บทความ

เชื่อว่า เทรดเดอร์ทุกคนต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า  Moving Average (MA)  คืออะไร ถ้าใครยังไม่รู้เข้าไปดูกันได้ที่นี่ http://tradding2onlinemoney.blogspot.com/2013/06/moving-average.html ทีนี้เรามาดูระบบเทรดที่ง่ายแสนง่าย แต่สามารถทำกำไรได้จริงกันค่ะ ระบบเทรดนี้ มีชื่อเต็มว่า Amazing Crossover System 100+ pips per day  โพสโดย คุณ ForexPhantom จากเว็บไซด์ Babypips.com เป็นระบบที่ง่ายๆ แต่น่าสนใจ และทดลองใช้แล้วได้ผลค่ะ โดยคุณอาจจะโดน SL บ้าง แต่ถ้าทำตามระบบก็กำไรแน่นอน เพราะระบบนี้จะได้กำไรมากเมื่อราคาเป็นเทรน ที่สำคัญมันมีเทคนิคการดูที่ไม่ยากเลย แค่ใช้หลักการตัดกันของเส้น MA เป็นหลัก ก่อนอื่นเรามาเซ็ทกราฟกันก่อนค่ะ เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ก็เป็น Indicators บ้านๆ ที่มีมาให้ใน MT4 อยู่แล้ว หรือแม้ว่าท่านจะเทรดด้วยโปรแกรมอื่นๆ ก็เชื่อว่าต้องมีเครื่องมือเหล่านี้มาให้แน่นอน Indicators: 5 EMA - แดง 10 EMA - ฟ้า RSI  10  Apply to median Price : HL/2 ใช้เทรดได้ทุกคู่ แต่เน้นว่าให้เทรดที่ Time Frame H1 เท่านั้น (เพราะระบบใช้ Indicators ที่มีความไวอยู่แล้ว) การเข้าออเดอร์
ค่าเงินบาทแข็ง ช่วงนี้มักจะได้ยินสื่อต่างๆ พูดคำว่า ค่าเงินบาทแข็งอยู่ตลอด จึงอยากจะขออธิบายให้ฟังเพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจว่า ค่าเงินบาทแข็งคืออะไร เกิดจากอะไรได้บ้าง ค่าเงินบาทแข็งแล้วอ่อนได้หรือไม่ ถ้าแข็งหรืออ่อนแล้วจะมีผลดีและผลเสียต่อใคร อย่างไร แล้วค่าเงินบาทที่อ่อนดีกว่าค่าเงินบาทที่แข็งจริงหรือไม่ ซึ่งก่อนอื่นขอสร้างความเข้าใจก่อนว่า ค่าเงินบาทคืออะไร ค่าเงินบาท หมายถึง จำนวนเงินบาทที่ใช้นำไปแลกเปลี่ยนกับเงินตราต่างประเทศ หรือที่เรียกว่าเงินสกุลอื่นๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ ดอลลาร์สิงคโปร์ เยนญี่ปุ่น ปอนด์สเตอร์ลิง เป็นต้น ซึ่งที่ค่อนข้างคุ้นเคยก็คือ การนำเงิน 33 บาทไปแลกกับดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือการนำเงิน 30 บาทไปแลกได้ 100 เยนญี่ปุ่น หรือ นำเงิน 63 บาท ไปแลกได้ 1 ปอนด์สเตอร์ลิง เป็นต้น โดยเวลาที่พูดกันว่า ค่าเงินบาทแข็ง ก็หมายถึง เงินบาทของเรามีค่ามากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเงินสกุลที่กำลังเปรียบเทียบอยู่ เช่น ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็คือ สมมติ เราเคยใช้เงินบาทจำนวน 36 บาทไปแลกกับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ตอนนี้ เราใช้เงินบาทใน
Paraboric SAR คือ ชื่อของเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ที่ดีที่สุดในโลก เข้าสู่วิธีการเรียกใช้งานเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ 1. เลือกIndicators มองหาคำว่า Parabolic SAR   2. จุดไข่ปลาจะปรากฎ หากจุดไข่ปลาอยู่เหนือเส้นกราฟแสดงว่ากราฟกำลังร่วง หากจุดไข่ปลาอยู่ใต้กราฟแสดงว่ากราฟกำลังขึ้น ข้อสังเกตุเมื่อจุดไข่ปลาเรียงกันเริ่มยาว กราฟจะตัดกับจุดไข่ปลาส่งผลให้จุดไข่ปลาสลับไปอยู่อีกด้านนั่นหมายถึงกราฟกำลังเปลี่ยนทิศทาง แต่ก็ไม่แน่เสมอไปถ้าจุดไข่ปลายังเรียงตัวกันไม่มากพอมันอาจจะไปต่อก็เป็นไปได้ ให้ท่านลองสังเกตุดู เมื่อได้จังหวะที่คาดว่าน่าจะมีโอกาสเข้าทำกำไรได้ให้ท่านรีบเข้าซื้อทันที   3. Moving Average คือค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่ของกราฟ 4. วิธีถอนเครื่องมือออก ให้ท่านคลิ๊กขวาบริเวณที่เครื่องมือนั้นปรากฎ เช่น จะเอา Moving Average ออกก็คลิ๊กขวาบริเวณเส้นสีแดง เลือกdelete indicator หมายเหตุ โปรดจำไว้ว่าเครื่องมือไม่ได้เป็นตัวกำหนดกราฟ แต่กราฟต่างหากที่เป็นตัวกำหนดเครื่องมือ ไม่มีเครื่องมือที่ไหนบนใบโลกนี้เป็นตัวกำหนดกราฟและให้ความถูกต้อง100%แต่เครื่องมือจะช่วยให้ท่านทำกำไรได้มากครั้งกว่าการขาดทุน  
ขั้นตอนการเริ่มต้นทำ  Backtest  ระบบเทรดอัตโนมัติ  Expert Advisor (EA) 1. เมื่อเราได้รับไฟล์  EA  มาจากแหล่งต่าง ๆแล้วให้เรานำไฟล์  EA  ที่ได้มาไปเก็บไว้ที่ C: \ Program Files \ MetaTrader - EXNESS (อันนี้แล้วแต่โบรกเกอร์) \ experts \ EA Onlinemoneythai.mp4 (อีเอีของเรา) 2. หลังจากที่เรานำ  EA  เข้าสู่  Program MT4  เป็นที่เรียบร้อยแล้วให้ เปิด  Navigator  ดังรูปข้างล่างเพื่อตรวจสอบว่า  EA  ตัวที่เราต้องการอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเรียบร้อยแล้ว 3. เริ่มต้นทำการ  backtest  โดยกด  View ===> Strategy Tester  แล้วกรอกรายละเอียดตามรูปด้านล่าง การปรับตั้งค่า EA 4. ระบบจะทำการประมวลผลหลังเรากด  Start  เรียบร้อยแล้วจากนั้นให้รอจนระบบทำงานแล้วแล้วเช็คผลการทำ  backtest  ได้ที่เมนู Result ( เราสามารถเรียกผลการทดสอบออกมาเป็น  report  ได้ด้วยการคลิกขวา กด  save as report  ) ** ขอใหันักลงทุนทุกท่านประสบความสำเร็จในการใช้ระบบเทรดอัตโนมัติในการทำเงินนะครับ ** **************************************************************************************** การติด
EA บางตัว สามารถรันได้ สอง กราฟคู่ตามที่ผู้เขียนได้ กำหนดเอาไว้ วิธการรัน EA แบบ สอง กราฟ คู่ เก็บ ทั้ง ขาขึ้น และ ขาลง ตั้ง ค่าตามนี้  ในกราฟที่ หนึ่ง เลือก  only long ตามภาพแล้วกด ok ใช้EA ตัวเดิมลากใส่ในกราฟที่สองเลือกonly short  แล้ว ตรง input ปรับ ตรง นี้ ไม่ ให้ มัน เหมือน เลขเดิม เลขอะไร ก็ได้ครับ ตามภาพแล้วกด ok ขอให้ร่ำรวยด้วยกันทุกๆ ท่าน ครับ ^_^ Credit:  forexthaipop.blogspot.com
Expert Advisor  หรือที่เราเรียกกันว่า " EA" ( อีเอ) เป็นเครื่องมือสำเร็จรูปชนิดหนึ่งที่ใช้ในการเข้าเทรดในโปรแกรม   MetaTrader 4   หรือที่เรามักเรียกทั่วไปว่า " MT4 "  ซึ่งอาจจะแบ่งออกไปหลายรูปแบบ แล้วแต่ผู้สร้างต้องการให้  EA   มีเงื่อนไขการทำงานอย่างไร อีเอบางชนิดก็ใช้ในการเทรดค่าเงินในทุกสกุลเงิน ,  อีเอบางตัวก็เทรดเฉพาะเจาะจงเพียงแค่คู่เงินใด คู่เงินหนึ่ง หรือแม้แต่อีเอที่ใช้สำหรับเทรดเฉพาะช่วงข่าว เป็นต้น ซึ่งการตัดสินใจ  Short, Long  อีเอก็จะทำงานตามที่ได้โปรแกรมไว้แล้ว คุณลักษณะและคุณสัมบัติพิเศษของ  EA  คือ Expert Advisor (EA)   เป็นหนึ่งในเครื่องมือเพื่อเข้าช่วยเทรดของโปรแกรม  MetaTrader 4   ซึ่งสามารถทำงานอัตโนมัติ  100%  ได้ตลอด  24 ชั่วโมง ตลอดระยะ เวลาการลงทุน โดยเมื่อถึงจุดที่สมควรทำการซื้อ หรือขาย อีเอจะมีการสั่งคำสั่ง  Long  หรือ  Short  ออกไปยังโบรกเกอร์ หรือแม้แต่อีเอบางตัวยังสามารถจัดการเรื่องระบบการเงิน อัตราส่วนการลงทุนให้เรียบร้อย การใช้งาน  EA . ในการใช้งาน  EA  นั้นเราต้องนำ  EA  ที่ได้เข้าสู่  Program MT4   หลังจากนั้นก็ทำการ  Back Test
เสืือยืดธรรมดาที่ใคร ๆ ก็ใส่กัน แต่ไม่ธรรมดาสำหรับนายเจสัน แซดเลอร์  เพราะนายเจสันทำให้เสื่อยืดธรรมดา ๆ หาเงินให้เค้าได้ 3 ล้านบาทต่อปี!! เจสัน แซดเลอร์  วัย 26 ปี เป็นหนุ่มอเมริกันว่างงาน  ในอดีตเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดจากรัฐฟลอริดา  เขาหารายได้ด้วยไอเดียแปลก คือ “รับจ้างใส่เสื้อยืด” ?!! อ้าว…แล้วใครจะมาจ้างให้ใส่เสื้อยืดทำไมกันหล่ะ?  ก็บiริษัทที่ต้องการหาคนช่วยโฆษณาน่ะสิ ทุกวันนายเจสันจะทำตัวเองเป็นเหมือนป้ายโฆษณาเคลื่อนที่ ด้วยการรับจ้างสวมเสื้อยืดที่มีข้อความโฆษณาของบริษัทลูกค้า เดินไปตามสถานที่ต่างๆ ทั้งวัน แล้วถ่ายรูปนำไปลงในเว็บไซต์ทวีตเตอร์ เฟซบุ๊ก ยูทูบ คิดค่าจ้างตามจำนวนวันของปี เริ่มจาก 1 ดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 1 มกราคม ไปจนถึง 365 ดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 31 ธันวาคม หากมีคนจ้างโฆษณาทุกวันเขาจะมีรายได้ 66,795 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.27 ล้านบาท) และยังขายโฆษณาเป็นรายเดือนอีกเดือนละ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 51,000 บาท) 12 เดือนรวม 18,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 612,000 บาท) ไม่น่าเชื่อไอเดียแบบนี้สามารถสร้างเงินให้เขาได้ราว 85,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.89 ล้านบาท) ต่อปี จนสามารถเปิดบริษัท
ถ้ามีคนบอกว่าคลิปหนีบกระดาษหนึ่งอันสามารถเอาไปแลกเป็นบ้านได้หนึ่งหลัง  คุณคิดว่าเป็นไปได้ไหม?? หลายคนอาจจะบอกว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน  แต่ลองอ่านเรื่องของชายคนนี้ก่อนแล้วคำตอบของคุณจะเปลี่ยนไป Kyle MacDonald นักเขียนบล็อกชาวแคนาดา เกิดไอเดียแปลกสุดล้ำที่จะเอาคลิปหนีบกระดาษหนึ่งอันไปแลกเป็นบ้านหนึ่งหลัง  ไอเดียสุดแปลกนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมส์ในวัยเด็กที่ชื่อ Bigger Better คือการไล่แลกของไปเรื่อยเพื่อให้ได้ของที่มีมูลค่ามากขึ้นๆ Kyle ได้หาของชิ้นเล็ก ๆ ในบ้านเพื่อเริ่มทำโปรเจคนี้ และของที่ถูกใจที่สุดก็คือคลิปหนีบกระดาษสีแดง  หลังจากนั้นเค้าก็สร้างเว็บไซด์เพื่อบอกเรื่องราวของเค้า พร้อมทั้งหาคนที่พร้อมที่จะแลกสิ่งของที่มีค่ากับของของเค้า  ผลปรากฏว่ามีคนสนใจเข้ามาอ่านเรื่องราวของเค้ามากมาย   และ Kyle ก็ได้แลกของไปเรื่อย ๆ เริ่มจาก…แลกคลิปหนีบกระดาษกับปากกาปลา จนสุดท้ายแลกได้บ้านหนึ่งหลังจริง ๆ !! Kyle ใช้เวลา 1 ปีในการทำไอเดียสุดแปลกของเค้า ซึ่งหลังจากที่แลกคลิปหนีบกระดาษได้เป็นบ้านแล้ว เค้าได้เขียนหนังสือเรื่อง One Red Paperclip: How a Small Piece of Stationery Turned into