร์"เก่งขึ้น

หลายคนจะได้เห็น Model นี้ในการตลาดหรือการทำธุรกิจบ่อยๆ แต่วันนี้ผมจะมาพูดในเรื่องการของเทรดแทน

ผมอยู่ในตลาดหุ้นไทยมาเป็นเวลา 1 ปี ตลาด Forex เป็นเวลา 3 ปีครึ่ง ในระหว่างที่ผมยังเป็นมือใหม่ผมหาความรู้โดยการ อ่านหนังสือ เข้าคอร์สสัมนาต่างๆ จนเวลาผ่านมา 4 ปี

มีผู้เรียนท่านนึงมา Workshops กับผมแล้วถามว่า คุณทำได้อย่างไร เมื่อ 3ปีก่อน ผมว่าผมมีความรู้มากกว่าคุณเสียอีกและเรายังนั่งเรียนโต๊ะติดๆกันอยู่เลย

แต่วันนี้ผมมาขอความรู้คุณเสียแล้ว ทุกวันนี้คุณไปไกลมากๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะผม แต่ไปไกลกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกันในสัมนา Fulltime-Trader รุ่นที่ 1 ของ Poh Trader Way Pativet

ผมกลับมานั่งคิดว่าผมทำอะไรที่แตกต่างจากคนอื่นๆในรุ่นบ้าง จนได้กฏการสร้างแรงกดดันให้ตนเอง 5 ข้อ ที่จะทำให้ผมเก่งขึ้น

1. เลิกขอเงินพ่อแม่ : ใช่ครับเลิกขอไปเลย เพราะการขอเงินพ่อแม่หรือนำเงินธุรกิจอื่นมาช่วยนั้น มันจะทำให้คุณขึ้เกียจ เพราะคุณจะทำตัวไปวันๆ ไม่เกิดการพัฒนา และจะคิดว่าเทรดไม่ได้ไม่เป็นไร เดียวสิ้นเดือนก็ได้เงิน อย่าทำตัวเหมือนคนทำงานประจ

ถ้าคุณอยากเป็นเทรดเดอร์ คุณตั้งเป้าหมายไปเลยว่า ฉันจะต้องมีรายได้การเทรดต่อเดือน เท่านี้ให้ได้ [ อย่าพึ่งคิดที่จะเอารายวันถ้ายังทำต่อเดือนไม่ได้ ]

2. เพิ่มรายจ่ายในการลงทุน : คุณตัดงบไปเลยว่าฉันจะพัฒนาตนเอง #ลงทุนในความรู้ เป็นเงินเท่าไหร่ต่อเดือน แปลว่า เงินเก็บของคุณจะลดลงมันจะสร้างแรงกดดันให้คุณ Active ขึ้น เพราะคุณมีเงินใช้น้อยลง และมันเลยทำให้คุณต้องขยันมากขึ้น แต่ถ้าคุณอยากสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีในสายตาคนรอบข้างที่ไม่ใช่เทรดเดอร์

คุุณเพียงเพิ่มรายจ่ายตนเองไปเรียนต่อปริญญา โท หรือ ปริญญาเอก ให้คนรอบข้างคุณเห็นไปเลยว่า ฉันแน่แค่ไหน ฉันทำอาชีพอิสระ แต่ฉันส่งตนเองเรียนปริญญาที่สูงกว่าเดิมได้

3. แบกรับความคาดหวังของคนอื่น : คุณสอนการเทรดของคุณให้แก่คนอื่นดูซิ แล้วสอนแบบเก็บเงิน เพราะคนจะตั้งใจถ้ามีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เมื่อคุณเก็บเงินเขามาแล้วสิ่งที่มอบให้แก่เขาก็ต้องดีด้วย แปลว่า ถ้าระบบเทรดพัง หรือ Drawdown คุณต้องรีบแก้ไข สร้างระบบเทรดใหม่ให้เร็วทันที และ Drawdown ต้องทำให้ต่ำกว่าคุณใช้เอง เพราะ คุณสร้างมันขึ้นมาคุณรู้ว่าคุณสู้กับอะไร แต่คนอื่นเขาไม่รู้ไง เขาได้แต่ทำตามคุณ

คุณจึงต้องทำให้ Drawdown นั้นต่ำๆเข้าไว้ เพื่อรักษาสภาพจิตใจของคนเรียน และที่สำคัญมันช่วยรักษาเงินต้นของคุณให้สามารถมีกระสุนสำรองได้หลายนัด [กระสุนสำรองพูดต่อในข้อที่ 5 ]

4. เทรดเพื่อดูแลคนข้างหลัง : คุณรับนักลงทุนเพิ่มเข้ามาในพอร์ตของคุณดูซิ มันจะเพิ่มแรงกดดันให้คุณขยันขึ้นอีกแน่นอน เพราะคุณมีคนที่ต้องดูแลอยู่ข้างหลัง แน่นอนคุณคงไม่อยากให้คนที่หวังในตัวคุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน และเขาจะเป็นคนตรวจสอบฝีมือคุณไปในตัวแบบ Real-time ว่าคุณนั้นเจ๋งจริงหรือไม่

ที่สำคัญการคุณจะได้กำไรมากขึ้นจากการทำงานเท่าเดิมเพราะคุณเทรดอยู่แล้วทุกวัน แต่คุณกลับได้กำไรมากขึ้นจาก Profit Sharing อย่าง Warren Buffett เจ้าพ่อ Fundamental ระดับโลก สมัยยังหนุ่มเขายังรับ ดูแลพอร์ตให้แก่นักลงทุนเลย ขอเพียงส่วนแบ่ง 25%ที่เขาทำกำไรได้ ที่ผมดูแลพอร์ตให้นักลงทุนในปัจจุบันและเก็บค่าบริหาร 25% ก็เพราะได้ ปู่คนนี้แหละครับเป็น Idolของผม

5. หลังชนฝา : เมื่อคุณสอน เมื่อคุณรับนักลงทุน แบบ Systematic Trading คุณจะมีคนคอยเช็ค Performance ของคุณได้ตลอดเวลา รวมทั้ง Backtest ทดสอบระบบเทรดย้อนหลังได้ตลอดเวลา ทำกำไรได้จริงหรือไม่ และ นักลงทุนเขาเพียงดูยอด Balance ในพอร์ตเขาก็รู้แล้วว่า เทรดเดอร์คนนี้มันจริง หรือ มันเก๊

แปลว่า คุณ ถอยหลังไมไ่ด้ หลังมันชนฝาครับ ต่อให้ระบบเทรดพัง ระบบเกิด Drawdown คุณไม่สามารถหนีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงนี้ได้ครับ ถ้าคุณหนีคุณก็คงไม่มีที่ยืนในสังคมอีกต่อไปก็เป็นได้ คุณทำได้อย่างเดียวคือ คุณต้องสู้ ! ต้องสู้ ! และต้องสู้ !

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อปีก่อนผมเคยพานักลงทุนพาดอยไป -30% ครับ ผมเครียดมาก เพราะผมพึ่งรู้ว่า การเทรดพอร์ตตนเองกับพอร์ตนักลงทุน ต้องใช้ Monney Management ต่างกัน เพื่อทำให้ Drawdown ต่ำนอกจากเราต้องบริหารพอร์ตนักลงทุนแล้ว เรายังต้องบริหารจิตใจของนักลงทุนอีกด้วย

แต่เมื่อผมผ่านมาได้ ทำให้ผมรู้ว่า การเทรดเพื่อตัวเอง สนใจแต่การทำกำไร ไม่สน Drawdown มันทำไม่ได้ในการบริหารพอร์ตนักลงทุน ปัจจุบันผมเทรดเพื่อคนอื่น จะให้ Drawdown สูงเหมือนเทรดเพื่อตัวเองไม่ได้ ผมจึงเลิกสนใจ "วิธีการทำกำไร"

แต่หันมาหาวิธีลด Drawdown แทน อย่างปัจจุบัน ดีลที่ผมดีลกับ นักลงทุน Private คือ ระยะเวลา 12 เดือน มีโอกาส กำไรขั้นต่ำ+150 % , Drawdown -10% ยกเลิกสัญญา ก็แปลว่า ถ้า DDเกิดขึ้น -10% ผมจบเกม แต่คงยาก เพราะปัจจุบัน ผมรู้วิธีการลด Drawdown 10 เท่า ต่อให้ระบบเทรดพัง

พอร์ตนักลงทุนจะ -เพียง 3.5% แปลว่า ผมยังมีโอกาสแก้มือโดยใช้ Model Port ใหม่ Strategyใหม่ Multi-Trading ใหม่ MoneyManagementใหม่ อีก 2 ครั้งเลยทีเดียว

"ถ้าเกมนี้โอเวอร์ก็คงต้องยอมรับความจริงๆ ว่าเรามันอ่อน"

นี้ก็เป็น การสร้างแรงกดดันให้แก่ตนเอง 5 ข้อ สำหรับผม มันอาจจะใช้ได้ และ ใช้ไม่ได้สำหรับใครบางคน เพราะสิ่งที่ผมพูดมา มาจากประการส่วนตัวของผม

ขอขอบคุณ : นักลงทุน และ ผู้เรียนทุกคนที่ทำให้ผมมีวันนี้ ที่สำคัญ ผมมีอาจารย์สอนเทรด Forex เพียงคนเดียวคือ Trader Way Fx เป็นแม่แบบที่ทำให้ผมมีวันนี้ ขอบคุณทุกคนอีกครั้งครับที่เสียสละเวลามาอ่านเรื่องเล่าของผม




ขอบคุณบทความดีๆจาก
Credit: เพจ Forex Risk Way

ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ