💻Leading และ​ Lagging Indicators ต่างกันยังไง


Leading และ​ Lagging Indicators คิดว่า หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินว่ามันคืออะไร  Leading และ​ Lagging Indicators นี้รูปแบบการแสดงผลของ Indicators ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จัก  Leading และ​ Lagging Indicators รวมไปถึงข้อดีและข้อเสีย 

Indicators แบบ  Lagging 💻

เป้น Indicators  ที่จะนำข้อมูลในอดีตมาคำนวนทางคณิตศาสตร์แล้วนำมาแสดงผลบนกราฟ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมารูปแบบ ค่าเฉลีย ซึ่งทำให้ Lagging  มีความล่าช้าตามซื่อของมันเลย Lagging (ล่าช้า) 

 Lagging indicator ที่พบบ่อยที่สุดคือ ค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่อย่างง่าย, Relative Strength Index (RSI), Stochastic Oscillator หรือ Moving Average Convergence Divergence (MACD).

ข้อดี ✅

สัญญาณที่ได้จาก Lagging  จะมีความแข็งแรงสูง เพราะเกิดจากนำข้อมูลในอดีตมาคำนวณ ยิ่งเวลาที่ในการคำนวณยิ่งเยอะมากขึ้น สัญญาณที่ได้ออกมาก็ยิ่งแม่นยำมากขึ้น 

ข้อเสีย ❌

ความล่าช้าของสัญญาณ ยิ่งใช้ข้อมูลที่เยอะ สัญญารที่ออกมาก็จะยิ่งล่าช้า 


Indicators แบบ Leading indicator📐

ก็เป็น Indicators ที่ใช้ข้อมูลในอดีตเหมือนกัน แต่ไม่ใช้ในการคำรวณทางคณิตศาสต์ แต่ใช้เป็นเพียงจุดดูสถานการณ์ของราคา และทำนายอนาคต  Leading indicator จะมีความเร็วและคาดการณ์ราคาได้ 

Leading indicator ที่พบบ่อยที่สุดเช่น Fibonacci retracements, Donchian channel และระดับ แนวรับและแนวต้าน ระดับ

ข้อดี ✅

มีความเร็ว และสามารถที่จะคาดการราคาได้ หรือบอกระดับราคาที่สำคัญได้ 

ข้อเสีย❌

มีความผันผวนและมีสัญญาณหลอกเยอะ


cr. อ่านเพิ่มเติมได้ที่

https://www.iqoptionwiki.com/th/leading-and-lagging-indicators/

cr.image

https://www.freepik.com/free-photo/sideways-shot-two-men-competitors-look-seriously-each-other-keeps-hand-clenched-fists-ready-fight-can-t-share-common-business-stand-against-white-wall-people-competition_10421289.htm#query=compete&position=7&from_view=search


สนับสนุนบทความนี้ด้วยการส่งเพชร 💎ส่งดาว🌟 และกดติดตาม

ใน Blockdit ของเรา

ความคิดเห็น

  1. หลักๆแล้วควรใช้อะไรเป็นแนวทางยืนพื้นครับ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ