Risk-Based Entry: กลยุทธ์เทรดที่เริ่มจากการป้องกันความเสี่ยง

 


Risk-Based Entry: กลยุทธ์เทรดที่เริ่มจากการป้องกันความเสี่ยง

            👉👉เคยไหมที่ยิ่งป้องกันความเสี่ยง ยิ่งตั้ง SL เงินยิ่งหดหาย เอ๊ะทำไมเงินมันเสียมากกว่าได้นะ มาครับ มาลองอ่านบทความนี้กันแล้วเราจะเอ๊ะน้อยลง👈👈

📌 Risk-Based Entry คืออะไร?

                    Risk-Based Entry คือ กลยุทธ์การเข้าเทรดโดยพิจารณาความเสี่ยง (Risk) เป็นจุดเริ่มต้นของทุกการตัดสินใจ  พูดง่ายๆก็คือ 

                "เทรดจากจุดที่ถ้าแพ้ เรารับไหว และถ้าชนะ มันคุ้มค่ากับที่เราเสี่ยง"

กลยุทธ์การเข้าเทรดรูปแบบนี้ ไม่ใช่แค่ดูสัญญาณเข้าที่แม่นยำอย่างเดียวแต่ให้ความสำคัญกับ

                    1. การวาง Stop Loss (SL) ที่เหมาะสม

                    2. การคำนวณขนาดล็อต (Position Size)

                    3. การประเมิน Risk/Reward Ratio

                    4. การเลือกจุดเข้าที่ “คุ้มค่า” ที่สุดสำหรับเงินทุน


🎯 ทำไม Risk-Based Entry ถึงสำคัญ?

                    ✅ ควบคุมการขาดทุน   ช่วยให้ขาดทุนอยู่ในกรอบที่ยอมรับได้
                    ✅ มีวินัย   ทำให้เทรดเดอร์ไม่ไล่ราคา
                    ✅ ลดความเครียด   เพราะรู้ล่วงหน้าว่าเสียได้เท่าไหร่
                    ✅ ปรับจุดเข้าให้เหมาะกับทุน  ไม่ Overtrade หรือ Undertrade


วิธีใช้ Risk-Based Entry แบบ Step-by-Step

✅ 1. ระบุ “Risk Amount” ต่อการเทรด

กำหนดความเสี่ยงเป็น % ของพอร์ต เช่น:

  • ทุน 10,000 บาท

  • เสี่ยงครั้งละ 1% = 100 บาท


✅ 2. หาจุดเข้า (Entry) และ Stop Loss (SL)

เช่นในคู่ EUR/USD:

  • จุดเข้า Buy ที่ 1.0800

  • SL ที่ 1.0780 (ห่าง 20 pips)




✅ 3. คำนวณ Position Size

ใช้สูตร:

Position Size = เงินที่เสี่ยง ÷ จำนวน pips × pip value

ตัวอย่าง:

  • เงินที่เสี่ยง: 100 บาท

  • SL = 20 pips

  • 1 lot = 10 USD/pip → 0.01 lot = 0.1 USD/pip ≈ 3.5 บาท/pip
    → เปิดขนาด 0.14 lot (ประมาณ)

สามารถใช้เครื่องคำนวณ Lot เช่น:

  • myfxbook Position Size Calculator

  • หรือแอป MT4/MT5 + สูตรคำนวณเอง


✅ 4. ตั้ง TP ตาม Risk/Reward ที่ต้องการ

เช่น RR = 1:2

  • SL = 20 pips → TP = 40 pips

  • หากเข้า 1.0800 → TP = 1.0840


✅ 5. ประเมิน “คุณภาพของจุดเข้า”

  • มีแนวรับแนวต้านไหม?

  • มี OB หรือ FVG รองรับไหม?

  • ตลาดมี Volume หรือข่าวใหญ่ไหม?

หากไม่มี → รอจังหวะที่ Risk คุ้มค่ากว่า


📈 ตัวอย่างกราฟ Risk-Based Entry



💡 เคล็ดลับการใช้ Risk-Based Entry ให้ได้ผล


            1. ใช้ร่วมกับ SMC หรือโครงสร้างราคา จะช่วยเลือกจุดเข้าได้แม่นยำขึ้น

            2. ฝึกวาง SL อย่างมีเหตุผล ไม่ตั้งมั่ว ไม่ใช้ SL แคบเกินไป

            3.เทรดเฉพาะจุดที่ได้ RR > 1:2   เพื่อให้ชนะน้อยครั้งแต่ยังมีกำไรระยะยาว

            4.จดบันทึกเทรด (Trading Journal) เพื่อวัดว่า Risk-Based Entry ของคุณใช้ได้จริงไหม


สรุปส่งท้าย

                    Risk-Based Entry ไม่ได้ช่วยแค่เรื่อง “ความแม่น” แต่คือการ สร้างรากฐานที่มั่นคงในการอยู่รอดในตลาด และเราเองก็อาจจะไม่ได้รวยเร็ว แต่เงินในพอร์ตของเรามันจะไม่หมดง่ายๆนั่นเองฮะ อยากเก่งและรวยแบบมั่นคงอย่าลืมเอาเทคนิคนี้ไปช่วยในการเทรดนะฮะ แดชื่อเลยว่า เราจะเทรดแบบ ทั้งแม่นและมั่นคง แน่นอน

                    

สนับสนุนบทความนี้ด้วยการส่งเพชร 💎ส่งดาว🌟 และกดติดตามใน Telegram เพื่อรับข้อมูลข่าวสารการเทรดฟรี : https://t.me/tradertanclub




ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ