กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ จิตวิทยาการเทรด

บทความ

  ความเสียใจของการเทรดนั้นหลักก็แบ่งได้ 2 รูปแบบ นั้นคือเสียใจที่ ‘ทำ’  ทำมัยถึงซื้อราคานี้ เรียกว่า Regretful Action และเสียใจที่ไม่ได้ทำ เสียใจที่ ‘ไม่ได้ทำ’ ทำมัยเราถึงไม่ขาย ปล่อยให้ดอยทำมัย เราเรียกกว่า Regretful Inaction  ซึ่งวันนี้เราจะมาความรู้กจัก 2 คำนี้ไปพร้อมกันๆ และ แนวทางการรับมือ  Regretful Action ในการเทรด 😢 คือรูปแบบที่เรากระทำไปโดยใช้อารมมากกว่าเหตุผล หรือนอกแผนการที่วางใว้ แล้วผลลัพท์มันออกมาแย่ จึงเกิดอารมเสียใจที่เราทำไปโดยที่ไม่ได้ว่างแผนให้ดีกว่านี้  หรือแม้การเข้าออเดอร์ซื้อขายแล้วติดลบหรือติดดอย นี้ก็นับเป็น  Regretful Action Regretful Inaction ในการเทรด  😭 อารมเดียวข้างบน แต่เลือกที่จะไม่ทำ โดยส่วนใหญ่ ก็มาพร้อมกับความหวังและความโลภเข้ามาครอบงำไม่ให้เราทำใตามแผน เช่น ไม่ยอมขาดทุนเพราะหวังว่าราคาจะขึ้นไปอีก จะกลับมาบวกได้ หรือ ราคาถึงเป้าหมายที่จะปิดกำไรแล้ว แต่ในใจยังเชื่อว่ายังขึ้นต่อ แต่ราคากลับลง ก็เสียใจทำมัยเราถึงไม่ขายไปนะๆ  Regretful Action vs Regretful Inaction 😭 คนเราเสียกับสิ่งที่ไม่ได้ทำมากกว่าทำ ยกตัวอย่างเช่น มีหวย 2 ใบ ให้คุณเลือกแต่คุณเลือกซื
หลังที่เราเคยนำเสนอเกี่ยวกับ Spread ไปแล้ว ซึ่งเชื่อได้ว่าหลายคนก็น่าจะเคยเจอสภาวะ Spread มันไม่คงที่ อาจทำให้บางคนขาดทุนทั้งกำไรและขาดกำไร เพราะโบรคเกอร์ถ่าง Spread  วันนี้เราจะหาคำตอบนั้นไปพร้อม ๆ กัน  Spread คืออะไร ความห่างระหว่างราคาเสนอชื้อ Bid และราคาเสนอขาย Ask ตัวอย่างเช่น สินค้าเสนอราคาซื้อ 10 บาท และราคาเสนอขาย 11 บาท ส่วนต่าง 1 บาท ส่วนต่างนั้น เราเรียกว่า Spread ซึ่งมันจะเป็นรายได้คนกลางหรือ โบรคเกอรนั้นเอง หรือ พูดง่ายๆ มันก็เหมือน นายหน้าซื้อขาย  Spread ถ่างคืออะไร  คือราคาเสนอชื้อซื้อ Bid และราคาเสนอขาย Ask ห่างกันออกจากเดิม เช่นปกติ Spread อยู่ที่ 1 บาท แต่บางช่วงเวลา Spread ถ่างออกเป็น 3 บาท นั้นคือเหตุผลที่ซื้อของแพงขึ้นและขายถูกลง  โดย คนที่กำหนด Spread นั้นคือโบรคเกอร์และหนึ่งในรายหลักของโบรคเกอร์นั้นก็มาจากค่า Spread และเนื่องด้วยไม่มีหน่วยงานใหนมากำหนดในการกำหนดราคา Spread นั้นจึงทำให้โบรคเกอรนั้นมีอิสระในการกำหนด Spread ในแต่ช่วงเวลา นั้นจึงทำใหเราเห็นว่า โบรคเกอร์แต่ละโบรคนั้นมี Spread ไม่เท่ากนั้น การกำหนด ค่า Spread ของโบรคนั้น ก็ขึ้นอยู่การวาง กลยุทธ์ในการทำ
  Stage Of Trader    คุณอยู่ในระยะไหนของการเป็นเทรดเดอร์  EP.1    หลายครั้งที่เรามักจะสงสัยในตัวเองเกี่ยวกับการเทรดของตัวเองนั่นแหละ บางคนยังงุนงงอยู่ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้น เรียกว่าการก้าวข้ามผ่านสิ่งที่มุ่งหวังหรือยัง หรือใกล้สำเร็จหรือยัง เรายังต้องพบเจออะไรอีก  วันนี้แอดจะมานำเสนอ 6 ระยะของพัฒนาการในการเป็นเทรดเดอร์ ให้ลูกเผ่าได้ลองอ่านและสังเกตุตัวเองดู ว่าตอนนี้เราอยู่ในระยะไหน แล้วเราต้องทำยังไงต่อไป ระยะที่ 1 การหลงผิด                บอกได้เลยว่าระยะแรกเริ่มนี่แหละ ที่เหล่าเม่าน้อยๆทั้งหลายมักจะถูกหลอกล่อ หมดตัว หลงผิดเอาได้ง่ายๆจากการที่ไม่รู้อะไรเลย และศึกษาหาข้อมูลมาน้อยอีกต่างหาก ไหนจะถูกหลอกจากพวกมิจฉาชีพทั้งหลาย ก็ต้องมาโดนตลาดหลอกอีกแหนะ ด้วยความที่อ่านกราฟไม่เป็น มองตลาด อ่านเกมส์ไม่ออก สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ไป หมดตัวและออกจากตลาดไปอย่างรวดเร็วในที่สุด ระยะที่ 2 Hot Pot Stage               ระยะลองของ  หลังจากที่เม่าน้อยๆเริ่มจะจับทางได้ถูกแล้ว เริ่มอ่านกราฟเป็นแล้ว แถมยังลองผิดลองถูกมาได้สักระยะแล้ว จดจำพฤติกรรมและสัญญาณการเทรดเริ่มได้แล้ว ก็ถึงเวลาลองไฟแล้หนะสิ จึงเทหมดหน้า
 การทำ evaluation ในการเทรด evaluation คืออะไร???                evaluation คือการประเมินมูลค่าหุ้น เพื่อช่วยในการตัดสินใจในการลงทุนให้ดียิ่งขึ้น แต่วันนี้แอดจะมาแนะนำวิธีการดัดแปลง evaluation เพื่อใช้ในการประเมินการเทรดของตัวเองกัน พูดง่ายๆก็ดูว่า ระบบที่เราใช้ วิธีการเทรดที่มีทำ ระบบที่เรามี และคู่เงินที่เราเทรดนั้น มันสัมพันธ์และ มันไปกันได้ดีจริงมั้ยนั่นแหละ                 เราสามารถประเมินได้เองง่ายๆเลยไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากซับซ้อน วิธีการนี้จะช่วยให้เรารู้จักตัวเองได้ดีขึ้น และสามารถพัฒนาทักษะในการเทรดให้ดียิ่งขึ้นไปอีก หรือ ช่วยทำให้เรารู้ว่าเราผิดตรงไหน และต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง มา มาดูกัน                หลักการที่ใช้สำหรับวิเคราะห์เนี่ย แอดนำเอามาจากหนังสือThink & Trade Like a champion ของ Mark Miniervini โดยมีหลักการโดยใช้สามเหลียมของการเทรดดิ้ง                                               สามเหลี่ยมของการ Trading  จะประกอบด้วย                                              Average Gain – จำนวนที่คุณ trade ชนะ                                                 Average Loss – จ
หลังจากที่เราได้ทำความรู้กจักเกี่ยว กับ Gap หรือ ช่องว่างของราคาไปในตอนที่แล้ว วันนี้เราจะมาทำทำความรู้จักรูปแบบ ของ Gap ในตลาดว่ามีรูปแบบใหนบ้าง และแนวทางการเทรด  รูปแบบ Gap ในตลาด สามารถที่แบ่งได้ 4 ประเภท 📉 1.Common Gap หรือรูปแบบ ธรรมดา ✅ ก็ตามชื่อของ Gap ที่มักจะเกิดในราคาที่สภาวะ Sideway โดยรูปแบบ Gap นี้จะไม่มีนัยยะสำคัญ เป็นช่องว่างทั่วไป  💬 แนะนำเมื่อเกิด Common Gap ให้ปล่อยผ่านไปจะดีกว่า  2.Breakaway Gap ✅ เป็นรูปแบบที่เกิดเมื่อราคา มีการพักราคาหรือสร้างกรอบราคา หรือทดสอบแนวรับแนวต้าน แลัวราคาเกิด  Gap ที่ทะลุแนวหรือทะลุกรอบพักราคาไปเปิดแท่งใหม่นอกกรอบหรือนอกแนว นั้นทำให้การเบรคราคานั้นมีนัยยะสำคัญมากที่จะขึ้นต่อไป เพราะแสดงถึงความต้องการของผู้ในตลาดที่มีมหาศาล  แต่รูปแบบนี้ในตลาดมักจะเกิดข้อนข้างน้อย  💬 แนะนำเมื่อเกิด Breakaway Gap ให้ซื้อชื้อหรือขายตามทันที  3.Runaway Gap  ✅ จะเกิด Gap รูปแบบนี้ขึ้นเมือราคามีแนวโน้มทิศทางที่ชัดเจน ตัว Runaway Gap  จะเป็นตัวช่วยยืนยันแนวโน้วว่ามีความแข็งแรงมาก 💬 แนะนำเมื่อเกิด Runaway Gap  ให้ปล่อยผ่านไปดีกว่า เพราะว่าราคาที่เข้าบางทีอาจ
 4 ขั้นตอน คุมต้นทุน จำกัดความเสี่ยง  Planing and control risk                     ย้ำกันแล้วก็ย้ำอีก เกี่ยวกับการบริหารและควบคุมความเสี่ยง แต่หลายคนยังไม่ถึงบางอ้อ วันนี้แอดจะแนำนำวิธีควบคุมต้นทุนและจำกัดความเสี่ยงแบบเป็นขั้นเป็นตอน อ่านจบ 4 ขั้นตอนนี้ เริ่มลงมือทำได้เลย เริ่มเร็วก็รวยเร็ว เริ่มช้า ก็รวยช้านะ  ขั้นตอนที่ 1 : ซื้อดี ไม่ซื้อดี                 ก่อนจะซื้อจะขายแต่ละครั้ง เราต้องคำนวนก่อนนะ ว่าจุดที่เข้านั้น ได้เปรียบเทียบและ เสียเปรียบกี่จุด หรือ กี่บาท แล้วจะทำกำไรได้ประมาณกี่บาท กี่จุด คุ้มมั้ย อันนี้สำคัญเลย หลายคนไม่เคยคำนวน เชื่อสิ แอดนั่งเขียนก็รู้ ลองคำนวนดูก่อน คิด พิจารณาดูก่อน อย่าสักแต่ว่าจะเข้า อยากเข้าแล้ว จะซื้อต้องได้ซื้อ เปลี่ยนพฟติกรรมนี้ด่วน  แล้วเราจะลืมคำว่า รู้งี้ หรือ ไม่น่าเลย ไปเลยแหละ                          อาจมีการคำนวน Reward to Risk Ratio : RRR เพิ่มก็ได้                           หาก Reward มีค่ามากกว่า Risk แปลว่ามีความคุ้มค่าที่จะเสี่ยง                          หาก Risk มีค่ามากกว่า Reward แปลว่าไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง หรือ ได้ไม่คุ้มเสีย ต
เชื่อได้ว่า  leverage  คือสิ่งจำเป็นของเทรดเดอร์ เพราะจะเป็นตัวช่วยเพื่อกำไรให้เรามากขึ้น หรือใช้ทุนเทรดน้อยลง ซึ่งเมื่อก่อนก็นิยมเทรด leverage Lot ที่ใช้ในโปรแกรม Meta Trader 4  แต่มายุคหลังนี้ โบรกเกอร์บางโบรกเกอร์ ก็หันมาใช้โปรแกรมเทรดของตัวเอง และ ใช้วิธีคิด leverage แบบใหม่ นั้นคือ กำลังคูณในออเดอร์ไปเลย ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จักและความแตกต่างกัน  leverage lot 1:100 😀 เป็นรูปแบบที่เทรดเดอร forex รู้จักเป็นอย่างดี รูปแบบนี้จะเป็นรูปแบบกำหนด  leverage ให้กับบัญชีเทรด  ตัวอย่างเช่น เปิดบัญชีแล้วเราเลือก leverage  1:100 หรือ 1*100 โดยเงินบัญชีขนาด 100 เหรียญเราก็เทรดได้ไม่เกิด 10,000 เหรียญ หรือเปิดได้ไม่เกิน 0.1  โดยใน 0.1 อาจจะแบ่งออกมาเป็น 0.01 ออกเป็น 10 ออเดอร์ก็ได้ โดยขนาด lot ดังนี้  1 Lot = 100,000 Unit 0.1 Lot = 10,000 Unit 0.01 Lot = 1000 Unit leverage x100 😀 จะเป็นรูปแบบหนึ่งที่เริ่มนิยมใช้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นโบรกเกอร์ option ที่มีการเทรด forex เข้ามา หรือ โบรกเกอร์ คริปโต ที่ให้เทรด future โดยหลักคำนวนจะเหมือนกัน นั้นคือ คูณกำลัง แต่แต่ต่างตรงที่ เป็นการกำหนด leverage
 Psychology of Sustainable  หลักจิตวิทยาในการเทรดแบบยั่งยืน              เมื่อเราเริ่มการเทรดอย่างจริงจังมาในระดับหนึ่งแล้ว แอดเชื่อว่า ทุกคนจะมีแนวทางและกลยุทธ์ในการซื้อขายที่แตกต่างกันออกไป แต่การควบคุมตัวแปร และ เทรดให้ได้กำไรอย่างสม่ำเสมอในระยะยาวนั้น ค่อนข้างจะทำได้ยากยิ่งยวด  ดังนั้น วันนี้แอดมีแนวทางแนะนำในการปฏิบัติ ของการควบคุมและจัดการกับความเสี่ยงที่สามารถพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็นระบบที่ยั่งยืนในระยะยาวได้ด้วย มาดูกัน 1.ใช้ Leverage ยิ่งน้อยยิ่งดี                เมื่อการเปิด Position Trading ในแต่ละครั้ง ทำให้มาร์จิ้นที่เรามีลดน้อยลง และการซื้อ หรือการถือออเดอร์ยาวๆ อาจจำเป็นต้องลดขนาดของการเทรดให้เหมาะสมกับเงินลงทุนที่มี  เนื่องจากการสวิงของกราฟ การเหวี่ยง  การพุ่ง ซึ่งบางครั้งทำให้พอรตของเรา อาจจะโดนลากยาว เกินกว่าจะรับไหว การลดเลเวอเรจ ทำให้เราเปิดออเดอร์ได้น้อยลงนั่นเอง ทำให้เราไม่ต้องทนรับความเสี่ยง พอร์ตแตก ก็จัดว่าดีนะ  ไม่ต้องรีบด่วนใจร้อนไม่ต้องรีบรวย  2. ลดต้นทุนการถือครอง               วิธีนี้ค่อนข้าง  Advance หน่อย เช่น หากเราเปิด Position ที่ใหญ่ ก็เพียงแค่ลดขน
เชื่อได้ว่าหลายคนที่เทรด จะต้องเจอกับอารม เสียดาย และมักจะมีคำถามว่า ทำมัยเราไม่ซื้อราคานี้ ทำมัยเราไม่ขายราคานี้ อารมแบบนี้มันจะสงต่อการลงทุนหรือการเทรดของเราในอนาคต ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความแนวทาลการจัดการไปพร้อมๆ กัน  แนวทางในการจัดการกับความรู้สึก เสียดาย😱 เราต้องคำเข้าใจก่อนว่า เสียดาย หรือในชื่อของทางการนั้นคือ Opportunity Cost" หรือ "ต้นทุนค่าเสียโอกาส" คือรูปแบบที่เราไม่ทำบางสิ่งแล้วสิ่งนั้นมันส่งผลที่ดีมาก หรือมีทางเลือกสองทางให้เลือก และทางที่เราไม่ได้เลือกนั้น มันส่งผลที่ดีมาก นั้นจะทำให้รานั้นมีความรู้สึกที่ เสียดาย รู็งี้ทำมัยเราไม่ทำ  ซึ่งในวงการเทรดนั้น อารมพวกนี้จะมีเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป้น ทำไมไม่ซื้อราคานี้ ทำไมไม่ขายในราคานี้ รู้งี้ ปิดขาดทุนไปตั้งนานแล้ว ซึ่งถ้าเราไม่สามารถที่จะจัดการกับอารมพวกนี้ได้สิ่งหนึ่งที่เราจะเสียไปแน่ๆ นั้นคือ เวลา  โดยเราต้องจำแนกก่อนว่า เวลาในชีวิตเรานั้นประกอบไปด้วย อดีต ปัจุบัน อนาคต ซึ่งอารมเสียดายมันจัดอยู่ในอดีต  และการที่เรารู้สึกเสียดาย มันคือการเผาเวลาในปัจจุบัน เพื่อคิดถึงเวลาในอีตดที่ไม่ดี ซึ่งมันก็ทำให้เรามีเวลาใการใช
ข่าววันนี้ที่เรานำเสนอนั้น ก็เป็นยอีกหนึ่งข่าวตัวที่น่าสนใจมากเพราะมันเป็นการบ่งบอกถึง การใช้งานของคนในประเทศ รวมไปถึงเศรษฐกิจ นั้นคือข่าว  Retail Sales และ Core Retail Sales  Retail Sales และ Core Retail Sales👚👛 --Retail Sales คือ รายงานยอดขายปลีก จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายอดขายทั้งหมดในระดับการค้าปลีกที่มูลค่าดังกล่าวได้ปรับชดเชยอัตราเงินเฟ้อแล้ว ซึ่งเป็นดัชนีที่สำคัญมากที่สุดที่บ่งชี้ถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นจำนวนที่มากที่สุดของระบบเศรษฐกิจโดยรวม --ส่วน Core Retail Sales คือ รายงานยอดขายปลีกพื้นฐาน จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าทั้งหมดของยอดขายในธุรกิจการขายปลีกโดยไม่รวมยอดขายรถยนต์ ถือเป็นดัชนีที่สำคัญของการใช้จ่ายของผู้บริโภคและยังถือว่าเป็นดัชนีหลักตัวหนึ่งสำหรับระบบเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา --ดัชนียอดค้าปลีกหรือ Retail Sales เป็นตัวบอกให้เห็นถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วนใหญ่ ของ GDP ในสหรัฐ (ประมาณ 70%) การตีความข่าวRetail Sales ✅ ค่าที่สูงกว่าที่คาดไว้ถือว่าเป็นลักษณะเชิงบวกตลาดกระทิงสำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ📈 ส่วนค่าที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ถือว่าเป็นลัก
พัฒนาฝีมือ สู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ  Upgrade your skill To professional                👀  อาชีพเทรดเดอร์ ในตลาด Forex คืออีกหนึ่งอาชีพหนึ่งที่ใครหลายๆคนใฝ่ฝันและอยากทำมากที่สุดอาชีพหนึ่ง                 แต่การนำพาตัวเองไปถึงยังฝั่งฝันที่วาดไว้นั้น ค่อนข้างตะกุกตะกักไม่ใช่เล่น  หากคุณใฝ่ฝันในเส้นทางอาชีพนี้จริงๆ ไม่ใช่เข้ามาแบบแป๊บๆแล้วก็ออกไป หนทางการเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพก็ไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน    👀 เพราะการจะเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพได้นั้น คุณต้องมีใจรัก หลงไหลในเสน่ห์ของอาชีพนี้จริงๆเสียก่อน และต้องเรียนรู้ วิธีพัฒนาตนเองจากหลายๆด้าน สู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ มา เรามาดูกันว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง แอดจะชี้แนะและนำพาลูกเผ่าไปรู้จักกับความสำเร็จอย่างยั่งยืน จากบทความนี้กัน               👋 1. เปลี่ยนทุกความคิดให้กลายเป็นจริง หากคุณคิดว่า forex เป็นของเล่นฆ่าเวลา คุณก็จะเทรดเพียงแค่ขำๆ ได้ก็ดี ไม่ได้ก็แล้วไป มันจะไม่ใช่อาชีพทันที แตถ้าคุณจริงจัง แล้วให้ความสำคัญกับการเทรด มันจะกลายเป็นอาชีพหลักได้แน่นอน  อย่ามาแค่อยากแล้วก็จากไป                👋 2. เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ เมื่อกายพร
เชื่อได้ว่าหลายคนที่เทรดทุกวัน ก็ต้องมีบางทีร่างกายเราไม่พร้อมต่อการเทรดหรือไม่สบาย  วันนี้เราจะมาบอกว่า ทำไมสุขภาพไม่พร้อม....ก็ไม่ควรเทรด  ทำไมสุขภาพไม่พร้อมไม่ ควรเทรด 😰 การเทรดนั้นมันก็เหมือนเราแข่งขันกีฬา  ถ้าร่างกายไม่พร้อมแน่นอน ว่าเราจะใช้ความสามารถของเราได้ไม่เต็มที่ การเทรดที่ต้องการสมาธิสูงในการตัดสินใจ การที่ร่างกายไม่พร้อมก็จะทำให้สมาธิทำได้ไม่เต็มที่ และ เป็นเหตุที่จะทำเรานั้น มีการตัดสินใจที่ผิดพลาด และมีโอกาสสูงที่เราจะไม่ได้ทำตามระบบ 100  เปอร์เซ็น ผลกระทบการเทรด 😰 - เมื่อเทรดแพ้ มีแนวโน้มที่จะทำสุขภาพแย่ลงเพราะมีความเครียดที่เพิ่มขึ้น และทำให้สุขภาพเราแย่ลง  - มีโอกาศที่จะคุมอารมณ์ไม่อยู่และมีโอกาสนอกระบบ ความเสียหายอาจไปถึงล้างพอร์ต  แนวทางการแก้ไข  😰 - แนวทางเดียวที่จะทำได้ นั้นคือ พักผ่อนไม่เทรด รอให้ร่างกาย กลับมาสมบูรณ์ แล้วค่อยกลับมาเทรด  หรือไปพบหมอ ให้เรากลับมาเทรดได้เร็วขึ้น  - คิดว่าเสมอว่า โอกาสการเทรดนั้นมีให้เราตลอดเวลา  - ไม่เทรดไม่เสียเงิน ถึงเราชะนะได้แต่ไม่ใช้โซนที่สมบูณแบบของเรา เป็นการชนะแบบ โชคช่วย  cr.image🙏🙏 https://www.freepik.com/free-phot
IIf I knew it before..... รู้อะไรไม่เท่า "รู้งี้"      👊  รู้งี้ คำที่มักจะได้ยินบ่อยๆ จากเทรดเดอร์ทั้งหน้าใหม่ และหน้าเก่า บางครั้งเทรดเดอร์ ระดับเทพๆ ก็มี รู้งี้ เหมือนกันในบางเวลา    👊  รู้งี้เป็นอาการเสียดาย นั่นแหละ เสียดายที่ตกรถ เสียดายที่ขายหมู เสียดายที่ไม่ได้ถือไว้นานๆ หรือแม้กระทั่ง เสียดายที่ไม่จัดหนักตอนกราฟวิ่งแรงๆ ทุกอย่างล้วนเป็นที่มาของคำว่า รู้งี้ แทบทั้งสิ้น     👊  บางคนก็ใช้เวลานานเหลือเกิน กับคำว่ารู้งี้  อาจจะผ่านไปเป็นวัน เป็นเดือน หรือเป็นปี บางคนถึงกลับคิดเป็นตุเป็นตะ ที่อยากจะย้อนเวลากลับไปแก้ไข ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้    👊  แต่เชื่อเถอะว่าถ้าถึงจุดๆหนึ่ง ทุกคนจะตระหนักได้ว่าสิ่งที่เคยทำลงไปไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย เราไม่ควรให้ค่ากับคำว่ารู้งี้ เพราะมันผ่านมาแล้ว มันคืออดีต และในตอนหลัง  คำว่ารู้งี้ ก็จะกลับกลายเป็นบทเรียนสอนใจเราได้เหมือนกัน เพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก หรือซ้ำรอยเดิม อยู่ที่ว่าเราจะทำมันให้ดีขึ้นกว่าเดิม หรือยังจะวนลูปในแบบเดิมๆต่อไป    👊  สิ่งที่เกิดขึ้น และตัวเราเอง สามารถกำจัดคำว่า รู้งี้ ออกไปจากหัวได้ ก็คือ การยอมรับความจริง ตรง
  หลังจากที่เราได้ทำความรู้เกี่ยวกับโรค  FOMO (Fear of Missing Out) หรือโรคกลัวพลาดโอกาศการซื้อขาย วันนี้เราจะมาเล่าถึงผลกระทบ และ แนวทางการรับมือ ของโรค  FOMO  ผลกระทบของ โรค  FOMO (Fear of Missing Out)  1.เสียสูขภาพ❌ เพราะเราจะเสียเวลาไปการเฝ้าหน้าจอ และ เฝ้ารอสัญญาณ  และเมือมองจองหรือจดจ่อมากเกินไป ก็จะส่งผลต่อการนอนและรวมไปถึงสูขภาพอย่างอื่น  2.ประสิทธิภาพการทำงานทำงานลด😨 เพราว่าเราจะมัวแต่กังวลต่อราคามากเกินไป จึงทำให้เราไม่สมารถทำงานได้เต็มที่ เพรามัวแต่กังวลวาราคาจะถึงหรือยัง หรือรอ สัญญาณจะมาหรือยัง  3.ความคาดหวังสูงเกินไป 😻 อีกหนึ่งปัจจัยที่ให้เกิดโรค FOMO (Fear of Missing Out) นั้นคือ อยากรวยเร็ว หรือรวยข้ามคืนหรือ ไม้เดียวเปลียนชีวิต ชีวิตคาดหวังมากเกินไป จะทให้เราเครียดและกดดัน  4.ไม่มีกฏการเทรด 😮 เมือเรารับข่าวสารมากหรือสัญญารจากเซียนต่างๆมากเกินไป จะทำให้เราไม่มีแนวทางของตัวเอง นั้น ทำให้เรานั้น ไม่สามารถที่จะหาเงินได้ตัวเอง  5.มีโอกาส OverTrade 💢 เมือมีความคาดหวังที่สูงมาก็เป็นธรรมดาที่จะลงเงินหนัก ยิ่งตามเซียนที่แม่นๆๆ เราก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นก็ทุบหนัก แน่นอนว่า แพ้ขึ
รีโควต-Requote คืออะไร ❓😡 อาการหนึ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่เทรดเดอร์ทำการเปิดสัญญา Buy หรือ Sell แล้ว แต่ระบบไม่สามารถเปิดคำสั่งซื้อตรงนั้นออกไปได้ และแจ้งกลับมาให้เทรดเดอร์ทราบว่าเส้นราคานั้นมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ซึ่งอาจทำให้เราพลาดโอกาสในการเข้าชื้อขาย  ❗ตัวอย่างเช่น เราเช้าซื้อที่หุ้นที่ราคา 5 บาท กดส่งคำสั่งไปเราไม่สามารถซื้อได้ 5 บาทได้เพราะราคาเปลี่ยงแปลงไปแล้ว  สาเหตุของการ Requote 😈 😈1.ช่วงเวลาที่สำคัญ อย่างเช่นข่าวหรือเหตุการสำคัญในตลาดที่มีการผันผวนสูงและมีการซื้อขายอย่างรุนแรง ทำให้เรากดแล้วไม่สามารถที่ไปจับคู้กับราคาที่ต้องการได้  😈 2. Server ต่างประเทศ โบรคเกอรส่วนใหญ่ที่เราเทรดนั้นส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ  ร่วมไปถึงคุณภาพของอินเตอร์เน็ตของเรา หาก เน็ต คุณไม่ดีหรือ มี ping ที่เยอะเกินไป ก็ทำให้ได้มีโอกาศที่จะโดน รีโควต  😈 3.โบรคเกอร์ไม่รับซื้อขาย บางครั้งโบรคเกอรก็จะมีเหตุผลที่เลือกจะไม่รับออเดอร์เรา และถ้าเป็นโบรคเกอรที่รับกินเองไม่ส่งเข้าตลาด ก็มีโอกาศสูงที่จะไม่รับออเดอร์ของเราในช่วงเวลาของข่าวหรือเหตู์การ์ณสำคัญ  วิธีป้องกันการ Requote 😀 😀1. Set Maximum Deviation  ให
 ระวัง! คุณกำลังเป็น "โรคหลงตัวเอง" NPD อยู่หรือเปล่า                หลายคนอาจจะเคยเห็นคนที่มีนิสัย “หลงตัวเอง” มาบ้างไม่มากก็น้อย  และก็คิดว่ามันเป็นเพียงแค่ “นิสัย” ของคนคนหนึ่งเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว การหลงตัวเองมากๆ ก็อาจเป็นโรคอย่างหนึ่งได้เช่นกัน  โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder)     NPD                โรคหลงตัวเอง เป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่งที่สนใจแต่ตัวเอง เห็นตัวเองเป็นใหญ่ ไม่ยอมรับในเหตุผล และคำพูดของคนอื่น และการชอบเรียกร้องความสนใจจากคนอื่น มีความสุขเมื่อคนอื่นให้ความสนใจตนเอง ไปจนถึงขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ปฏิเสธคำพูดและเหตุผลของผู้อื่น นี่แหละที่น่ากลัว สาเหตุของโรคหลงตัวเอง             👊  ถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจ ไม่เคยโดนดุโดนว่า ได้ในสิ่งที่อยากได้ มีคนสนใจอยู่ตลอดเวลา                👊  ถูกเลี้ยงดูอย่างเคร่งครัด และเข้มงวดมากเกินไป  หรือ อาจเติบโตในครอบครัวที่ไม่เคยดูแล เหลียวแล จึงชอบให้คนมาสนใจ มาชื่นชม                 👊  ถูกกลั่นแกล้งตั้งแต่เป็นเด็ก ขาดเพื่อน ขาดคนเข้าใจ  ถูกทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรงตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ถูกปิดกั้นจากสังคม จนตัว