กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ จิตวิทยาการเทรด

บทความ

วันนี้จะนำเสนอ อีก 1 อินดิเคเตอร์ ที่รวมความสามารถของอินดิเคเตอร์ประเภทเทรน และ โมเมนตัม ใว้ใน1อินดิเคเตอร์ และมีความสาารถที่หลายหลาย อินดิเคเตอร์ตัวนั้นคือ TRIX   TRIX คืออะไร👍 อินดิเคเตอร์ TRIX เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ได้หลายรูปแบบ ซึ่งทำการรวมเทรนด์และโมเมนตัมมาไว้ในอินดิเคเตอร์เดียว มันประกอบไปด้วย rate of change ของ สามเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ exponentially smoothed โดย key signal ที่ถูกสร้างออกมาจาก TRIX เป็นไดเวอร์เจนท์ และการตัดกันของ signal line ช่วงเวลาที่สั้นกว่าจะมีความไวมากกว่า ในขณะที่ช่วงเวลาที่ยาวกว่า ความไวก็จะน้อยกว่า ข้อดีของ TRIX ✅ 1.ประหยัดพื้นที่หน้าจอ เพราะร่วมทั้งเทรนด์และโมเมนตัมมาไว้ในอินดิเคเตอร์เดียว 2. สามารถบอกเทรน  หากเหนือ 0 ก็แปลว่า เทรนขาขึ้น ต่ำกว่า 0 เทรนขาลง                3. จุดกลับตัวและ สัญญาณการเข้าซื้อขาย              4.  สามารถสร้าง โซน OverSold และ OverBought  การเข้าทำด้วย TRIX 💥 1. ให้ Buy เมื่อเส้นสีแดงอยูต่ำว่า Zone 0 และเส้นสีแดงตัดเส้นประสีฟ้า 2.ให้ Sell เมื่อเส้นสีแดงอยู่สูงกว่า Zone 0 และเส้นสีแดงตัดเส้นประสีฟ้าลง สร
 เคล็ดลับการสร้างนิสัยการเทรด Forex ที่ดี                คุณเคยประสบความสำเร็จกับเป้าหมายที่คุณบอกว่าจะทำเอาไว้หรือไม่???? แล้วตอนนี้ได้เริ่มลงมือทำมันหรือยัง????  บางคนก็เริ่มแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ แต่บางคนก็คิดแล้วคิดอีก คิดอย่างเดียวแต่ไม่เริ่มสักกะที แล้วยิ่งเกี่ยวกับการเทรดด้วยแล้ว ยิ่งแล้วใหญ่ หลายคนใฝ่ฝัน โครงการร่ำรวยเอาไว้มากมายในอนาคต กับการเทรด forex แต่ยังมองไม่เห็นและจับต้องยังไม่ได้                 วันนี้แอดจะมาแนะนำ วิธีการเพิ่มและสร้างความสุข ให้กับทุกคน ด้วยการเริ่มสร้างนิสัยการเทรดที่ดี ตั้งแต่ตอนนี้เลย บทความนี้มีเคล็ดลับที่จะช่วยทำให้คุณได้เข้าใกล้เป้าหมายเพื่อที่จะพัฒนาลักษณะนิสัยในการเทรดของคุณให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงอาจจะทำให้แผนที่วางเอาไว้มันเห็นรูปร่างที่มากขึ้นด้วย วิธีในการสร้างนิสัยการเทรดที่ดี 1.จดจ่อให้มากขึ้น                ขอยกตัวอย่างการตั้งเป้าหมายง่ายๆ เช่น การเก็บเงินวันละหนึ่งบาท เพื่อซื้อของอะไรสักอย่าง หรือการหยอดกระปุก รายจ่ายต่างๆภายในบ้าน เพื่อที่สิ้นเดือนมาคุณจะได้ไม่ต้องประสบกับปัญหาเงินขาดมือ ไม่พอจ่ายค่าน้ำค่าไฟเป็นต้น   การเทร
ความมั่นใจในการเทรด นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ก็มีบางครั้งที่ความมมั่นใจของเรานั้นหายไป ซึ่งอาจจะมากจาก การแพ้หรือขาดทุน จนเกิดความกลัว เมื่อสัญญาณมาแล้วไม่กล้าเข้า ทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไรไป วันนี้เราจะนำเสนอแนวทางสำหรับ เพิ่มควาามั่นใจในการเทรด  3 ขั้นตอนเพื่อสร้างความมั่นใจในการเทรด 1.สมาธิกับกระบวนการ🙏 เทรดเดอรทุกคนต้องการที่จะทำกำไร แต่บางทีเราก็อาจจะคาดหวังกำไรมากเกินไป จนไม่ได้โฟกัสที่จะทำตามระบบ หรือกลัวที่แพ้มากเกินไป จนเกิดความกดดัน ทำให้การตัดสินใจบางอย่างมันอาจช้าเกินไป จนเกิดการ ตกรถ หรือ ตกขบวน  แนวทางแก้ คือ ต้องโฟสกัสที่ระบบ ไม่ว่าออเดอร์นั้นจะแพ้หรือชนะ ขอให้ได้ทำตามระบบ หากกดดันหรือเครียดมากไป อาจจะต้องหยุดเทรด หรือ อาจจะฟังเพลงไปเทรดไป เพื่อผ่อนคาย แพ้ตามระบบดีกว่าชนะแบบฟลุคๆ  2.เรียนรู้จากการกระทำ😏 เช่นเดียวกับการชกมวยที่การฝึกฝนเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ สาเหตุที่เราไม่มีความมั่นใจนั้นมาจากการทดสอบระบบของเราน้อยเกินไป แนวทางแก้ไขต้องทดสอบระบบให้มากพอ โดยอาจจะใช้ข้อมูลในอดีตมาทดสอบระบบ หรืออาจจะลองเทรด ด้วยเงินที่น้อยก่อนที่จะออเดอรที่ขนาดเงินเยอะๆ  ฝึกมันจนชิน แล
หากพูดเรื่องการ การเทรด สิ่งที่แรกที่เราต้องเรียนรู้ นั้นคือ แนวรับแนวต้าน เพราะสามารถใช้ในจุดซื้อขาย และจุดออก ซึ่งแนวรับแนวต้าน ก็ไม่ได้มีแต่ แนวรับแนวต้านแบบแนวนอนเท่านั้น ยังมีอีกหลายรูปแบบเยอะมากในตลาดแต่วันนี้เราจะคัดแนวรับแนวต้านที่มีนัยยะสำคัญ ว่ามีแนวแบบใหนบ้าง  1. แนวรับแนวต้านเลข 0 ✅ คือแนวรับแนวต้านที่ ที่ตัวเลขลงท้ายด้วยเลข 0 หลายๆ ตัว ตัวอย่างเช่น 1.50000  , 60000.00 ตัวเลขที่ลงท้ายเลข 0 นั้นเป็นตัวที่กำหนดจุดเข้าได้ง่ายแล้ว ตัวอย่างเช่น ระหว่าง ชื้อทอง ที่ 9945.00 กับซื้อที่ 10000.00 แน่นอนว่า ส่วนใหญ่ก็จะให้ความสนใจกับ 10000.00 เพราะตัวเลขมันเห็นง่ายและเข้าใจได้ง่าย นั้นจึงทำให้แนว ที่ลงท้ายด้วย 0 นั้นมีนัยยะที่สำคัญ 2.แนวรับแนวต้าน Fibonacci 📉 Fibonacci retracemen หรือเราจะเรียกง่ายว่า fibo  โดยตัวเลขแต่ตัวนั้นมีนัยยะสำคัญทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น 38 50 61 100 168 261  ซึ่งเราสามารถที่จะนำมาใช้เป็นแนวรับแนวได้่  และถ้าแนวนรับแนวต้านนั้นซึ่งกับแนว fibo ก็จะยิ่งเพิ่มนัยยะสำคัญ  3.แนวรับแนวต้านเทรนไลน์⛞ เป่นอีกหนึ่งแนวรับแนวท้านที่ได้รับความนิยมสูง เพราะมีแม่นที่สูง และยิ่งหา
  วันนี้เราจะทำความรู้จักเครื่องมืออินดิเคเตอร์ ที่ได้รับความนิยมสูงมาในจับเทรน นั้นคือ Parabolic SAR  Parabolic SAR มีความสามารถอะไรบ้าง และข้อกำกัดอะไรบ้าง Parabolic SAR  เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้ม โดย จัดเป็นอินดิเคเตอร์ในกลุ่ม Trend โดย  SAR ย่อมาจาก "Stop and Reverse"  โดยที่จุดเด่น นั้นคือ จุดไข่ปลา โดย  Parabolic SAR นั้นถูฏคิดค้นโดย J. Welles Wilder สูตรคำนวณ Parabolic SAR SARNEW = SARCURRENT + AF x (EPCURRENT - SARCURRENT) AF = acceleration factor – มูลค่าการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นในแต่ละช่วงเวลาที่ถึงจุดสูงสุดใหม่ (สำหรับ Buy หรือ Sell) สำหรับการซื้อขาย Wilder เสนอค่า 0.02 สำหรับค่า AF เริ่มต้นซึ่งจะเพิ่มขึ้นเป็นขั้นตอน 0.02 จนกว่าจะถึงค่าสูงสุด 0.20 EP = extreme point - ราคาสูงสุดหรือต่ำสุดที่เห็นในช่วงเวลาของแนวโน้มปัจจุบัน (สูงสุดสำหรับแนวโน้มขาขึ้นต่ำสุดสำหรับแนวโน้มขาลง) ประโยชน์ของ  Parabolic SAR   1.ใช้บอกเทรน  หากจุดไข่ปลาอยู่ต่ำกว่าราคาแนวโน้มก็จะเป็นเทรนขาขึ้นแต่ถ้า จุดไข่ปลาอยู่เหนือราคา แนวโน้มก็จะเป็นขาลง  2.ใช้เป็นจุดออก
4 แนวคิดสำหรับการรับมือ ความผิดหวัง เทรดแพ้  เชื่อได้ว่าทุกคนทั้ง 100 เปอรเซน ต้องเจอกับ ความพ่ายแพ้ เทรดแพ้ติดกัน DD(Draw Down) เพิ่มสูง จนเกิดภาวะเครียดหรือ หัวร้อน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักแนวคิด สำหรับการรับมือ กับความผิดหวัง  1.ยอมรับวามจริง 👍 เมือเราเทรดไปแล้วแพ้ สิ่งหนึ่งที่ต้องทำให้ได้นั้นคือ ยอมรับความจริง ว่าเราเทรดแพ้ นั้นคือจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาทั้งหมด เมื่อเทรดแพ้ แล้วไม่ยอมรับความจริงว่าเราเทรดแพ้ มักจะมีอารมเข้าเกียวข้อง และไม่ยอมรับความพายแพ้ ก็จะออกออเดอร์เพื่อที่จะแก้ทางให้ถูก โดยบางทีอาจทำให้เราหลุดจากแผนหรือระบบที่วางใว้ จนลามไปถึงการ Overtrade และจุดจบของการไม่ยอมรับความเป็นจริงนั้นคือการล้างพอร์ต  2.ยิ้มให้กับตัวเอง😀 ทุกระบบทุกท่าทุกเทคนิค ไม่สามมาถที่จะชนะตลอดได้ 100 เปอร์เซ็น แพ้ไม้นี้ไม้หน้ายังมี ขอให้เราเทรดตามระบบที่วางใว้ การยิ้มให้กับตัวเอง ก็เป้นหนึ่งสิ่งที่ให้กำลังใจกับตัวเราได้ดีที่สุด และถูกที่สุด 3.มองหาต้นเหตุของปัญหา💦 เมือเรามีสติแล้วก็มองกลับมาที่ออเดอร์ที่เราแพ้ เราก็จะเจอว่าเราแพ้เพราะอะไร และเราจะเกิดกับวิธกีการแก้ปัญหา พยายามจุดและบันทึก
How to be successful with trader   สิ่งที่ต้องทำหากอยากประสบความสำเร็จในการเป็นเทรดเดอร์                แรงจูงใจ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จ แต่แค่นั้นมันยังไม่เพียงพอ มันยังมีสิ่งอื่นที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จในการเทรด เช่นเดียวกับพวกนักกีฬา นักแข่งหมากรุก หรือ นักแสดง คงไม่มีใครบอกว่าชายคนนั้นควรจะได้เข้าทีม บาส Chicago Bulls เพียงเพราะเขามีแรงจูงใจมากพอหรอกจริงมั้ย  ดังนั้น เพียงแค่ “แรงจูงใจ” ยังไม่เพียงพอสำหรับการจะเป็นเทรดเดอร์ที่ดี             “แรงจูงใจ” ที่เกิดขึ้นมักจะเป็นเพียงแค่ความอยาก ส่วนการ “ประสบความสำเร็จ” ไม่ใช่ความอยาก มีเทรดเดอร์จำนวนมากที่บอกว่า พวกเขามีแรงจูงใจมากมายกับการเทรด แต่เมื่อถึงเวลาตลาดปิดปุ๊บ ก็ออกจากบริษัทหลักทรัพย์ปั๊บ ไม่เคยเห็นความพยายามของพวกเขาในการศึกษาตลาดนอกเวลาทำงานเลย                รวมทั้งใช้ความพยายามน้อยมากในการศึกษาการเทรดของตัวเอง เมื่อเทรดเดอร์เหล่านี้จำเป็นต้องบันทึกการเทรดตามหน้าที่ ก็จะเห็นแต่ข้อความทำนองว่า “ต้องมีวินัยมากกว่านี้” โดยไม่เขียนระบุว่า วินัยแบบไหน อะไรที่ทำผิดวินัยลงไป ทำไมถึงผิดวินัย จะไม่ให้ผิดวินัยในอนาคตได้อย่างไ
สำหรับบ้านเรานั้นก็คงคุ้นเคยกับ กองทุนรวม หรือ Mutual Fund และกองทุนอื่นๆ โดยเป็นรวมเงินไปลงทุนใน ตราสารหนี้ หรือหุ้นสามัญเป็นหลัก ซึ่งจะแตกต่างกับรูปแบบกองทุนที่เราจะไปทำความรู้จักวันนี้ กองทุนนั้คือ เฮดจ์ฟันด์ หรือ กองทุนป้องความเสี่ยง เฮดจ์ฟันด์ หรือ กองทุนป้องความเสี่ยง คืออะไร 👪 เป็นกองทุนที่เน้นการกระจายความเสี่ยง ซึ่งในแต่ละกองทุนก็จะกระจายเงินของเรานั้นไปลงทุนหลายอย่างหลายสินค้า และการเข้าซื้อของเฮดจ์ฟันด์ ก็ไม่จำกันแค่ ซื้อ Long อย่างเดียวแต่การมีขายหรือ Short  รวมไปถึง เฮดจ์ฟันด์ ก็ใช้ Leverage  เพื่อเพิ่มผลกำไรให้มากขึ้นอีกด้วย   บางกองทุนจึงทำให้กองเฮดจ์ฟันด์ นั้นมีความยืดหยุ่นกว่ากองทุนอื่น และได้ความนิยมสูงจนขนาดคนเริ่มที่ลงทุนหรือเทรด โดยใช้กลยุทย์ของ เฮดจ์ฟันด์ มาใช้ในการเทรด แน่นอนว่า ผลตอบแทนของ เฮดจ์ฟันด์ ก็จะมากว่า กองทุนทั่วไป แต่ความเสี่ยงนั้นก็เพิ่มมากเช่นกัน  เฮดจ์ฟันด์ เหมาะกับใคร ✅💲 1.รับความเสี่ยงได้  เพราะความเสียงมีสูงกกว่ากองทุนทั่วไป  2.มีทุนเยอะ ยิ่งกองทุนนั้นดังก็ยิ่งต้องมีเงินลงทุนสูง  3.คนที่มีประสบการการลงทุนในต่างประเทศ 4.ไม่นำเงินร้อนมาลงทุน เฮดจ
     หลายคนที่เริ่มเข้ามาในตลาดไม่ว่าจะเป็นการเทรดหุ้นหรือเทรด Forex  จะต้องเคยประสบกับสภาะวะ ติดจอ ติดหุ้น พยามเปิดที่เปิดหน้าจอดูกราฟตลอดเวลา นั้นเรียกว่าสภาะวะ Over analysis   หลายคนอาจจะถามว่า แล้วมันไม่ดีหรอ ต้องตอบว่า อะไรก็ตามที่มันมากเกินไป มันก็อาจจะมีผลเสียตามมาเสมอ  ข้อดีของการเฝ้ากราฟ✅✅ 1.เราจะเห็นการเคลื่อนของราคาทุกช่วง อาจทำให้เราคาได้โอกาสทำกำไร มากกว่าการไม่เผ้ากราฟ หรือ ช่วงเวลาที่สำคัญเช่นการประกาศตัวเลขสำคัญ หรือจังหวะเข้า 2.ได้ศึกษาการเคลื่ยนที่ของราคา ทำให้เราเข้าใจพฤติกรรมราคาของแต่ละสินค้า    
การเทรด Forex ผ่านธนาคาร🏢 คือการที่เทรดกับธนาคารโดยตรงโดยที่ไม่ผ่านคนกลาง (โบรคเกอร์) ซึ่งเมื่อก่อนการเทรดผ่าน ธนาคารนั้นเป็นเรื่องยากมาก เป็นเรื่องยากตั้งแต่เปิดบัญชีเลยก็ว่าได้เพราะต้องเดินทางไปยังประเทศนั้นเพื่อเปิดบัญชี นี้ยังไม่ร่วมถึงเอกสารที่ต้องไปยื่น และจำนวนเงินก็สูงมากสำหรับเปิดบัญชี  แต่ปัจจุบันก็มีหลายธนาคารที่อยากได้ฐานลูกค้ารายย่อยมากขึ้น  ข้อดีของการ เทรด Forex ผ่านธนาคาร✅ มีความมั่นคงสูง เพราะเป็นสถาบันการเงินโดยตรง จึงย่อมมีความเข้มงวด สิทธิพิเศษเพิ่มเติมกรณีที่เป็นลูกค้ามีสินทรัพย์สูงเช่น Private Banking, ตู้นิรภัยส่วนตัว, ที่ปรึกษาการเงินส่วนตัว ข้อเสียของการ เทรด Forex ผ่านธนาคาร❌ อัตราค่าธรรมเนียม Spread, Commission ในการเทรดอาจสูงกว่าโบรกเกอร์ทั่วไป ขั้นตอนการเปิดบัญชี มักมีความยุ่งยาก ต้องส่งเอกสารโดยตรง โดยมีทนายหรือหน่วยงานเซ็นรับรองเอกสาร การฝากถอนเงิน มักจะใช้เวลานานและมีข้อจำกัด เนื่องจากต้องผ่านการตรวจสอบ, KYC หลายขั้นตอน ไม่ค่อยมี Payment Gateway จึงต้องทำรายการผ่านช่องทาง Credit Card หรือ Wire Transfer ไม่ค่อยมี Promotion, ข้อเสนอที่น่าสนใจเหมือนโบรกเกอ
ต่อจากตอนที่แล้วที่เราไปทำความรู้จักประเภทของ Lots แล้ว วันนี้เราจะไปทำความรู้จัก หลักการคำนวณของ Lots รวมไปถึงการออกขนาด lots เท่าไหร่ดี ถึงจะปลอดภัย  การประยุกต์ใช้ความรู้เรื่อง Lot เราใช้หลักการเรื่อง Lot มาใช้ในการคำนวณ หามูลค่าของการเคลื่อนที่ไป 1 pips ครับ โดย มูลค่า 1 pip = (จำนวนจุดทศนิยมของคู่สกุลเงิน / ราคาอัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบัน) x ขนาดของ Lots ตัวอย่างเช่น คุณเทรด EUR/USD กับ Forex โบรกเกอร์ที่ใช้ทศนิยม 4 ตำแหน่ง หรือ 4 จุด ราคาอัตราแลกเปลี่ยนของ EUR/USD ณ ปัจจุบัน คือ 2385 คุณเทรดโดยมีขนาดเท่ากับ Mini Lot size = 10,000 หน่วย ดังนั้น มูลค่า 1 pip ของ EUR/USD = ((0.0001)/ 1.2385) x 10,000 = 0.0000807 x 10,000 = 0.807 โดยหากบัญชีเทรดที่คุณเปิดอยู่กับ Forex Broker เป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เราจะสามารถพูดได้ว่า ทุกๆครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาอัตราแลกเปลี่ยนไป 1 pip จะมีค่าเท่ากับการเปลี่ยนแปลงไป $0.807 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา การคำนวณหา กำไร/ขาดทุน จากการเทรด สมมุติว่า คุณเทรดคู่เงิน EUR/USD โดยทำการเปิด Buy 1 ออเดอร์ และใช้ขนาด Lot Size เท่ากับ $10,000 เมื่อราคา ณ ปัจจุบันข
สำหรับมือใหม่หลายคนที่เข้ามา แล้วฝึกเทรด หรือเปิดบัญชีกับโบรคเกอร์ ก็อาจจะงง ว่า Lot หรือขนาดการออกออเดอร์ มีหลายประเภทมาก และไม่รู้ว่าจะคิดคำนวณ lot ยังงัย วันนี้จะทำความรู้จัก กับ lot ไปพร้อมกัน Lots คือ ปริมาณหรือขนาดของการซื้อขายในตลาด Forex ล็อตคือจำนวนของหน่วยสกุลเงิน ซึ่ง 1 standard Lot Size เท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก/สกุลเงินในบัญชีของคุณที่คุณเปิดไว้ (Unites) ซึ่งหมายความว่าหากคุณต้องการซื้อขายคู่เงินใดๆ เช่น GBPUSD จำนวน 1 Lot คุณจะต้องมีเงิน 100,000 $ โดย Lot มีอยู่ 4 ลักษณะคือ Nano Lot size, Micro Lot size, Mini Lot size, และ Standard Lot Size โดย Nano Lot size มีค่าเท่ากับการเทรด 100 units Micro Lot size มีค่าเท่ากับการเทรด 1,000 units Mini Lot size มีค่าเท่ากับการเทรด 10,000 units Standard Lot Size มีค่าเท่ากับการเทรด 100,000 units   Nano Lot, Micro Lot, Mini Lot จะแตกต่างกับ Standard Lot ในแง่ของจำนวนเท่าของการทำกำไรหรือขาดทุนในกรณีเปิด Volume (Vol.) เท่ากัน ในเชิงใช้งานมันแตกต่างกันในแง่ของบัญชีที่โบรกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เราเทรดครับ อย่างบัญชี Mini ถ้าเรา
ความมั่นใจ และสภาวะทางจิตใจ นั้นสำคัญต่อการเทรดมาก ต่อให้คุณมีระบบที่เทพขนาดใหน แต่ถ้าคุณไม่มีความมั่นใจ คุณก็มีโอกาศที่จะแพ้ได้หรือทำตามระบบไม่ได้ ฉนั้น ควาามมั่นใจเป็นสิ่งที่สำคัญ สิ่งหนึ่งที่สามารถเพิ่มความมั่นใจหรือสภาวะทางจิตใจได้ นั้นก็คือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องราง หินนำโชค หรือ ตัวเลขนำโชค หรือ สายมูต่างๆ  แต่ก็มีหลายคนก็ไม่อาจไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่เชื่อหรือไม่ คนที่เทรดประสบความสำเร็จในไทยหลายคน มีเครื่องราง หรือสิ่งยึดเหีนวจิตใจ อยู่ใว้หน้าจอเทรด แน่นอนทางจิตวิทยานั้น มันเป็นสิ่งที่เพิ่มความมั่นใจได้ และในทางสายมูนั้น ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงที่จะขาดทุน และมีดวงเข้ามา การมีเครื่องรางมีโอกาศที่ช่วยทำใหเราได้กำไรมากขึ้น เพราะว่ามีความมั่นใจในการถือทนกำไรมากขึ้นนั้นเอง  และช่วยให้สภาวะทางจิตใจดีขึ้นได้ และหนึ่งในตัวช่วยในการเพิ่มความมั่นใจหรือเสริมดวง นั้นคือ ตัวเลขมงคล  มีตัวเลขมงคลอะไรบ้างที่เหมาะสำหรับสายเทรด  กลุ่มเลขที่ไม่มงคลสำหรับเทรดเดอร์  02 20 04 40 05 50  06  60  12  21  18 81  27  72  67  76 เลขกลุ่มนี้ เป็นเลขต้องห้ามสำหรับ สายเทรดเดอร์ นะครับ  เป็นกลุ
จากตอนที่แล้ว ที่เราเล่าถึงการติดดอย และวิธีการป้องกันการติดดอย แต่สำหรับบางคนที่ติดดอยอยู่ และอยากจะที่ลงจากดอยนั้น วันนี้เราก็จะมาทำความรู้จักวิธีการลงจากดอย ว่ามี วิธีการใดบางที่ สามาารถที่จะลงจากดอย  การสำรวจพอร์ตของตัวเองก่อนที่จะแก้พอร์ต  ก่อนที่ราคาจะแก้ดอยหรือลงจากดอย เราต้องรู้ก่อนว่า พอร์ตของเราเหลือะไรบาง ลบเท่าไหร่ จำนวนไม้ที่ออก Margin เหลือเท่าไหร ตำแหน่งของเราบนดอย  การที่เราสำรวจพอร์ตเราก่อนเพื่อให้เราสามารถประเมิน แนวทางการแก้ไขการติดดอย เมื่อเราประเมินได้แล้ว ค่อยเลือกเครื่องมือหรือรูปแบบสำหรับการแก้ไข พอร์ต  รูปแบบการแก้พอร์ต ลงดอย  1.ถือทนใว้ ไม่ขายไม่ขาดทุน  ปล.ไม่เพิ่มออเดอร์             เป็นวิธีที่ง่าย แต่ทำยาก เพราะว่าเราต้องรอจนกว่าพอร์ตจะกลับมาบวก เหมาะสำหรับคนที่เงินในพอร์ดเยอะ และ เหลือ  Margin  เยอะ LV ต่ำ      👦-เหมาะกับใคร = มือไหม่ หรือ สายซื้อเก็บ  และสำคัญสุด นั้นคือคือกลุ่มคนที่รอได้ หรือสายลงทุน เพราะว่า  เราใช้เวลาในการแก้พอร์ต บางทีอาจจะต้องถือ ข้ามเดือน        ✅ -ข้อดี = มีความปลอดภัยสูง หากคำนวน Margin   หรือ วางแผนดีๆ หรือทำระบบ Close System ก็
  ❌ติดดอย เชื่อได้ว่า คำนี้ ทุกคนต้องเคยได้ยินหรือเคยเห็นผ่านตามาแน่นนอน ซึ่งเป็นคำที่ทุกคนบนโลกในนี้ไม่อยากเจอกับตัวแน่นอน ซึ่งวันนี้เราทำความรู้จักคำว่า ติดดอย และ วิธีป้องกันการติดดอย ไปพร้อมกัน     -ติดดอย,ยอดดอย นั้นหมายถึงการที่คุณเปิดสัญญาซื้อ (Buy) หรือสัญญาขาย (Sell) โดยที่เมื่อเปิดสัญญาแล้ว กราฟมีการเคลื่อนที่สวนทางกับสัญญาของคุณ แต่ Margin ของคุณนั้นยังไม่หมด จึงทำให้คุณอยู่บนยอดของหุบเขา หรือก้นเหว เรามักเรียกอาการแบบนี้ว่า ติดดอย,ยอดดอย แต่สำหรับคนเล่นหุ้น จะไม่มีการลงเหว มีแต่ติดดอย,ยอดดอย อย่างเดียว เนื่องจากการเทรดหุ้นมีการเทรดแต่ขาขึ้น ในขณะที่ Forex มีการเทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง สาเหตุของการติด ดอย   1.เข้าซื้อในราคาที่สูงตามเทรน หรือซื้อตามกระแส หากคุณเข้ามาในวงการเทรดใหม่ๆ เซียนหลายคนก็จะบอกว่า จะเทรดตามเทรน หรือ เทรน คือ เพื่อน ถามว่าจิงใหม ก็ต้องตอบว่า จริง  แต่ถ้าเราเข้าซื้อตามเทรนโดยไม่มีความรู้ที่มากพอ หรือเอาแค่เข้าตามเพื่อนเพราะเพื่อนบอกว่าจะขึ้น ซื้อตามเซียนต่าง  หรือภาษาหุ้นเรียกว่า ล่อเม่า  เมื่อหมดแรงของเทรนก็จะมีการเทขายครั้งใหญ่เกิดขึ้น ตามแรงของ อุปส
❌✅เมื่อหลายคนเข้ามาเทรด Forex หรือเทรด หุ้น สิ่งที่ทุกคนคาดหวังนั้นคือ การหากำไรให้ได้มากที่สุด แต่บางที หลายคนก็อาจจลืมไปว่า การลงทุนนั้นมีความเสี่ยง ที่จะทำให้เงินเราลดลงได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยง Risk Management ที่จะทำให้พอร์ตของคุณปลอดภัยมากขึ้น  Risk Management คืออะไร❓❓ คำว่า Risk Management แปลเป็นไทยได้ว่า “การบริหารความเสี่ยง” โดยเป็นการบริหารความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาด forex ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงมากในเรื่องของความเสี่ยง การบริหารความเสี่ยงในการเทรดที่ดี จะส่งผลให้คุณนั้นมีโอกาสสูงในการทำกำไรครับ โดยความเสี่ยงทั้งหมดนั้นจะเกี่ยวข้องกับเงินทุน (Asset) ที่คุณมีในพอร์ตการลงทุน วิธีการใช้ Risk Management 💬💬 1.หาระบบที่เรามั่นใจ และชัดเจน ในการเทรด  โดยระบบนั้นก็ต้องยึดตัวเองเป็นหลัก ระบบควรจะออกมาให้ ตรงกับจริตของเรา เพื่อให้เทรดได้อย่างไม่กดดัน และเพื่อให้เราเทรดให้ได้ตามแผนมากที่สุด  2.กำหนดการบริหารการเงิน นั้นคือหัวใจของการบริหารความเสี่ยง ต้องมีระบบบริหารที่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น   รับความเสี่ยงได้เท่าไหร๋ โดยแนะนำให้คิดเป็นเปอรเซ็น ต
สำหรับหลายคนที่เทรด Forex ก็จะต้องพบกับสภาวะ ร้อนรน กังวล เมือ ออเดอร์ที่เราถือนั้น เริ่มข้ามฝั่งจาก แดนลบ แล้วมา แดนบวก และจะปิดกำไรเพราะกลัวที่ราคาจะปิดลบ ทั้งที่ราคาสามารถที่จะขึ้นได้ต่อไปไกลกว่านี้ เราเรียก จังหวะนี้ว่า ขายหมู วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก ขายหมู และวิธีป้องกันการขายหมู ไปพร้อมๆ กัน  ขายหมู หมายถึงการที่คุณปิดสัญญา Buy หรือสัญญา Sell เร็วกว่าที่ควรจะเป็น ส่งผลให้คุณนั้นได้กำไรน้อยกว่าที่คุณจะได้เพราะเมื่อคุณปิดสัญญาไปแล้ว กราฟก็มีการวิ่งไปตามทิศทางที่คุณเปิดสัญญาในตอนแรกอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณเจอลักษณะการเทรดของคุณเป็นแบบนี้ เราเรียกการปิดสัญญาแบบนี้ว่า “ขายหมู” การ “ขายหมู” แสดงถึงการขายหุ้นซึ่งปรากฏว่าเมื่อขายไปแล้วราคาหุ้นยังคงวิ่งขึ้นจากระดับที่ขายไปอีกมาก เหมือนกับการขายหมูตัวเล็ก ๆ แต่หลังจากนั้นหมูก็อวบอ้วน โตเต็มวัยอย่างรวดเร็ว คือแทนที่จะได้กำไรมากๆกลายเป็นได้กำไรน้อยๆไป สาเหตุที่ทำให้เกิดการขายหมู 2.1 ระบบเทรดไม่ชัดเจน หลายๆคนที่ระบบเทรดของตนเองไม่ชัดเจน หรือยังอ่านกราฟไม่ทะลุ ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่ากราฟนั้นจะมีการเคลื่อนตัวไปในทิศทางใด แบบนี้ถือว่า มีโอกาสท
  Fibonacci Retracement  วิธีการเทรดโดยใช้ฟีโบนัชชี - จุดกลับตัว                Fibonacci เป็นตัวเลขที่มีอิทธิพลซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างมากในหมู่นักลงทุนเทรดเดอร์ ผู้ที่คิดค้นระบบตัวเลขนี้คือ  ลีโอนาโด ฟีโบนัชชี นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาเลียนจากเมืองปิซา โดยตัวเลขเหล่านี้ล้วนแล้วมาจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราทั้งนั้น ของการรักษาสมดุลในธรรมชาติและสถาปัตยกรรม ซึ่งมีความสำคัญในตลาดการเงินโดยการใช้อัตราส่วนฟีโบนัชชีในการคำนวณแนวรับและแนวต้าน  กลยุทธ์การเทรด Forex เพื่อหาจุดกลับตัว และเป็นที่นิยมอย่างมากใน อัตราส่วนทองคำ โดยตัวเลข 1.618 ถูกเรียกว่า ‘ฟี’ หรืออัตราส่วนทองคำ Fibonacci Indicator                Fibonacci เป็นอินดิเคเตอร์ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นไม่ว่าจะเป็นตลาดการเงิน หรือตลาดหุ้นก็ล้วนใช้อินดิเคเตอร์ตัวนี้ประกอบในการตัดสินใจทั้งนั้น ยิ่งโดยเฉพาะทองคำนั้น ตัวเลขมีความสัมพัทธ์กันโดยตรงเลยทีเดียวเชียว โดยการหาจุดพักตัว จุดกลับตัว จุดทำกำไร และจุดตัดขาดทุน           1. มองดูเทรนใน TF กราฟใหญ่ เป็นหลัก D W M เมื่อมองเห็นเทรนแล้ว ให้ลากจุดต่ำสุดไปหาจุดสูงสุด หากมองเห็นเป็นเทรนขาขึ้น หรือจะ  ล