Loading...
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

4 เคล็ดลับทำกำไรด้วย Swing Trading

4 เคล็ดลับทำกำไรด้วย Swing Trading

ถ้าต้องทำงานประจำไม่ค่อยมีเวลา…จะเทรด Forex แบบไหนดี !? 
ถ้าคุณไม่ค่อยมีเวลา แต่อยากเทรด Forex กลยุทธ์ Swing Trading ช่วยคุณได้ครับ
ทำไมผมถึงแนะนำกลยุทธ์นี้ ?
เพราะ ข้อดีของการเทรดด้วยกลยุทธ์นี้ ก็คือ คุณสามารถทำกำไรในตลาด Forex ได้โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอครับ !!
กลยุทธ์การเทรดแบบ Swing Trading เป็นกลยุทธ์โปรดที่ผมใช้ทำกำไรใน Forex สาเหตุที่ผมชอบกลยุทธ์นี้ ก็เพราะ มันเหมาะกับ Life Style และ สอดคล้องกับเป้าหมายของผม กลยุทธ์นี้เน้นใช้การเคลื่อนไหวของตลาดเป็นตัวช่วยทำกำไร พูดง่าย ๆ ก็คือ เปิด Order ไว้ แล้วรอให้ราคาวิ่งไปยังจุด Take Profit เมื่อเป็นเช่นนี้ แปลว่า หากคุณเข้าใจและฝึกฝนจนชำนาญ คุณจะใช้เวลาน้อยในการ ทำการบ้าน วิเคราะห์ตลาด ตัดสินใจเปิดและปิด Order ครับ กลยุทธ์นี้จะช่วยให้คุณทำกำไรในตลาด Forex ได้ และ มีเวลาว่างไปทำอย่างอื่นด้วย และต่อไปนี้ คือ 4 เคล็ดลับทำกำไรด้วย Swing Trading ครับ
ก่อนจะไปพบกับ 4 เคล็ดลับทำกำไรด้วย Swing Trading ถ้าเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ Share บทความนี้ ให้กับเพื่อน ๆ ของคุณอ่าน ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 

เคล็ดลับที่ 1 : เข้าใจแนวคิดของ Swing Trading

  • Swing Trading เป็นเทคนิคการเก็งกำไรระยะสั้นแบบหนึ่ง เทคนิคนี้เน้นเทรดตามการแกว่งของราคาในช่วงสัปดาห์
  • ถ้าจะให้พูดง่าย ๆ ก็คือ เทคนิคนี้จะเทรดตาม Swing High และ Swing Low ที่เกิดขึ้น เช่น เข้าที่ Swing Low แล้วไปออกที่ Swing High หรือ เข้าที่ Swing High แล้ว ไปออกที่ Swing Low
  • นั่นแปลว่า เทคนิคนี้ใช้การแกว่งของราคาในระยะสั้น และมีการตั้งเป้าหมายในการออก (ไม่มีการ Run ไปจนสุดแนวโน้มแบบ Trend Trading)
  • หลายสำนักอาจให้นิยามของ Swing Trading ต่างกันเล็กน้อย แต่จุดร่วมก็คือ เวลาในการเทรด ถ้าจะให้เรียงลำดับระยะเวลาในการถือ Order จะเป็นดังนี้ Day Trading < Swing Trading < Trend Trading 
  • ข้อดีของ Swing Trading อยู่ที่ระยะเวลานี่แหละครับ เพราะใช้เวลาในการถือ Order นานกว่า Day Trading จึงทำให้เราไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอด ข้อนี้เหมาะกับคนที่ต้องทำงานประจำและคนไม่มีเวลาอย่างมาก
  • ขอเพียงแค่คุณมีเวลาดูตลาดอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง เท่านี้ก็เพียงพอที่จะเทรดด้วยกลยุทธ์นี้แล้วครับ
  • ทำไมถึงพอ ? เพราะ เวลาที่เหลือเราปล่อยให้ “ตลาดทำงานแทนเรา” หน้าที่ของเราคือ ค้นหาจุดที่เหมาะสมในการเทรด เปิด Order แล้วปล่อยให้ตลาดเคลื่อนไหวไปยังทิศทางที่เราคาดเดา ถ้าคาดเดาถูกก็ Take Profit  ถ้าคาดเดาผิดก็ Stop Loss 
  • กฎของตลาด ข้อแรกที่เราต้องรู้ (และห้ามฝ่าฝืนเด็ดขาด) ก็คือ เราควบคุมตลาดไม่ได้ ตลาดเคลื่อนไหวด้วยคนจำนวนมาก (และเงินจำนวนมาก) หากเราฝ่าฝืนกฎข้อนี้ เราจะขาดทุนอย่างหนักและหนักเข้าจนถึงขั้นเจ๊งจนต้องออกจากตลาดไป
  • แต่กฎข้อนี้มีข้อดีก็คือ เราสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ นั่นก็คือ ให้ตลาดทำงานแทนเรา เพราะ เราไม่ต้องทำอะไร ตลาด Forex ก็เคลื่อนไหวด้วยตัวมันเองได้ (เกิดจากการกระทำจากคนอื่น)
  • และนี่แหละครับ คือ ข้อดีของการเทรดแบบ Swing Trading ที่ผมอยากแนะนำให้ เทรดเดอร์ที่ยังค้นหากลยุทธ์การเทรดของตัวเองไม่เจอ มาลองศึกษา และฝึกฝนดู หากใครเทรดด้วยเทคนิคนี้อยู่แล้ว ถือว่าเป็นการเน้นย้ำความเข้าใจให้มากขึ้นครับ
  • หลายคนอาจสงสัย Swing Trading เทรดบ่อยไหม ? เทคนิคนี้จะเทรดไม่บ่อยเท่า Day Trade แน่นอนครับ จากประสบการณ์ของผม เทคนิคนี้จะเทรดเฉลี่ย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ข้อดีของการเทรดไม่บ่อย ก็คือ ทำให้เรา Focus กับตลาด ไม่ตัดสินใจบ่อย ทำให้ไม่เปลืองพลังงาน และมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้อย่างเต็มที่
  • สรุปสั้น ๆ Swing Trading คือ เทคนิคทำกำไรจากการแกว่งตัวระยะสั้นของตลาด

เคล็ดลับที่ 2 : Buy Weakness and Sell Strength ต้องจำให้แม่น

  • 2 วลีนี้เป็นสิ่งที่ Swing Trader ทุกคนต้องจำให้ขึ้นใจครับ คือ Buy Weakness and Sell Strength แปลไทยว่า “ซื้อเมื่อย่อตัว” และ “ขายเมื่อเด้งขึ้น” พูดง่าย ๆ คือ เปิด Buy เมื่อราคาย่อตัว และ เปิด Sell เมื่อราคาเด้งขึ้นไป
  • ทำไมต้องจำ 2 วลี นี้ให้ขึ้นใจ ? ตอบ เพราะมันเป็นหัวใจสำคัญของ Swing Trader อย่างเรา ๆ ครับ เพราะเทคนิคนี้จะเปิด Order แถว ๆ Swing High หรือ Swing Low ไม่ได้เปิด Order เมื่อ Breakout เราจึงต้องรอให้ราคาย่อตัวเกิด Swing Low ก่อนจึงค่อยเปิด
  • Buy Weakness มีอีกชื่อคือ Buy the dip และ Sell Strength มีอีกชื่อว่า Sell the rebound จะเรียกอย่างไรก็ได้ครับ
  • Buy Weakness เมื่อไร ? เราจะ Buy Weakness เมื่อราคาเป็น Uptrend (ใครยังไม่รู้วิธีอ่าน Trend ผมแนะนำบทความ 3 เคล็ดลับอ่าน Trend ให้แม่นด้วย Price Action ครับ) รอจนราคาย่อตัว (Retrace) แล้วจึงเปิด Order
  • Sell Strength เมื่อไร ? ข้อนี้จะทำตรงกันข้ามกับ Buy Weakness คือ เมื่อราคาเป็น Downtrend รอให้ราคาเด้งกลับขึ้นไป (Rebound) แล้วจึงเปิด Order

เคล็ดลับที่ 3 : Time Frame ใหญ่ต้องมาก่อน

  • ถ้าใครติดตาม Znipertrade.com มาสักพัก คุณจะรู้ว่าผมจะพูดถึงการใช้ Time Frame (TF) ใหญ่ในการเทรดอยู่บ่อยครั้ง
  • สาเหตุเพราะ TF ที่ใหญ่ จะให้สัญญาณที่มีน้ำหนักมากกว่า TF ที่เล็ก
  • แต่ยังมีข้อดีอีกข้อที่ผมยังไม่เคยบอกในบทความไหน ก็คือ TF ใหญ่อย่าง Time Frame Day นี่แหละครับ คือ กุญแจสู่ความสำเร็จของ Swing Trader อย่างเรา ๆ เพราะ การเทรดใน TF นี้ ทำให้เราไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ทำให้เรามีเวลาไปทำอย่างอื่น เห็นมุมมองตลาดที่กว้างกว่า TF เล็ก ๆ Signal ที่ใช้เปิด Order มีความแม่นยำ มีโอกาสถูกมากกว่า และทำให้เราไม่เทรดบ่อย ๆ ด้วย เหตุผลทั้งหมดนี่แหละครับ คือ ข้อดีของการเทรด Time Frame ใหญ่ ที่เหมาะกับ Swing Trader มาก
  • เคล็ดลับข้อนี้ ผมไม่ได้หมายความว่า เราเทรด Time Frame ที่เล็กกว่า Day ไม่ได้เลยนะครับ เราสามารถเทรด TF ที่ต่ำกว่า Day ได้อย่าง Time Frame H4 และ H1
  • แต่สิ่งสำคัญ ก็คือ การ Action ของคุณใน Time Frame เล็ก ต้องสอดคล้องกับ Time Frame ใหญ่ ครับ
  • ตัวอย่างเช่น หาก Time Frame Day เป็น Uptrend คุณต้องเปิด Buy Order (ตามหลัก Buy Weakness) หากต้องการเทรดใน Time Frame ต่ำกว่า Day คุณต้องหา Buy Signal เพื่อเปิด Order ด้วยนั่นเองครับ  (ดูตัวอย่างในรูปด้านล่าง)

  • จาก 2 รูปข้างบน จะเห็นว่า ใน Time Frame Day เป็นขาขึ้นหลังจากเกิด inside bar ที่ Key Support แต่ต่อมา Signal ที่เกิดใน TF Day น้อย เราจึงเลื่อนไปดู Signal ใน TF H4 และพบว่ามี 3 Buy Signal จาก Pin Bar จะเห็นว่า Bullish Pin Bar ที่เกิดใน TF H4 สอดคล้องกับ Daily TF ในขณะที่ Bearish Pin Bar ที่เกิดใน TF H4 นั้น Fail ถึง 2 ครั้ง เพราะ เป็น Signal ที่เกิดสวน Trend ใน Time Frame ใหญ่

เคล็ดลับที่ 4 : คุณภาพ Signal เป็นสิ่งสำคัญ

  • สำหรับ Znipertrade กล่าวถึงเฉพาะ Price Action Signal ที่ผมใช้เทรดเท่านั้นนะครับ ขอไม่กล่าวถึง Signal แบบอื่น เพราะ ผมไม่ชำนาญ
  • หัวข้อนี้เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะสับสน เพราะ จะเปรียบเทียบไม่ออกว่า Signal ไหนมีคุณภาพมากกว่ากัน
  • คำว่า คุณภาพของ Signal หมายถึง ความแรงของสัญญาณที่เกิดครับ สำหรับ Swing Trader ผมขอบอกเลยว่า ไม่ใช่ทุก Signal ที่เราจะเทรดได้ เวลาเราจะเปิด Order เราต้องพิจารณา ปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ เสมอ และหนึ่งในนั้นก็คือ คุณภาพของสัญญาณ
  • ตัวอย่างเช่น Pin Bar Signal เราจะดูคุณภาพของสัญญาณที่ ลักษณะของแท่งเทียน สำหรับ Pin Bar ความยาวของหางถือเป็นเรื่องสำคัญ แบ่งเป็น เกรด 0 เกรด C และ เกรด A
  • ใครที่อยากศึกษา Pin Bar Signal แบบเจาะลึก ผมแนะนำบทความ เจาะลึก Price Action Signal ตอนที่ 1 : Pin Bar
สรุป Swing Trading คือ การทำกำไรจากการแกว่งของราคาระยะสั้น (ช่วง Swing Low ถึง Swing High) เป็นกลยุทธ์ที่ผมชื่นชอบ เพราะ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาทำให้ไม่เปลืองพลังงาน ลดความเครียดที่เกิดขึ้นจากการนั่งดูตลาด ลดความสับสน ทำเงินได้โดย ให้ตลาดทำงานแทน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ คุณจะเหนื่อยน้อยลงเมื่อรู้จักให้ตลาดทำงานแทนคุณ กลยุทธ์นี้มีข้อดีอีกข้อคือ เทรดไม่บ่อย (เฉลี่ย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์) แปลว่าไม่ต้องตัดสินใจบ่อย เรื่องนี้สำคัญมากครับ เพราะ ทุกครั้งที่ต้องตัดสินใจ คุณต้องอยู่ในสภาวะที่พร้อมตัดสินใจด้วย ถ้าคุณไม่พร้อม การตัดสินใจครั้งนั้นจะผิดพลาดได้ง่าย อีกเรื่องคือ เมื่อเทรดไม่บ่อยก็ไม่ Overtrade การไม่ Overtrade นี่แหละครับ เป็นสิ่งที่ช่วยให้พอร์ตเราเติบโตได้ ไม่ขาดทุนหนัก ไม่มีอารมณ์ร่วมในตลาดมากไป และทั้งหมดในบทความนี้คือ 4 เคล็ดลับทำกำไรด้วย Swing Trading ที่ผมอยากให้ทุกท่านได้อ่านครับ คุณยังไม่ต้องเชื่อผมนะครับ ขอให้คุณเอาไปลองใช้ ลองฝึกดูก่อน ถ้าใครยังหากลยุทธ์เหมาะ ๆ ไม่เจอ หรือ เคยล้างพอร์ตบ่อยเสียหายไปเยอะ ผมแนะนำกลยุทธ์นี้ครับ มันช่วยคุณได้ สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านที่ติดตาม Znipertrade.com โชคดีมีกำไรครับ
Comment บอกสิ่งที่ได้รับจากบทความ หรือ Share ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านสิ่งดี ๆ ที่คุณอ่าน ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 


ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ