คุณได้ระบบการเทรดของคุณมาอย่างไรครับ?
อย่าเพิ่งเอือมกับคำถามนะครับ นี้เป็นเพียงคำถามพื้นๆ ที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักมองข้าม แต่มันสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ให้กับการเทรดของคุณได้เลยทีเดียว เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักนำเอาระบบเทรดจากกูรู หรือ ผู้เชี่ยวชาญมาใช้ โดยไม่เคยตรวจสอบเลยว่า ระบบนั้นเข้ากับบุคลิกภาพ, ความเชื่อ และจุดแข็งของตัวเองหรือไม่ ซึ่งบ่อยครั้งการนำเอาระบบของคนอื่นมาใช้โดยไม่ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ให้เข้ากับลักษณะนิสัยของตัวเอง มักนำพาเราไปยังทิศทางที่ตรงข้ามกับกำไรถามตัวเองดูครับว่า"คุณไปเอาระบบเทรดปัจจุบันของคุณมาจากไหน?"
1.)ในห้อง Forum สำหรับกลุ่มเทรดเดอร์?
2.)Google?
3.)หรือมีเพื่อนในห้องแชทไลน์ แนะนำมา?
ถ้าคุณได้ระบบเทรดจากแหล่งที่ผมกล่าวมาข้างต้น มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพราะเทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะนำเอาระบบเทรดของคนอื่นมาใช้ โดยเชื่อคำโฆษณาเรื่องกำไร มากกว่าจะมานั่งประเมินว่าระบบนี้มันเข้ากับ style การเทรดของตัวเองหรือเปล่า แล้วคุณอยากเป็นคนส่วนน้อยไหมละครับ???
ฉะนั้นแล้วการรู้จักตัวเอง พร้อมทั้งมีความตื่นตัวในการเรียนรู้และประเมินผลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ นั้นคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในอาชีพเทรดดอร์
แล้วคุณจะรู้จักตัวเองได้ดีขึ้นอย่างไร?
เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาในการค้นหาระบบเทรดที่เป็นดั่ง Holy Grail มากกว่าจะตระหนักถึงสิ่งที่เทรดเดอร์ (ตัวจริง)ต้องทำ
- คุณมีความอดทน หรือขี้เบื่อง่าย?
- คุณมีตัวชี้วัดในการตัดสินที่ดี หรือปล่อยให้เวลามันตัดสินชะตากรรมของคุณเอง?
- คุณมีจิตใจที่มั่นคง หรือลนลานรอจังหวะเอาคืน?
- คุณสามารถรักษาสมาธิในการเทรดได้ดี หรือเหม่อลอยได้ง่าย?
คำถามทั้งหลายเหล่านี้ เป็นสิ่งจำเป็นที่คุณต้องตอบให้ได้ เพื่อจะช่วยให้คุณเข้าใกล้คำว่า “การเทรดที่สมบูรณ์แบบ”
คุณจำเป็นต้องมีระบบเทรดที่ช่วยยกระดับจุดแข็ง และกำจัดจุดอ่อนของคุณ เพื่อช่วยขยายศักยภาพของคุณให้มากขึ้น
แล้วทำไมผมถึงต้องพูดแค่ 2 สไตล์การเทรดนี้
ในบทความนี้เราจะแบ่งรูปแบบการเทรดออกเป็น 2 สไตล์หลักๆคือ Swing Trading และ Day Trading ซึ่งแน่นอนว่ายังมีรูปแบบการเทรดอีกมากมาย......................แต่การเทรด 2 สไตล์นี้ จะช่วยปูพื้นฐานที่ดีให้กับการเทรดของคุณ
Day Trading นั้นคือ รูปแบบการเทรดหนึ่งที่เทรดเดอร์จะเทรดอย่างแอคทีฟเป็นชั่วโมงๆ ซึ่งโดยมากจะเล่นใน Timeframe ที่เล็กลงมา และทำการเข้าออเดอร์หลายรอบในหนึ่งวัน
Swing Trading นั้นตรงข้ามกับ Day Trading โดยมากเทรดเดอร์กลุ่มนี้จะติดตามดูพฤติกรรมราคาใน Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น และจะเทรดเพียงไม่กี่ครั้ง ต่ออาทิตย์ หรือต่อเดือน แต่น้อยมากที่จะเทรดแบบวันต่อวัน ซึ่งการนั่งเฝ้าหน้าจอเป็นชั่วโมงๆนั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาชื่นชอบเอาเสียเลย
ตารางข้างล่างนี้ จะแสดงให้เราเห็นถึงความแตกต่างระหว่าง Swing Trading และ Day Trading ด้วยการเจาะลึกลงไปถึงลักษณะทางกายภาพและอารมณ์ความรู้สึกของแต่ละรูปแบบการเทรดกัน
ตารางความแตกต่างระหว่าง Day-trader และ Swing-trader
Day-trader | Swing-trader | |
การตัดสินใจ | ต้องอาศัยการตัดสินบ่อยครั้ง และแต่ละครั้งต้องรวดเร็ว | มีเวลาในการตัดสินใจ |
การลดลงของเงินทุนสะสม (Drawdown) | Drawdowns ต่ำ | อาจต้องทนกับ Drawdowns ที่สูงและช่วงที่ราคา Pullback (เคลื่อนไหวตรงข้ามกับการเทรด) อาจทำให้ช่วงนั้นมูลค่าพอร์ตลดลง |
การโฟกัส | ต้องโฟกัสตลอดช่วงที่เทรด | ไม่จำเป็นต้องโฟกัสตลอดช่วงเทรด |
ความอดทน | เกิดสัญญาณซื้อขายบ่อย ไม่ต้องรอสัญญาณนาน | ต้องอาศัยความอดทนเยอะ เนื่องจากเกิดสัญญาณซื้อขายน้อยครั้ง |
อารมณ์ | ต้องมีอารมณ์ที่มั่นคง สามารถตัดขาดทุนได้เร็วเวลาผิดทาง และต้องตั้งสติกลับมาเทรดต่อได้ (การเอาคืนในการเทรดอาจเป็นปัญหาหลัก) | ต้องควบคุมอารมณ์หลังจากเปิดออเดอร์แล้ว แม้จะผิดทางต้องตั้งสติ และให้ตัดสินใจตามแผนที่วางไว้ ไม่ใช่ใช้อารมณ์ตัดสิน |
ความกดดัน | ต้องรับความกดดันอย่างมากในระหว่างการเทรด การเทรดใน Time-frame สั้น จะหาการเคลื่อนไหวของราคาค่อนข้างเร็วอยู่ตลอด | ค่อนข้างมีเวลาในการวางแผนในแต่ละการเทรด |
คล้ายกับความชอบของแต่ละคน บางคนชอบสีฟ้า บางคนชอบสีแดง มันไม่มีผิดมีถูกหรอกในการเลือกว่าเราจะใช้วิธีแบบใด แต่วิธีที่เลือกใช้ควรเหมาะสมกับเราและสามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้อย่างต่อเนื่อง
บทความนี้มีวัตถุประสงค์คือ ช่วยให้คุณตรวจสอบตัวเอง และมอบแนวทางในการเลือกรูปแบบการเทรดให้เหมาะสมกับตัวเองด้วยความรอบคอบ การจะเป็นเทรดเดอร์ที่เปี่ยมด้วยศักยภาพนั้น คุณต้องมีระบบการเทรดที่เกื้อหนุนจุดแข็งของคุณ และขจัดจุดอ่อนทั้งหลายให้หมดไป
เรียบเรียงและแปล: Forex Trader’s Way
แหล่งที่มา: Tradeciety,pantipforex.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น