เทคนิควิธีอ่าน Divergence จาก Momentum Indicator


เทคนิควิธีอ่าน Divergence จาก Momentum Indicator: จับสัญญาณกลับตัวก่อนใคร

                    

                     👹 กลับมากันอีกแลวกับบทความดีๆและเทคนิคต่างๆในการเทรด วันนี้แอดหยิบยกเทคนิคการอ่านไดเวอเจ้นท์มาฝากกัน มาครับตามมาดูกันดีกว่าว่ามันดีอย่างไรแล้วใช้ยังไงบ้าง 

                    👹ในโลกของการเทรดและการวิเคราะห์ทางเทคนิค แน่นอนว่ามีทั้งกราฟขึ้น กราฟลง และกราฟหลอก!!!!!  หลอกให้เราตายใจจนผิดทาง 

                   👹 ไอ่เจ้า "Divergence" หรือ "ภาวะผิดทิศ" นี่แหละ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถส่งสัญญาณล่วงหน้าว่าราคาอาจจะกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง "สัญญาณกลับตัว"  โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Momentum Indicator ต่างๆ เช่น RSI, MACD หรือ Stochastic Oscillator จะช่วยให้เห็นภาพของราคาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Divergence คืออะไร?

                    Divergence คือภาวะที่ "ราคากับอินดิเคเตอร์เคลื่อนไหวไปคนละทิศคนละทางกัน" ซึ่งมักบ่งชี้ว่าราคาอาจกำลังอ่อนแรง และมีแนวโน้มจะกลับตัวในไม่ช้า


ประเภทของ Divergence

1. Regular Divergence (Divergence ปกติ)     เป็นสัญญาณของ การกลับตัวของแนวโน้ม

  Bullish Divergence (สัญญาณกลับตัวขึ้น)

            👉 ราคา: ทำ "Low ใหม่" ต่ำกว่าเดิม

            👉 Indicator: ทำ "Low ใหม่" สูงกว่าเดิม

            👉 หมายความว่าแรงขายเริ่มอ่อน แม้ราคาทำ Low ใหม่ได้

Bearish Divergence (สัญญาณกลับตัวลง)

            👉ราคา: ทำ "High ใหม่" สูงกว่าเดิม

            👉Indicator: ทำ "High ใหม่" ต่ำกว่าเดิม

            👉แสดงว่าแรงซื้ออ่อนลง มีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลง


2. Hidden Divergence (Divergence ซ่อนเร้น)  เป็นสัญญาณของ การต่อเนื่องของแนวโน้มเดิม

Hidden Bullish Divergence (แนวโน้มขาขึ้นต่อ)

            👉ราคา: ทำ "Higher Low"

            👉Indicator: ทำ "Lower Low"

            👉บ่งชี้ว่ามีแรงซื้อซ่อนอยู่ พร้อมดันราคาต่อ


Hidden Bearish Divergence (แนวโน้มขาลงต่อ)

            👉ราคา: ทำ "Lower High"

            👉Indicator: ทำ "Higher High"

            👉สะท้อนว่าแรงขายยังมีอยู่ แม้ Indicator จะดูเหมือนฟื้น

📈 อินดิเคเตอร์ที่ใช้ดู Divergence ได้ดี

  • RSI (Relative Strength Index) – ใช้บ่อยที่สุด

  • MACD – เห็น Divergence ชัดโดยดู MACD Line กับราคา

  • Stochastic Oscillator – ให้สัญญาณเร็ว เหมาะกับตลาดไซด์เวย์

  • Awesome Oscillator / CCI / ROC – ใช้ร่วมได้ตามสไตล์เทรด


📈 วิธีอ่าน Divergence อย่างแม่นยำ

  1. เลือกอินดิเคเตอร์ที่ใช้ถนัด เช่น RSI

  2. ดูรูปแบบราคาบนกราฟ ว่ามี High หรือ Low ใหม่หรือไม่

  3. เปรียบเทียบกับอินดิเคเตอร์ ว่าทำ High/Low ตรงข้ามกันหรือเปล่า

  4. ยืนยันด้วยสัญญาณอื่น เช่น แท่งเทียนกลับตัว, เส้นแนวรับ-แนวต้าน แท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candle), ปริมาณการซื้อขาย (Volume) เป็นต้น

  5. ห้ามเข้าทันที! ควรรอสัญญาณยืนยัน เช่น เบรกแนวต้าน/เส้นเทรนด์


👌 ตัวอย่าง Bullish Divergence (จาก RSI)

  • ราคา: ทำ Low ที่ 1000 → ทำ Low ใหม่ที่ 950

  • RSI: ทำ Low ที่ 30 กลับทำจุดต่ำใหม่ที่สูงขึ้น (เช่นจาก 30 → 35)

  • ความหมาย: แรงขายเริ่มหมด แปลว่ากำลังเกิด Bullish Divergence  ราคามีโอกาสกลับตัวขึ้น

ข้อควรระวัง

            Divergence เป็นเพียงสัญญาณล่วงหน้า  แต่ไม่ได้บอกว่า “จะกลับทันที” ไม่ใช่การยืนยัน 100%

            ควรรอ "Confirmation" เช่นการเบรกแนวต้าน หรือสัญญาณจากแท่งเทียนก่อนเข้าซื้อ

            หลีกเลี่ยงการใช้ Divergence เพียงลำพัง โดยเฉพาะในตลาด Sideway ที่มีสัญญาณหลอกเยอะ


สรุป

                    การอ่าน Divergence จาก Momentum Indicator เป็นเทคนิคที่สามารถช่วยให้นักเทรด “จับจังหวะการกลับตัว” ของราคาได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์และเครื่องมืออื่นๆ อย่างเหมาะสม ช่วยให้คุณเห็นภาพ "แรงในตลาด" ก่อนที่ราคาจะสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน



     👿👿👿 เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พอจะได้แนวทางในการวางแผนการเทรดกันบ้างหรือยังครับ ถ้ายังก็ลองเอาเทคนิคนี้ไปใช้กันดูนะครับ ชอบไม่ชอบค่อยว่ากันอีกที ที่สำคัญต้องตรงกับเทคนิคที่เราจะเทรดด้วยนะครับ  แล้วอย่าลืมหมั่นฝึกฝนและเรียนรู้การเทรดในหลายๆแบบให้เข้าใจมากขึ้นนะครับ เพราะการเรียนรู้ไม่มีคำว่าสิ้นสุด   แอดเอาใจช่วย แอดเชื่อว่าทุกคนทำได้ แค่เริ่มลงมือทำ สู้ๆฮะ
                     

สนับสนุนบทความนี้ด้วยการส่งเพชร 💎ส่งดาว🌟 และกดติดตามใน Telegram เพื่อรับข้อมูลข่าวสารการเทรดฟรี : https://t.me/tradertanclub


ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ