บทความ

ข้อดีของ Forex ตลาด Forex นั้นมีข้อดีมากมาย ซึ่งทำให้คนจำนวนมากเลือกที่จะลงทุนในตลาดนี้ เราจะยกตัวอย่างมาบ้างข้อ เช่น 1.ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ไม่มีการหักค่าธรรมเนียมจากบัญชีของเรา ไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมจากการซื้อขาย หรือค่าธรรมเนียมจากโบรคเกอร์ โบรคเกอร์ต่างๆจะได้ค่าตอบแทนในบริการของพวกเขาจากสิ่งที่เรียกว่า Spread 2.ไม่พ่อค้าคนกลาง ตลาด Forex ไม่มีพ่อค้าคนกลาง คุณสามารถซื้อขายสกุลเงินต่างๆจากตลาดได้โดยตรง ทำให้ราคาที่คุณซื้อขาย คือราคาจริงๆของแต่ละสกุลเงินในตลาด 3.ไม่มีการกำหนดขนาดการซื้อขาย ในตลาดฟิวเจอร์หรือตลาดหุ้นจะมีการกำหนดขนาดการซื้อขายต่อ 1 หน่วยไว้ เช่น Silver futures กำหนดขนาดมาตรฐานไว้ 5,000 ออนซ์ต่อ 1 หน่วย แต่ในตลาด Forex คุณสามารถเลือกขนาดการลงทุนได้ ซึ่งเราเรียกว่า Lot ทำให้คุณสามารถเริ่มต้นลงทุนในตลาด Forex ด้วยเงินที่น้อยมากได้เช่น 25 ดอลลาร์ (ขึ้นอยู่กับแต่ละโบรคเกอร์จะอนุญาติให้คุณเปิดบัญชีขั้นต่ำเท่าไร) 4.เป็นตลาดที่เปิดทำการ 24 ชั่วโมง เวลาในประเทศไทย ตลาดจะเปิดตั้งแต่ 5.00 AM ในเช้าวันจันทร์ ถีง 3.00 AM ช่วงเช้าวันเสาร์ โดยจะเปิด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่
Forex คืออะไร ถ้าคุณเคยเดินทางไปต่างประเทศ คุณจะต้องเคยเห็นบูธสำหรับแลกเปลี่ยนสกุลเงินตามสนามบินหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และคุณจะต้องเคยนำเงินในกระเป๋าของคุณเข้าไปแลกเปลี่ยนให้เป็นเงินสกุลของประเทศที่คุณเดินทางไป เพื่อเอาไว้ใช้จ่ายซื้อของในประเทศนั้น การทำอย่างนี้ก็คือคุณได้เข้ามามีส่วนร่วมในตลาด Forex แล้ว คือคุณมีการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน เช่นคุณขายเงินของคุณซึ่งเป็นสกุลเงินบาทและซื้อเงินสกุลดอลลาร์มาเก็บไว้ใช้จ่าย และสมมติตอนคุณกำลังจะเดินทางกลับประเทศ คุณได้เข้าไปที่บูธแลกเปลี่ยนสกุลเงินเพื่อจะนำเงินดอลลาร์ที่เหลือจากการใช้จ่ายมาแลกเปลี่ยนคืนให้เป็นสกุลเงินบาท คุณพบว่าสกุลงินดอลลาร์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น และจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่เปลี่ยนไป ทำให้คุณสามารถทำกำไรจากการแลกเปลี่ยนเงินคืนได้ ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (Foreign Exchange) หรือปกติเราเรียกว่า “Forex” หรือ “FX” เป็นตลาดการเงินการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ต่อวัน ตลาด Forex จะมีขนาดใหญ่กว่ามากอย่างเทียบกันไม่ได้ คื
Chart Pattern รูปแบบซ้อนทับ Chart Pattern by Thaiforexschool รูปแบบกราฟหรือ Pattern นั้น คือรูปแบบของราคาที่เคลื่อนที่อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสามารถใช้ในการคาดการณ์ถึงภาวะราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ทั้งนี้รูปแบบกราฟอาจมีรูปแบบที่ต่างๆขึ้นมาก่อนที่จะเป็นรูปแบบใหญ่ที่เรา วิเคราะห์ไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งจะเชื่อมต่อกันหรืออยู่ภายในรูปแบบใหญ่นั้นเอง รูปแบบกราฟเช่นนี้เรียกว่า “รูปแบบซ้อนทับ” รูปแบบซ้อนทับคือ การที่ราคากำลังจะทำ Pattern อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ในขณะที่กำลังทำส่วนประกอบของ Pattern นั้นอยู่ ราคาได้มีการทำ Pattern ซ้อนขึ้นมา ซึ่งทำให้คาดการณ์ถึงภาวะตลาดที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ยากยิ่งขึ้น หรือจะเรียกอีกนัยคือ ราคากำลังทำPattern หลัก ในขณะที่กำลังทำนั้น ราคาได้มีการทำ Patternรอง ซึ่ง Patternรองนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของ Patternหลัก เกิดขึ้นมากกว่าหนึ่ง Patternที่เป็น Patternรอง และสามารถเกิดได้ทุกรูปแบบของ Chart Pattern   คือ 1. รูปแบบกลับตัว (Reversal Patterns) 2. รูปแบบต่อเนื่อง (Continuous Patterns) 3. รูปแบบที่เป็นไปได้ทั้งสองทาง (Bilateral Patterns) จน หลายครั้งทำให้เราไม่แน่ใจถึง Pat
6.การใช้ Ichimoku เต็มรูปแบบ(ตอนจบ) การเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ Ichimoku ก่อนอื่นเราต้องจำชื่อแต่ละเส้นให้ได้ก่อนนะครับ ว่ามันมีลักษณะยังไง มีหลักการแบบไหน เมื่อมันอยู่รวมกันเราจะได้วิเคราะห์ถูก ว่าเส้นนี้คือเส้นอะไร มีความสำคัญอย่างไร เมื่อทุกเส้นมารวมกันจะได้กราฟดังนี้ การเข้า Buy 1.เมื่อ Tenkan sen ตัด Kijun sen ขึ้นไป แล้วแท่งเทียนยืนอยู่เหนือ เส้นทั้งสอง 2. Tenkan sen , Kijun sen , และแท่งเทียน ต้องอยู่บน Senkou Span (kumo หรือ Cloud) 3. Chinkou span ตัด แท่งเทียนในอดีตขึ้นมา Ex.1 อีกหนึ่งความลับของ Ichimoku ก็คือ การดูสัญญาณยืนยัน (Confirmation signal ) เราสามารถดูได้จาก เส้น chinkou span - ราคามีการดีดกลับ จากขาลงกลายเป็นขาขึ้น แต่เราไม่สามารถรู้ได้ว่า มันจะขึ้นจริงหรือหลอก จุดสังเกตแรกที่จะสามารถบอกเราได้ว่ามันกำลังจะขึ้นก็คือ * จุดที่ Chinkou span ( Lagging line ) ตัดแท่งเทียน แล้วก็ตัด Senkou span A ขึ้นไป ดังรูป จุดยืนยันที่สองคือ Chinkou span ตัด Senkou span B ขึ้นไป ดังรูป การเข้า Sell ก็ทำตรงข้ามกับ Buy นะครับ Ex. การเข้า Sell ผมหวังว่าบทความที่ผมได้เขียนคงเป็นประโยชน์แก่เ
5.หลักการของ Chikou Span ใน Ichimoku หลักการของ Chikou Span ที่อยู่ใน Ichimoku Chinkou span ก็ถือ เส้นราคาที่แสดงราคาปิด แต่ถูก Shift ไปด้านหลัง Chikou span มีความสำคัญมากเพราะมันเป็นราคาปัจจุบันเพียงแค่ถูกเลื่อนไปอยู่ช้ากว่าราคาเท่านั้นเอง กฎทั่วไปของ Chinkou span คือ 1. เมื่อ chinkou span ตัดแท่งเทียนขึ้นไป และอยู่เหนือแท่งเทียนนั้น แล้วราคามีการเคลื่อนที่ขึ้น แสดงว่า แนวโน้มกำลังจะขึ้น ดังรูปครับ วงกลมที่ 1 คือ chinkou span เมื่อchinkou span อยู่บนแท่งเทียนในอดีต แล้ว chinkou span มีความชันเป็นบวก แสดงว่าสภาวะกระทิง (Bullish) ราคาจะมีการขึ้นต่อ 2. เมื่อ Chinkou span ตัดผ่านแท่งเทียนแท่งมาและอยู่ต่ำกว่าแท่งเทียนในอดีต แล้วราคาเคลื่อนที่ลง แสดงว่าแนวโน้มกำลังจะลง ดังรูปด้านล่างครับ จากกราฟด้านบน chinkou span ตัดแท่งเทียนในอดีตลง และอยู่ต่ำกว่าแท่งเทียน แสดงว่า สภาวะของตลาดปัจจุบันกำลังจะเป็นขาลง (bearish) จากที่ผมได้กล่าวมาด้านบน เป็นหลักการพื้นฐาน เรายังสามารถใช้ chinkou span เป็นแนวรับ(support)และ แนวต้าน(resistance) ได้อีกด้วย นอกจากนี้ เรายังใช้เส้น chinkou span เพื่อหาจุดกลับตัว
4.หลักการของ Tenkan sen Vs. Kijun Sen เมื่อสองเส้นนี้มันตัดกัน การทำกำไรโดยใช้หลักการตัดกันระหว่าง Kijun sen และ Tenkan sen ผมได้อธิบาย หลักการของ kijun sen และ tenkan sen ใน Ichimoku ไปแล้ว ตอนนี้เราจะเอาทั้งสองเส้นนี้มาใช้ร่วมกันโดยหลักการง่ายๆ คือ 1. เมื่อ tenkan sen ตัด kijun sen ขึ้น แล้วราคาสามารถยืนอยู่เหนือทั้งสองเส้นนี้ได้เป็นสัญญาณ Long (buy) Ex.1 สัญญาณ Buy 2. เมื่อ tenkan sen ตัด Kijun sen ลง แล้วราคาสามารถอยู่ต่ำกว่าทั้งสองเส้นนี้ได้ เป็นสัญญาณ Short(sell) 3. เมื่อราคาได้ทะลุเส้นทั้งสองไปแล้ว ราคามักจะกลับมาทดสอบทั้งสองเส้นนี้อีกครั้ง แต่โดยส่วนใหญ่ราคามักจะมาทดสอบเส้น kijun sen หรือที่เรียกว่า Retest ดูรูปกันเลยครับ **แนะนำนะครับสำหรับการ Retest ให้ใช้เฉพาะ กราฟขาลงเท่านั้น เพราะกราฟขาลงจะแรงกว่ากราฟขาขึ้น Time Frame ที่แนะนำ 15 นาที และ 30 นาที credit  http://richmoneyforex.blogspot.com
3.หลักการทั่วไปของ Kijun Sen ใน Ichimoku หลักการทั่วไปของ Kijun Sen ที่อยู่ใน Ichimoku ใน Ichimoku จะมี Slow ma อยู่หนึ่งเส้น นั่นก็คือ Kijun Sen ซึ่งมี Period ที่มากกว่าเส้น Tenkan Sen Kijun Sen โดยทั่วไปจะใช้เป็นแนวรับแนวต้าน และดูความชัน แต่ความสำคัญของความชันน้อยกว่า Tenkan Sen เมื่อ ราคาทะลุผ่าน Kijun Sen ขึ้นไป และแท่งเทียนสามารถปิดเหนือเส้น Kijun Sen ได้ แสดงว่าแนวโน้มกำลังจะเป็นขาขึ้น เมื่อ ราคาทะลุผ่าน Kijun Sen ลงมา และแท่งเทียนสามารถปิดต่ำกว่า เส้น Kijun Sen ได้ แสดงว่าแนวโน้มกำลังจะเป็นขาลง เมื่อ Kijun Sen มีความชันเป็นศูนย์ ( kijun sen อยู่ในแนวระนาบ ) ถ้าเส้นอยู่ในแนวระนาบยาวๆ (Flat) เส้นนี้จะกลายเป็นแนวรับ/แนวต้านที่มีความแข็งแกร่งพอสมควร แต่โดยส่วนมากผมจะใช้เส้นนี้เพื่อเป็นแนวรับแนวต้าน และเป็นจุด Stop loss เราสามารถเปิดกราฟที่ช่วงเวลาใหญ่ๆเพื่อดูแนวรับแนวต้าน credit  http://richmoneyforex.blogspot.com
2.หลักการทั่วไปของTenkan Sen ใน Ichimoku Tenkan Sen มีลักษณะคล้ายๆกับเส้น Moving Average ที่มี Period น้อยๆ ซึ่งผมได้ตั้ง Tenkan Sen เป็นสีแดง หลักการของเส้นนี้ เป็นหลักการทั่วไปการตัดกันของ ma cross หลักการวิเคราะห์ของ Tenkan Sen -เมื่อราคาตัดผ่านเส้น Tenkan Sen ขึ้นไป แล้วราคาอยู่เหนือ Tenkan Sen และความชันของ Tenkan Sen เป็นบวก แสดงว่า เป็นแนวโน้มขึ้น -เมื่อราคาตัดผ่านเส้น Tenkan Sen แล้วราคาอยู่ต่ำกว่าเส้น Tenkan Sen และความชันของ Tenkan Sen เป็นลบ แสดงว่า เป็นแนวโน้มลง ตัวอย่าง การเข้า Long (Buy) Ex.1 Credit   http://richmoneyforex.blogspot.com
1.หลักการทั่วไปของ Senkou Span ใน Ichimoku หลักการทั่วไปของ Senkou Span ใน Ichimoku Senkou Span เป็นส่วนประกอบของ Ichimoku ซึ่ง Senkou Span จะแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ Senkou Span A และ Senkou Span B Senkou Span ไม่ได้บอกแนวโน้มในอนาคต แต่ Senkou Span จะถูก Shift ไปด้านหน้าของราคา ดังรูป เราจะเห็นว่า Senkou Span ถูก Shift ไปด้านหน้าของราคา เส้นสีเหลืองคือ Senkou Span A และเส้นสีขาวคือ Senkou Span B เส้นประที่อยู่ระหว่าง Senkou Span ทั้งสองเส้น เราจะเรียกกว่า ก้อนเมฆ (Cloud ) หรือเรียกว่า Kumo Kumo เปรียบเสมือนจุดสมดุลของกราฟ เมื่อราคาอยู่ภายใน Kumo มันจะสะสมพลังเพื่อไปในทิศทางใด ทิศทางหนึ่ง ดังรูปด้านล่าง เมื่อราคาอยู่ภายใน Kumo เราต้องรอจนกว่าราคาจะทะลุทางใดทางหนึ่ง ถ้าราคาทะลุ Kumo ขึ้นไปด้านบน ให้ Long (Buy ) และถ้าราคาทะลุ Kumo ลงไปด้านล่าง ให้ Short (sell) เมื่อ Senkou Span เป็น Flat ราบเรียบขนานไปกับพื้นเป็นเส้นตรงยาวๆ หมายความว่า เส้น Senkou Span จะกลายเป็น แนวรับ/แนวต้านในทันที Ex.1 Ex.2 กฎทั่วไปของ Kumo (Senkou Span) ถ้า Senkou Span A อยู่สูงกว่า Senkou Span B ,ให้ Long (buy ) ถ้า