กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ Dow Theroy

บทความ

  Dow Theory (ทฤษฎีดาว)                  หากคุณกำลังสนใจและอยากจะเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดการเงินหรือตลาดหุ้น สิ่งหนึ่งที่คุณต้องเรียนรู้และให้ความสนใจเป็นพิเศษก็คือ Dow Theory ทฤษฎีดาว เป็นทฤษฎีต้นแบบในการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค Technical  กราฟราคาหุ้น ตลาดทองคำ ค่าเงิน ฯลฯ ซึ่งเป็นทฤษฎีที่มีมากว่า 100ปีแล้ว  โดยการนำตัวเลขดัชนีมาเขียนเป็นกราฟ ให้เห็นรูปแบบที่แสดงความสัมพันธ์ของราคาและปริมาณการซื้อขายกับแกนวันเวลา (Price Pattern) เพื่อที่จะสามารถคาดคะเนแนวโน้มได้ และยังเป็นต้นแบบในการต่อ ยอดพัฒนามาเป็นการนับคลื่นใน Elliott wave อีกด้วย                  ผู้ที่คิดค้น ทฤษฎีดาวนี้ มีชื่อว่า Charles Henry Dow   เป็นนักข่าวสายตลาดหุ้นที่มักจะเขียนบทความเกี่ยวกับวิธีการมองแนวโน้มของตลาดไว้ในหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal (WSJ) ต่อมาภายหลังมีผู้สนใจแนวคิดดังกล่าว และได้รวบรวมไว้เป็นหลักทฤษฎี โดยมีหลักการสำคัญในการใช้ Technical เอาไว้ 6 ข้อ ทฤษฎี Dow แบ่งออกเป็น 6 หลักการสำคัญ คือ  1. ตลาดมีการเคลื่อนไหวหลักๆ อยู่ 3 รูปแบบ (The market has three movements) คือ           - แนวโน้มโหญ่
🌟 ทฤษฏีดาวได้แบ่งแนวโน้มราคาหุ้นออกเป็น 3 กลุ่มตามระยะเวลา ดังนี้ 👇 #PrimaryTrend — แนวโน้มใหญ่ หรือเป็นแนวโน้มระยะยาว โดยปกติจะใช้เวลา 200 วันขึ้นไป และอาจยาวนานถึง 4 ปี ซึ่งแบ่งเป็น ⤴️ ขาขึ้น: จุดต่ำสุดใหม่จะสูงกว่าจุดต่ำสุดเก่า, จุดสูงสุดใหม่จะสูงกว่าจุดสูงสุดเก่า และระยะเวลาทีหุ้นวิ่งขึ้นจะยาวกว่าระยะเวลาที่หุ้นวิ่งลง ⤵️ ขาลง: จุดต่ำสุดใหม่จะต่ำกว่าจุดต่ำสุดเก่า, จุดสูงสุดใหม่จะต่ำกว่าจุดสูงสุดเก่า และระยะเวลาทีหุ้นวิ่งลงจะยาวกว่าระยะเวลาที่หุ้นวิ่งขึ้น #IntermediateTrend — แนวโน้มรอง หรือเป็นแนวโน้มระยะกลาง เป็นระยะที่เบี่ยงเบนจากแนวโน้มใหญ่ โดยมากใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 3 สัปดาห์จนถึงหลายเดือนก็ได้ โดยแนวโน้มรองนี้จะรวมตัวกันเป็นแนวโน้มใหญ่ #MinorTrend — แนวโน้มย่อย หรือเป็นแนวโน้มระยะสั้น แนวโน้มย่อยนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มรอง เป็นการเคลื่อนไหวของดัชนีเป็นรายวันถึงไม่เกิน 3 สัปดาห์ ซึ่งเราจะไม่ให้ความสำคัญกับแนวโน้มนี้มากนักเพราะมีความผันผวนสูง มักมองเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแนวโน้มรองและแนวโน้มใหญ่ครับ 📖 บทสรุปของทฤษฎีดาว( #DowTheory) จุดประสงค์ของดาวและฮามิลตัน
   มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ขอแค่จำกฏพื้นฐานของทฤษฏีนี้ให้ได้ และฝึกฝนมองบ่อยๆ จะเห็นการเคลื่อนไหวของราคา และ วางแผนการเทรดได้ดียิ่งขึ้น ข้อสำคัญคือ อย่า over trade เด็ดขาดนะครับ  อย่ารีบรวยเร็ว สร้างฐานให้มั่นคงดีกว่า ส่วนเรื่องวิธีการผมจะค่อยๆแทรกในหัวข้อถัดไปนะครับ จะพยายามแชร์ให้เต็มที่ในส่วนที่ผมรุ้ ถ้าใครมีอะไรเพิ่มเติม แนะนำกันได้นะครับ ว่าด้วยกฏของทฤษฏีนี้ไม่มีอะไรมาก มีแค่ 3 ส่วน คือ   1. แนวโน้มขาขึ้น   (   up trend   )  2. แนวโน้มขาลง    ( down trend )  3. แนวโน้มออกข้าง  (  side way   )      ซึ่งตลาดจะมี 3 ช่วงนี้อยุ่เสมอ ซึ่งผมจะกล่าวถึงแบบทีล่ะ แนวโน้มในหัวข้อถัดไปนะครับ      1.     รูปแบบแนวโน้มขาขึ้น Up trend               กฎของแนวโน้มขาขึ้น คือ  ทำ hi ที่สูงขึ้น  และ ทำ Low ที่สูงขึ้น   จากในรูป คือ  H1 H2 H3  และ L1 L2 L3 จะสูงขึ้นจากจุดเดิม เสมอ              จากรูปกราฟจริง  จะเห็นว่า มีการทำ HI ที่สูงขึ้นและ Low ที่สูงขึ้นอยุ่เสมอ  แต่ในกราฟจริงจะเหมือนตัวอย่าง อันนี้ต้องฝึกมองบ่อยๆ  ซึ่งจะกล่าวในตอนต่อไป               2.       รูปแบบแนวโน้มขาลง  Down t