บทความ

คุณ gspajon ตั้งกระทู้ถามว่า เค้าอยากรู้ว่าคนที่นี่ใช้ Fibonacci กันบ้างรึเปล่าและถ้าใช้มักจะดูที่ตำแหน่งไหนกันบ้าง และ ทำไมถึงดูที่ตำแหน่งนั้น นอกจากนี้แล้วยังถามอีกว่า คุณทุ่มความเสี่ยงของคุณทั้งหมดลงที่ตำแหน่งนั้นเลยรึเปล่า คุณ GnarlyPips เข้ามาตอบแบบเป็นสำนวณเปรียบเปรยระหว่างการเทรดกับพืชว่า พืชไม่ได้โตตาม Fibonacci ถึงแม้ว่า Fibonacci สามารถอธิบายได้ในเรื่องของพืช มันก็เหมือนกับที่ Fibonacci สามารถคำนวณความเป็นไปได้ของแนวรับแนวต้านแต่ก็ไม่ได้สมารถกำหนดได้ว่ากราฟจะต้องวิ่งไปถึงตรงตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้แล้วจะกลับตัว โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ได้ใช้Fibonacci หรอกยกเว้นว่าราคาจะไปเจอแนวรับแนวต้านที่สำคัญ ๆ เข้าก็อาจจะวัดบ้างเป็นครั้งเป็นคราวส่วนมากก็ดูที่ 61.8% นั่นละ มีคนเข้ามาตอบว่าเขาดู Fibonacci ที่ 50% และก็มีคนมาตอบว่า ความจริงแล้วแนว 50% ไม่ได้มีติด Fibonacci มาตั้งแต่แรกแต่มันมาจากทฤษฏีดาวต่างหาก (Dow Theory)  จขกท. เข้ามาตอบว่าตัวเขาเคยลองจดบันทึกราคาดูเวลาที่มันปรับฐานเขาพบว่า 38.2% มีความเป็นไปได้ 4% ต่อครั้ง 50.0% มีความเป็นไปได้ 35% ต่อครั้ง 61.8% มีความเ
อย่างที่เรารู้กันดีว่า คุณสมบัติพื้นฐานที่ควรจะมีอย่างหนึ่งของระบบเทรดที่ดี คือ  ใช้ง่าย ดูง่าย ไม่ซับซ้อน  ในบทความก่อนหน้าเราได้แนะนำให้ท่านได้รู้จักกับหลักการทำงานและเทคนิคเล็กๆน้อยๆในการวิเคราะห์กราฟด้วย EMA200 กันไปแล้ว ในบทนี้เราก็มาแนะนำการสร้างระบบเทรดแบบง่ายๆ ด้วย EMA200 กับเครื่องมือพื้นฐานที่มีมากับโปรแกรมเทรดทั่วไป เทรดด้วย  EMA200  กับ  MACD ถ้าพูดถึง MACD คงไม่มีเทรดเดอร์คนไหนที่ไม่รู้จัก MACD เป็นเครื่องมือที่คลาสสิคตลอดกาล เป็นที่นิยมกันมากไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์รุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ กลักการทำงานโดยทั่วไปของ MACD สามารถเข้าไปดูได้ที่บทความเรื่อง MACD ในส่วนนี้เราจะใช้เครื่องมือ 2 อย่างคือ EMA200 และ MACD เซทค่าพื้นฐานคือ 12,26,9 รูปแบบการเทรดแบบแรก คือ การเทรดเมื่ออยู่ในเทรนที่ชัดเจน  จากภาพตัวอย่าง EMA200 บอกเราว่าราคาอยู่ในเทรนขาลง แล้วเราใช้สัญญาณจาก MACD เพื่อระบุจุดเข้า- ออก ออเดอร์ของเรา พิจารณาจากภาพตัวอย่างต่อไปนี้ ตามตัวอย่างเป็นราคาอยู่ในเทรนขาลง เราจะเข้าเซลอย่างเดียว (เทรดตามเทรน) และจะเข้าเมื่อ Histoream ของ MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับของเส้
คุณทราบหรือไม่ว่า ข้อมูลตลาดหุ้น (ตลาดหลักทรัพย์) สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำนายการเคลื่อนไหวในตลาดค้าสกุลเงินได้ อย่างเช่นข้อมูลข่าวสารที่คุณได้รับจากสื่อต่างๆ เช่น จากโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ เพราะดูเหมือนว่าตลาดหุ้นเป็นตลาดทุนส่วนใหญ่ที่ครอบคลุมตลาดการลงทุนอย่างใกล้ชิด แต่สิ่งหนึ่งที่คุณลืมไม่ได้คือ ถ้าต้องการจะซื้อหุ้นจากประเทศใดประเทศหนึ่ง คุณจะต้องมีสกุลเงินท้องถิ่น เช่น นักลงทุนชาวยุโรปต้องการจะลงทุนในญี่ปุ่น สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือแลกเปลี่ยนเงินสกุลยูโร (EUR) ของเขาเป็นเงินเยน (JPY) ของญี่ปุ่นก่อน ถ้าความต้องการที่จะลงทุนในญี่ปุ่นมีมาก ก็จะมีผลทำให้ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้น และถ้ามีการขายยูโรมากขึ้น ก็มีผลทำให้ ค่าเงิน ยูโรอ่อนค่าลงด้วยเช่นกัน เมื่อการลงทุนในตลาดใดก็ตามมีภาพรวมออกมาดี ก็จะมีเงินจากต่างชาติไหลเข้ามาลงทุน แต่เมื่อใดที่ตลาดมีภาพรวมว่ากำลังย่ำแย่ นักลงทุนต่างชาติก็จะถอนการลงทุน และไปหาที่ลงทุนใหม่ทีดีกว่า แม้ว่าคุณจะไม่ได้เทรดหุ้น แต่ในฐานะ Forex เทรดเดอร์ คุณก็ควรจะใส่ใจกับตลาดหุ้นในประเทศที่สำคัญ ถ้าตลาดหุ้นในประเทศใดประเทศหนึ่งเริ่มจะมีประสิทธิภาพ
นาย Ishtana มาตั้งกระทู้ว่าตัวเค้าหาแนวรับแนวต้านจากการใช้ indicator ที่ช่วยในการคำนวณหาค่า pivot ตัวหนึ่งแต่เค้าเอาไปใส่ในกราฟคู่เงินตัวเดียวกันแต่ต่างโบรกเกอร์ ผลที่ได้คือมันคำนวนออกมาไม่ตรงกันเลยทั้ง 5 โบรกเกอร์แล้วแบบนี้เค้าจะรู้ได้ยังไงว่าโบรกเกอร์ไหนมีแนวรับแนวต้านใกล้เคียงกับความจริงที่สุด ในความคิดของเค้า เค้าบอกว่าเราในฐานะเทรดเดอร์ควรจะหาแนวรับแนวต้านที่แนวนอนให้เจอเพราะพวกพี่บิ๊กทั้งหลายใช้แนวเหล่านั้น เค้าเดาว่าเหตุผลที่แนวรับแนวต้านขชองแต่ละโบรกเกอร์ไม่น่าเชื่อถือเหมือนในรูปเพราะเทรดเดอร์ที่โตเกียวใช้แนวรับแนวต้านไม่เหมือนกับของคนที่ทางฝั่งอเมริกาใช้รึเปล่า ใครก็ได้ช่วงให้คำตอบกับเขาที ตัวอย่างกราฟจริงทั้ง 5 คุณ Hatzerim เข้ามาตอบแบบสั้น ๆ ว่า ผมว่ามันดูรุงรังไปนะแค่แนวรับแนวต้านจากสายตาของคุณก็น่าจะเพียงพอแล้ว คุณ Robertk ตอบว่า หากคุณใช้ Fibonacci แล้วละก็ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไปเพราะมันเหมือนกันหมดทุกโบรกเกอร์ ยกเว้นว่าคุณจะมองสวิงผิดอะนะ และคุณ GnarlyPips ก็เข้ามาเสริมคำตอบของคุณ Robertk ว่า แนวรับแนวต้านบอกอะไรกับคุณ สำหรับผมแนวรับแนวต้านคือบริเวณที่มีความเป็นได้ที่จะสา
สภาพแวดล้อมในตลาด เปรียบเทียบระหว่าง ชายคนสองคนที่ไปรบในสงคราม ชายที่โง่จะรีบเปิดศึกโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่มีการวางแผน เหมือนคนที่หิวโหยและรีบกินทุกอย่างที่ขวางหน้าในงานเลี้ยงบุฟเฟ่ต์ ส่วนคนฉลาดจะวิเคราะห์สถานการณ์ก่อน เพื่อให้รู้ถึงสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้รู้ว่าตนเองควรจะสู้อย่างไร ในการเทรดก็เหมือนการทำศึกในสงคราม เราควรจะรู้ว่าสภาวะในตลาดเป็นแบบไหนก่อนที่จะเริ่มวางแผนว่าจะเทรดอย่างไรดี  เทรดเดอร์บางคนหงุดหงิดและบอกว่า ระบบเทรดที่ใช้ไม่ดี ในความเป็นจริงระบบเทรดที่ใช้บางครั้งมันก็ใช้การไม่ได้ แต่ในบางครั้งมันก็ทำกำไรให้อย่างมากมาย ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราได้ใช้ระบบเทรดที่เหมาะสมกับสภาพตลาดในขณะนั้นๆ สำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ช่ำชองแล้ว พวกเขาจะพยายามหากลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อใช้ในการเทรดสำหรับสภาพแวดล้อมของตลาดในปัจจุบัน เช่น เวลานี้ควรจะใช้ Fibonacci เพื่อหาโซนปรับตัวของราคา (Retracement) หากราคาวิ่งเป็นเทรน หรือว่าราคาวิ่งอยู่ในกรอบราคา (Rang Holding) แล้วเราควรจะเล่นอย่างไรในสถานการณ์ตลาดที่แตกต่างกัน การที่เรารู้ว่าสภาวะตลาดเป็นเช่นไรทำให้เราสามารถ
การเลือกโบรคเกอร์ เราต่างก็รู้จัก Forex  กันดีพอสมควรอยู่แล้ว และอย่างที่เรารู้กันดีอยู่ว่า เราไม่สามารถเทรดในตลาด Forex ได้ถ้าไม่มีโบรคเกอร์ และแน่นนอนว่าเราคงอยากเทรดกับโบรคเกอร์ดีๆ ที่สามารถให้บริการได้ตรงกับความต้องการของเรา ดังนั้น เราจึงต้องพิจารณาให้ดีก่อนที่จะเลือกเทรดกับโบรคเกอร์ซักแห่ง แต่ก่อนที่จะเลือกโบรคเกอร์ซักแห่งก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับความเป็นมาคร่าวๆ และประเภทของโบรคเกอร์กันก่อนดีกว่า ความเป็นมาของเทรดเดอร์รายย่อยในตลาด   Forex เมื่อลองย้อนกลับไม่เมื่อยุค 90 การเข้ามาเทรดในตลาด Forex นั้นเป็นเรื่องที่ยากมากเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมที่สูงมาก ผู้ที่จะเข้ามาเทรดในตลาดแห่งนี้ได้นั้นจะมีเฉพาะมหาเศรษฐีที่มีเงิน ห้าสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นผู้ที่จะเข้ามาเทรดส่วนใหญ่จึงเป็นพวกสถาบันการเงิน หรือบริษัทใหญ่ๆเท่านั้น ในช่วงนั้นรัฐบาลเข้มงวดมากในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน และหลังจากนั้น  CFTC (Commodity Futures Trading Commission หรือ คณะกรรมการกากับดูแลตลาดอนุพันธ์ของสหรัฐฯ) ได้เปิดทางให้มีพระราชบัญญัติใหม่ขึ้น 2 ฉบับ คือ Commodity Exchange และ  Commodity Futures Modern
คุณ Patrik_Forex เข้ามาตั้งกระทู้บอกว่า เขาเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ที่พยายามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Forex กับการเทรดอยู่ หลังจากที่เขาได้เก็บข้อมูลมาสักพัก เขาก็เริ่มเห็นว่าแต่ละคนมีกลยุทธ์หรือระบบการเทรดที่แตกต่างกันออกไป เขาจึงมาตั้งกระทู้ นี้เพราะอยากได้คำแนะนำดี ๆ ว่าจะมีกลยุทธ์ไหนบ้างที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์หน้าใหม่ และ กลยุทธ์ไหนบ้างที่คุณดิดว่าดีที่สุด สำหรับคุณ  คุณ FerruFx มือเก๋าประจำบอร์ดก็เข้ามาตอบก่อนคนแรกเลยว่า ก่อนที่คุณจะมองหากลยุทธ์ที่ดีที่สุด ผมว่าคุณควรเริ่มจากการ เรียนรู้ที่จะเทรดด้วยตัวเองก่อนนะครับ แล้วประสบการณ์จะเป็นตัวบอกคุณไปหาคำตอบที่คุณกำลังถามอยู่ได้ และความเห็นส่วน ตัวนะครับ ผมว่าการหาระบบเทรดที่ดีที่สุดที่คุณตามหาจะทำให้คุณไม่ได้ก้าวไปไหนหรือเติบโตขึ้นเลย หลาย ๆ คนเข้ามาเห็นด้วยกับคุณ FerruFx บางคนก็แนะนำว่า ก่อนจะเริ่มเทรดควรจะเริ่มจากการเทรดบัญชีเดโม่ก่อนนะ คุณ FerruFx ก็เข้ามาเสริมว่า การเริ่มบัญชีเดโม่ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่แต่การเทรดบัญชีเดโม่จะไม่ช่วยฝึก เทรดเดอร์ในเรื่องของทักษะการควบคุมอารมณ์ในการเทรด  คุณ Patrik_Forex ก็เข้ามาขอบคุณคนที่