บทความ

จะดีแค่ไหนหากเราใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์มากที่สุด หลังจากเลิกงาน หรือหลังเลิกเรียน มีคนเคยบอกว่ามนุษย์มีเวลาเท่ากัน คือ 1 วัน มี 24 ชั่วโมง แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าใครจะสามารถจัดสรรแบ่งปันเวลาให้กับตัวเองได้มากกว่ากันเท่านั้นเอง หรือใครต่างหากที่จะสามารถนำเวลาที่มีเท่ากัน ไปสร้างสิ่งที่ทุกคนมีไม่เท่ากัน ผมได้รู้จักกับอาชีพหนึ่ง เป็นอาชีพที่น่าสนใจอยู่มากพอสมควร นั่นคือ อาชีพรับจ้างเขียนบทความ ตามหัวข้อที่จะเขียนแนะนำกันในวันนี้ สิ่งที่น่าสนใจไม่เกี่ยวกับรายได้ เพราะรายได้เป็นผลพลอยได้เท่านั้น ผมขอเล่าต่ออีกนิดนะครับ เมื่อก่อนที่ผมจะหันมาทำเว็บไซต์ ผมได้รู้จักกับคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำงานอยู่ในระบบออนไลน์ และตอนนั้นเป็นช่วงที่กำลังเรียนรู้ฝึกฝนสะสมประสบการณ์ จึงได้มีโอกาสรับงานเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ของเด็กมหาลัยแห่งหนึ่ง ผมได้ค่าจ้างประมาณ 800 บาท รวมกับทำ Blog ให้ด้วยเขียนไปได้ประมาณ 30 บทความได้ เงินที่ผมได้รับมานั้นเพียง 800 บาท ถ้าเรามองเป็นเพียงแค่ตัวเลขบอกตรงๆ ว่า ไม่คุ้มกันเลยครับ แต่สิ่งที่ผมได้มาเหนือความคาดหมาย นั่นก็คือ  ประสบการณ์ในการเขียน,ความอดทน,ความรับ
เราเชื่อว่าคนทุกคนมีความฝัน …. บางคนฝันเพื่อตัวเอง  และอีกหลายๆ คนฝันเพื่อคนอื่นบางคนฝันว่าอยากเป็นดารา อยากเป็นนักร้อง อยากทำในสิ่งที่ตัวเองรัก อยากเป็นคนรวย อยากเป็นเจ้าของกิจการ อยากทำเพื่อให้คนที่เรารักสบาย ฯลฯแต่ไม่ว่าความฝันนั้นจะเพื่อใคร ทุกความฝันมีความหมาย แต่มีเพียงคนส่วนหนึ่ง (ส่วนน้อย) เท่านั้นที่ไปถึง  เคยสงสัยไหมว่าเพราะอะไร?? ลืมตั้งเป้าหมาย ทุกความฝันมีที่มา และควรจะมีที่ไป หากเราแค่จิตนาการโดยไม่ลงมือทำมันก็คงจะเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันมากกว่าจะเป็นความฝัน และมนุษย์เป็นอะไรที่ลืมง่าย เพราะชีวิตเรามีเรื่องมากมายให้คิดอยู่ตลอดเวลา อย่างวันนี้ที่คุณคิดเรื่องความฝันอยู่ เชื่อว่าพรุ่งนี้คุณก็คงจะลืมมันไปชั่วขณะ เพราะเรื่องราวต่างๆ มากมายที่เข้ามา และไม่มีสิ่งใดมาตอกย้ำถึงความฝันของคุณ จนเวลาล่วงเลยผ่านไป จนวันที่คุณอ่อนล้าหรือสมองว่างเปล่า คุณก็จะกลับมาคิดได้อีกทีว่า …นี่เรามาไกลแค่ไหนแล้วนะ เราลืมหรือทิ้งอะไรไปรึเปล่า ซึ่งเวลานั้นแหละเป็นเวลาที่คุณจะนึกถึกความฝันของคุณได้อีกครั้ง… ถึงเวลาวาดฝัน ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีฝัน ไม่ว่าคุณจะเคยเริ่มหรือไม่เคยเริ่มมาก่อนหน้า
เคล็ดลับควรทำในวันหยุดเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต ในการทำงานทุกอย่าง เราต้องใช้ทั้งแรงกายและสติปัญญาทุ่มเทให้กับงานที่ทำ เมื่อทำไปนานๆเข้า ก็ต้องมีอาการเหนื่อยล้า ซึ่งสามารถทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเราถดถอยลงไปได้ ยิ่งถ้าใครที่ทำงานด้านการลงทุนด้วยแล้ว ทุกการตัดสินใจนั้นหมายถึงการจะได้หรือเสียเงินเลยที่เดียว ดังนั้นจึงต้องใช้สติ สมาธิ และการวิเคราะห์ปัจจัยทางด้านต่างๆมากเป็นพิเศษ ทำให้กลุ่มอาชีพนักธุรกิจหรือนักลงทุน มีความเครียดมากกว่ากลุ่มอาชีพอื่นๆ ดังนั้นแล้ว เมื่อคุณมีโอกาสที่จะมีเวลาพักหายใจ หยุดคิดเรื่องการทำงาน หยุดคิอเรื่องตลาด หยุดคิดเรื่องกราฟ แล้วหนีไปพักผ่อน อะไรบ้างที่เราควรทำ เพื่อเพื่อคุณภาพชีวิตในวันหยุดพักผ่อนของเรา ให้เราได้ชาร์ตไฟกันให้เต็มที่ก่อนที่จะกลับเข้ามาแข่งขันกันในโลกเบี้ยวๆบูดๆที่วุ่นวายนี้ 1. ไม่ควรนอนมากเกินไป การนอนหลับอย่างเพียงพอเป็นเรื่องจำเป็น แต่ทางการแพทย์พบว่าการนอนมากเกินไปจะทำให้องค์ประกอบทางชีวภาพของร่างกายคุณทำงานผิดจังหวะ ทำให้คุณรู้สึกหมดแรงและเฉื่อยชา คุณควรฝึกนิสัยการการตื่นแต่เช้าเป็นเวลาให้เหมือนกันในทุกๆวันแล้วงีบหลับ 10-45 นาที
การใช้  Bollinger band  ควบคู่ไปกับ Relative Strength Index และ Stochastic Slow ในตลาดฟอเร็กซ์ บทความนี้ได้มีเพื่อนผมคนนึงครับบอกชื่อเลยละกัน kt2008(user ในมาเก็ตติว่านะครับ) บอกให้ผมช่วยหา Indicators ที่ใช้ควบคู่กับ  Bollinger Band  หน่อย ซึ่งตอนนั้นผมก็ตอบเพื่อนคนนี้อย่างรวดเร็วไปว่า "เออ ใช้กับ Stochastic Slow ว่ะ"ซึ่งผมยังไม่ได้บอกมันเลยครับ ว่าผมไม่ได้บอกทั้งหมดว่าใช้กับ RSI ได้ด้วย  แต่ว่าใช้ได้เหมือนกัน เพียงแต่ Stochastic บอกสัญญาณที่เร็วกว่า Relativa Strength Index (Rsi)  Oscillators ที่บอกสัญญาณได้เร็วอันดับแรกก็คือ Commodity Channel Index (CCI) และรองลงมาก็คือ Stochatic  สองตัวนี้จะเหมาะสมกับกราฟพักตัว หรือที่เรียกว่ากราฟไซเวย์(Sideway) นั่นเอง เพราะฉะนั้น อย่าได้ใช้อินดิเคเตอร์สองตัวนี้ในการเล่นกราฟที่มีแนวโน้มไปทางเดียวเด็ด ขาด เพราะคุณอาจจะถูกหลอกว่ามัน  Over Bought  (OB= ภาวะตลาดมีแรงซื้อเยอะเกิน )ในช่วงขาขึ้น และภาวะตลาดที่มีแรงขายเยอะเกิน ( Over Sold ) ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นักลงทุนตกใจ อย่าพยายามคิดว่า มันสุดแล้วหน่า Sell ดีกว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้าครับ   เพรา
Guppy Multiple Moving Average หรือเรียกสั้นๆว่า GMMA GMMA หรือ บางคนเรียกเพียงแค่ Guppy กั๊บปี้ เป็นระบบ ที่นำเส้นค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่แบบ Exponential ( EMA) 12 เส้น โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ 1.Short term ( Trader) เทรดเดอร์ระยะสั้น 2.Long Term (Investor) นักลงทุนระยะยาว โดย Short Term จะประกอบด้วย EMA 6 เส้นที่มี Period คือ EMA 5 , 7, 9, 11, 13, 15 และ Long Term จะประกอบด้าย EMA 6เส้นเช่นเดียวกันที่มี Period  คือ EMA 35 , 40 , 45, 50, 55, 60 วิธีการดูตามรูปด้านล่างและคำบรรยายด้านล่างเลยนะครับ Guppy จะเหมาะกับ Trendfollower Trader เทรดเดอร์ที่เทรดตามเทรน เทรดตามแนวโน้มใหญ่ๆ ไม่เหมาะกับ Swing Trade หรือพวกที่เทรดสั้นๆ เราสามารถประยุกต์ใช้ Guppy ได้ทุกช่วงเวลา (Time Frame) Credit : http://www.guppytraders.com/gup329.shtml  สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ และ Forum ของเทรดเดอร์ทั่วโลก  http://www.forexfactory.com Credit:www.9professionaltrader.blogspot.com  Guppy Mutiple Moving Average (GMMA) | Forex Trading Blog สอนเทรด Forex - แหล่งศึกษาข้อมูล Forex และสอน Trade Fo
วีธีการเทรดข่าวนอนฟามในสไตล์ของ 9professionaltrader  (Trading Non-Farm Payroll Style 9Professionaltrader)   การเทรดข่าวนอนฟาม  Non-Farm Payroll  วิธีนี้ ที่ผมได้ใช้เป็นประจำในการเทรดข่าวนอนฟาม นอกจากข่าวนอนฟามแล้ว ก็ยังสามารถใช้กับการเทรดข่าวแดงๆแรงๆ (High Impact) ได้ทุกข่าว หลักการนี้ผมจะเรียกมันว่า  Break out Entry Setting  การตั้งราคาเข้าเมื่อมันทะลุ  (ชื่อนี้คิดสดๆเลยครับ) หลักการของมันคือ -เราจะตั้งราคาไว้ล่วงหน้าที่ราคาสูงสุดและต่ำสุดของช่วงที่ผ่านมา คือจะตั้ง  Buy Stop  ไว้ที่ High และ  Sell Stop  ไว้ที่ Low -เมื่อราคาวิ่งทะลุขึ้นด้านบนก็จะชนราคา Buy stop ที่เราได้ตั้งไว้ และเมื่อ ราคาวิ่งลงมาทะลุ Low ด้านล่างก็จะชน Sell Stop ที่เราได้ตั้งไว้  -การตั้ง  Stop Loss   การตั้ง Stop Loss ของ Buy ให้ตั้งที่ ตำแหน่ง Sell Stop บวกไปอีกห้าจุด หรือหาจุด Low ที่ใกล้เคียงกับราคา Sell Stop ในช่วงนั้นๆ และการตั้ง Stop Loss ของ Sell Stop ก็ตั้งที่ตำแหน่ง Buy stop บวกไปอีก ห้าจุด หรือตั้งที่จุดใกล้เคียงกับราคา Buy Stop ในช่วงเวลานั้นๆ  -คำถาม ? อ้าวแล้วถ้ามันวิ่งชนสองฝั่ง ทำไงล
การเทรดด้วย Pinbar Pinbar Forex trading saytem   หรือ  ระบบการเทรดโดยการใช้ Pinbar   เป็นที่นิยมกันมากในตลาด Forex มันเป็นกลยุทธ์กาชื้อขายที่ใช้รูปแบบแท่งเทียนเป็นอาวุธ และเทรดตามพฤติกรรมราคา การเทรดแบบนี้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกโดย "Martin Pring"  ซึ่งเค้าได้เขียนเรื่องนี้ไว้ในหนังสือของเขาที่ชื่อว่า  "Pring on Price Patterns"     คุณสมบัติของ Pinbar เป็นกลยุทธ์การเทรดที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง และมีความเสี่ยงต่ำ อัตราของการขาดทุนมีน้อยกว่าถ้ารู้จักตั้งจุดคุ้มทุนที่ถูกต้อง เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก จะเกิดเฉพาะเวลาที่สำคัญ ยากที่จะตั้ง จุด TP และ SL ให้เป็นแบบแผนตายตัว การเกิด Pinbar นั้น สามารถเกิดได้ในทุกคูสกุลเงินและทุก Time Frame (TF) ดังนั้นเราจึงสามารถใช้วิธีการเทรดด้วย Pinbar นี้กับทุกคู่สกุลเงิน และในทุก TF ด้วย แต่เพื่อความแม่นยำเราควรจะใช้ Pinbar เทรดในทามใหญ่ๆ เช่น H4, Daily และ Weekly Pinbar Set up   รูปแบบของ Pinbar จะประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่ง คือ Left eye (ตาซ้าย) ,Nose (จมูก) และ Right eye (ตาขวา) ใน Bearish Pinbar Pattern  หรือการกลับตัว
เชื่อว่า เทรดเดอร์ทุกคนต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า  Moving Average (MA)  คืออะไร ถ้าใครยังไม่รู้เข้าไปดูกันได้ที่นี่ http://tradding2onlinemoney.blogspot.com/2013/06/moving-average.html ทีนี้เรามาดูระบบเทรดที่ง่ายแสนง่าย แต่สามารถทำกำไรได้จริงกันค่ะ ระบบเทรดนี้ มีชื่อเต็มว่า Amazing Crossover System 100+ pips per day  โพสโดย คุณ ForexPhantom จากเว็บไซด์ Babypips.com เป็นระบบที่ง่ายๆ แต่น่าสนใจ และทดลองใช้แล้วได้ผลค่ะ โดยคุณอาจจะโดน SL บ้าง แต่ถ้าทำตามระบบก็กำไรแน่นอน เพราะระบบนี้จะได้กำไรมากเมื่อราคาเป็นเทรน ที่สำคัญมันมีเทคนิคการดูที่ไม่ยากเลย แค่ใช้หลักการตัดกันของเส้น MA เป็นหลัก ก่อนอื่นเรามาเซ็ทกราฟกันก่อนค่ะ เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ก็เป็น Indicators บ้านๆ ที่มีมาให้ใน MT4 อยู่แล้ว หรือแม้ว่าท่านจะเทรดด้วยโปรแกรมอื่นๆ ก็เชื่อว่าต้องมีเครื่องมือเหล่านี้มาให้แน่นอน Indicators: 5 EMA - แดง 10 EMA - ฟ้า RSI  10  Apply to median Price : HL/2 ใช้เทรดได้ทุกคู่ แต่เน้นว่าให้เทรดที่ Time Frame H1 เท่านั้น (เพราะระบบใช้ Indicators ที่มีความไวอยู่แล้ว) การเข้าออเดอร์
ค่าเงินบาทแข็ง ช่วงนี้มักจะได้ยินสื่อต่างๆ พูดคำว่า ค่าเงินบาทแข็งอยู่ตลอด จึงอยากจะขออธิบายให้ฟังเพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจว่า ค่าเงินบาทแข็งคืออะไร เกิดจากอะไรได้บ้าง ค่าเงินบาทแข็งแล้วอ่อนได้หรือไม่ ถ้าแข็งหรืออ่อนแล้วจะมีผลดีและผลเสียต่อใคร อย่างไร แล้วค่าเงินบาทที่อ่อนดีกว่าค่าเงินบาทที่แข็งจริงหรือไม่ ซึ่งก่อนอื่นขอสร้างความเข้าใจก่อนว่า ค่าเงินบาทคืออะไร ค่าเงินบาท หมายถึง จำนวนเงินบาทที่ใช้นำไปแลกเปลี่ยนกับเงินตราต่างประเทศ หรือที่เรียกว่าเงินสกุลอื่นๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ ดอลลาร์สิงคโปร์ เยนญี่ปุ่น ปอนด์สเตอร์ลิง เป็นต้น ซึ่งที่ค่อนข้างคุ้นเคยก็คือ การนำเงิน 33 บาทไปแลกกับดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือการนำเงิน 30 บาทไปแลกได้ 100 เยนญี่ปุ่น หรือ นำเงิน 63 บาท ไปแลกได้ 1 ปอนด์สเตอร์ลิง เป็นต้น โดยเวลาที่พูดกันว่า ค่าเงินบาทแข็ง ก็หมายถึง เงินบาทของเรามีค่ามากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเงินสกุลที่กำลังเปรียบเทียบอยู่ เช่น ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็คือ สมมติ เราเคยใช้เงินบาทจำนวน 36 บาทไปแลกกับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ตอนนี้ เราใช้เงินบาทใน
Paraboric SAR คือ ชื่อของเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ที่ดีที่สุดในโลก เข้าสู่วิธีการเรียกใช้งานเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ 1. เลือกIndicators มองหาคำว่า Parabolic SAR   2. จุดไข่ปลาจะปรากฎ หากจุดไข่ปลาอยู่เหนือเส้นกราฟแสดงว่ากราฟกำลังร่วง หากจุดไข่ปลาอยู่ใต้กราฟแสดงว่ากราฟกำลังขึ้น ข้อสังเกตุเมื่อจุดไข่ปลาเรียงกันเริ่มยาว กราฟจะตัดกับจุดไข่ปลาส่งผลให้จุดไข่ปลาสลับไปอยู่อีกด้านนั่นหมายถึงกราฟกำลังเปลี่ยนทิศทาง แต่ก็ไม่แน่เสมอไปถ้าจุดไข่ปลายังเรียงตัวกันไม่มากพอมันอาจจะไปต่อก็เป็นไปได้ ให้ท่านลองสังเกตุดู เมื่อได้จังหวะที่คาดว่าน่าจะมีโอกาสเข้าทำกำไรได้ให้ท่านรีบเข้าซื้อทันที   3. Moving Average คือค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่ของกราฟ 4. วิธีถอนเครื่องมือออก ให้ท่านคลิ๊กขวาบริเวณที่เครื่องมือนั้นปรากฎ เช่น จะเอา Moving Average ออกก็คลิ๊กขวาบริเวณเส้นสีแดง เลือกdelete indicator หมายเหตุ โปรดจำไว้ว่าเครื่องมือไม่ได้เป็นตัวกำหนดกราฟ แต่กราฟต่างหากที่เป็นตัวกำหนดเครื่องมือ ไม่มีเครื่องมือที่ไหนบนใบโลกนี้เป็นตัวกำหนดกราฟและให้ความถูกต้อง100%แต่เครื่องมือจะช่วยให้ท่านทำกำไรได้มากครั้งกว่าการขาดทุน