CryptoCurrency เหรียญไหนมาแรงบ้าง ต๊าซซ !!

 CryptoCurrency เหรียญไหนมาแรงบ้าง ต๊าซซ!!

บิตคอยน์ (Bitcoin)

            ใช้อักษรย่อว่า BTC เกิดปี 2009 โดยผู้สร้างชื่อ ‘ซาโตชิ นากาโมโต’   บิตคอยน์ เป็นสกุลเงินดิจิทัลสกุลแรกของโลกและเป็นต้นกำเนิดของเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ในปัจจุบันบิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก และมูลค่าของบิตคอยน์ที่หมุนเวียนในระบบกว่า 17 ล้านเหรียญที่ถูกขุดออกมาแล้ว (จากทั้งหมด 21 ล้าน) มีมูลค่าเกินครึ่งของมูลค่าตลาดคริปโทโลก

อีเทอเรียม (Ethereum)

            ใช้อักษรย่อว่า ETH เกิดปี 2013 โดยผู้สร้างชื่อ วีตาลิค บูเจริน  ความโดดเด่นของอีเทอเรียม คือเป็น Open Source ให้บุคคลอื่นเข้ามาร่วมพัฒนาระบบได้ จึงทำให้อีเทอเรียมทำงานได้หลากหลายกว่าบิตคอยน์โดยอีเทอเรียมสามารถเปิดใช้ระบบ Smart Contract สร้างเงื่อนไขการสั่งจ่ายได้ อาทิ จ่ายค่าบัตรเครดิตหรือค่าหอพัก เมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด จ่ายค่ารถเช่าเพื่อปลดล็อกรถ โดยไม่ต้องจ้างคนเพื่อเฝ้ารถ   นอกจากนั้น ยังนิยมใช้ในการระดมทุนแบบดิจิทัลที่เรียกว่า ‘ICO’ หรือ Initial Coin Offering รวมถึงยังมีการรวมตัวกันของบริษัทใหญ่และสตาร์ทอัพทั่วโลก เพื่อร่วมกันวิจัยพัฒนาอีเทอเรียมใต้ชื่อ EEA หรือ Enterprise Ethereum Alliance ปัจจุบันมีมูลค่าเป็นอันดับที่ 2 ในตลาดคริปโทโลก

ริปเปิ้ล (Ripple)

            ใช้อักษรย่อว่า XRP เกิดในปี 2018 โดยมีบริษัท ริปเปิ้ล แลปส์ (Ripple Labs) เป็นผู้สื่อสร้าง โดยแตกต่างจากเหรียญอื่นๆ ตรงที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสื่อกลางโอนย้าย (settlement) ระหว่าง ‘ธนาคาร’ และมีลักษณะเหรียญเป็นแบบรวมศูนย์ รวมถึงเป็นบล็อกเชนส่วนบุคคล (Private Blockchain) ทำให้ริปเปิ้ล แลปส์ สามารถควบคุมธุรกรรมทั้งหมดได้    XRP ได้รับการยอมรับจากบริษัทระดับโลกหลายแห่ง อาทิ Google, SBI Group, Standard Chartered และ Seagate ปัจจุบันเป็น 1 ใน 5 เหรียญที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก

ไบแนนซ์คอยน์ (Binance Coin)

            ใช้อักษรย่อว่า BNB เกิดในปี 2017 โดยมี ‘ไบแนนซ์’ (Binance) ผู้ให้บริการเทรดเหรียญดิจิทัลระดับโลกเป็นผู้สร้าง โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ในระบบนิเวศของไบแนนซ์ ทั้งใช้เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมหรือใช้แลกเปลี่ยน ‘โทเค็น’ ที่ถูกลิสต์บนกระดานของไบแนนซ์    นอกจากนั้น ยังสามารถใช้ลดค่าธรรมเนียมในการเทรดเหรียญได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้สร้างอย่างไบแนนซ์กำหนดให้มีการเผาเหรียญออกจากระบบ เมื่อมีการใช้เหรียญ ทำให้มูลค่าเหรียญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากปริมาณความต้องการที่มากกว่าปริมาณเหรียญที่มีอยู่

เทเทอร์ (Tether)

            ใช้อักษรย่อว่า USDT เกิดในปี 2017 โดยมีบริษัท เทเทอร์ ลิมิเต็ด (Tether Limited) เป็นผู้สร้าง แตกต่างจากเหรียญอื่นๆ ตรงที่มุ่งเน้นจะสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อคริปโทฯ กับเงินตราปกติ โดยกำหนดให้ผูกกับ ‘ดอลลาร์สหรัฐ’ ให้ 1 USDT มีมูลค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์ฯ   ทำให้กลายเป็นเหรียญประเภทที่ถูกเรียกว่า Stablecoins หรือเหรียญที่มีเสถียรภาพด้านราคาเหมาะเป็นสื่อกลางเมื่อต้องการโอนเงินข้ามประเทศหรือพักเทรด

ด็อกคอยน์ (Dogecoin)

            ใช้อักษรย่อว่า DOGE เกิดในปี 2013 โดยผู้สร้างชื่อ ชิบะโตชิ นากาโมโต แต่ชื่อดังกล่าวเป็นชื่อที่ผู้สร้างอย่าง แจ็คสัน พาล์มเมอร์ และบิลลี มาร์คัส สร้างขึ้นเพื่อล้อเลียนชื่อผู้สร้างบิตคอยน์อย่าง ‘ซาโตชิ นากาโมโต’  โดยแต่เดิมแม้จะเป็นเหรียญที่สร้างขึ้นเพื่อเสียดสีคริปโทฯ แต่หน้าเหรียญสุนัขพันธุ์ ‘ชิบะอินุ’ กลับทำให้เหรียญเข้าถึงและจดจำได้ง่าย และถูก ‘อีลอน มัสก์’ นักธุรกิจเจ้าของเทสลานำไปพูดถึงหลายครั้งบนทวิตเตอร์

Cardano (ADA) ร้อนแรงต้อนรับ Smart Contract 

            หากจะไม่พูดถึงก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะปัจจุบันเป็นเหรียญที่ถูกพูดถึงมากที่สุดและกำลังจะมีการอัปเกรดครั้งสำคัญเร็ว ๆ นี้ สำหรับ Cardano (ADA) โดยล่าสุด Charles Hoskinson ผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ และ Alonzo Hard Forได้ ออกมาอัปเดตสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่งผลให้ราคาของเหรียญเบอร์ 5 ของโลกอย่าง ADA ปรับตัวอย่างทันทีขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ $1.9 แม้ว่าตลาดคริปโตโดยรวมจะมีการปรับตัวลงบ้างก็ตาม แต่ ADA นั้นยังคงแสดงให้เห็นว่ามันแข็งแกร่งขนาดไหนและมีการร่วงลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเหรียญอื่น ๆ

Solona (SOL)

             SOL กลายเป็นเหรียญที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงนี้จากการพุ่งทะยานทะลุดาวอังคารของราคาเหรียญ SOL กว่า 70% ในระยะเวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์ ซึ่งแม้ว่าราคาเหรียญพี่ใหญ่เบอร์หนึ่งของตลาดอย่าง Bitcoin จะมีการปรับฐานลดลงมาแตะระดับ $44,000 แต่ SOL นั้นยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ที่ระดับ $80 เมื่อไม่กี่วันก่อน    โดย Solona นั้นได้ชื่อว่าเป็นเครือข่ายบล็อกเชนในเจเนอเรชันที่ 4 ที่มีจุดมุ่งหมายเข้ามาแก้ปัญหาบล็อกเชนในเจเนอเรชันที่ 3 ด้วยการนำเสนอความเร็วในการทำงานแถมต้นทุนต่ำ อีกทั้งยังสามารถปรับขนาดได้ และแม้ว่าจะมีเครือข่ายรุ่นพี่อย่าง ETH และ BSC คอยเป็นคู่แข่งอยู่นั้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดความร้อนแรงของ SOL ลงได้ในช่วงนี

Axie Infinity Shad (AXS) นี่ก็มาแรงแซงทุกเหรียญจนฉุดไม่อยู่เหมือนกัน

            นับเป็นกระแสที่ผู้คนให้ความสนใจกันมาอย่างต่อเนื่องสำหรับเหรียญ AXS ที่เป็น Token หัวใจหลักของเกม Axie Infinity เกม NFT บนบล็อกเชนชื่อดังที่มีผู้เล่นทั่วโลก และด้วยความนิยมเหล่านี้เป็นส่วนผลักดันให้ราคาของเหรียญประจำเกมอย่าง AXS พุ่งทะยานขึ้นกว่า 1,300% ในระยะเวลาเพียง 1 เดือนกว่า ๆปัจจุบันเหรียญ AXS มีการซื้อขายกันอยู่ที่ระดับ $70 โดยมันสามารถขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่บริเวณ $77 เมื่อไม่กี่วันก่อนและมีการย่อตัวลงในเวลาต่อมา จากการได้รับความนิยมในปัจจุบันและแผนพัฒนาตัวเกมของทีมงาน ทำให้เหรียญ AXS ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดความร้อนแรงลงแต่อย่างใด 


สนับสนุนบทความนี้ด้วยการส่งเพชร 💎 ใน Blockdit ของเรา 

https://www.blockdit.com/posts/613d4600b295cf0c62ee1695

ขอบคุณข้อมูลจาก workpointtoday

ขอบคุณข้อมูลจาก siamblockchain

ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ