3 วิธีทลายความล้มเหลวเพื่อก้าวเป็น “เทรดเดอร์ผู้ชนะ”


คุณเคยรู้สึกว่าตัวเองเทรดห่วยไหมครับ ?
รู้สึกว่าฝึกเท่าไร ทำเท่าไร ก็ไม่กำไรสักที
อย่าว่าแต่กำไรเลย บางทีกลับขาดทุนหนักด้วยซ้ำ !!
ผมคนนึงล่ะที่เคยเป็น
ตอนปีแรกที่เข้ามาเทรดใน Forex
เคยได้ยินมาว่า เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ จะขาดทุน
หรือไม่ก็ล้างพอร์ตตั้แต่งปีแรกที่เข้ามาในตลาด
บอกเลย ตอนนั้น ไม่เชื่อ !! 
ใครเคยคิดเหมือนผม ยกมือขึ้นครับ
พอเทรดไปสักพัก เริ่มคิด เออ…มันจริงว่ะ !!
เพราะ ผมเป็นแบบนั้นเลย ขาดทุน ล้างพอร์ต
คิดใจใจ เฮ้ย…มันเป็นไปได้ไงวะ !!?
อยากรู้ไหมครับ แล้วผมรอดจากสถานการณ์นั้นมาได้ยังไง
ถ้าอยากรู้ มาลุยกันต่อเลยครับ !!
ผมขอเล่าถึงเรื่องราวการเทรดของตัวผมให้ฟังสักนิด ในช่วงปีแรกที่เข้ามาเทรด Forex บอกเลยว่าตอนนั้นไม่เคยกำไรเลย (ฮา)
6 เดือนแรก ฝึกเทรดพอร์ต Demo มีทั้งแบบเทรดเอง (เทรด Manual) และ แบบเปิดเพื่อ Run Expert Advisor (EA) หรือการใช้หุ่นยนต์เทรด ตอนนั้นมีหลายพอร์ตมาก สาเหตุที่มีหลายพอร์ตก็เพราะ มันเละไปหลายพอร์ต โดยเฉพาะพอร์ตที่ใช้ Run หุ่นยนต์เทรด เจ๊งไม่เป็นท่าไป 5-6 พอร์ต (ต้องสารภาพว่า ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้เท่าไร แฮ่ะ ๆ) ส่วนพอร์ตที่ใช้เทรดเองก็กระจุยไม่แพ้กัน เพราะ ล้างพอร์ตไป 2-3 รอบ ยังดีที่ยังเจ๊งน้อยกว่าพอร์ตที่ Run EA (ฮา)
แต่ประสบการณ์ที่ได้ในครั้งนี้ผมว่าคุ้มค่ามากครับ เพราะ มันทำให้ผลรู้เลยว่าจะเลือกเทรดแบบไหน แน่นอนเทรดโดยใช้หุ่นยนต์ ไม่ใช่ครับ!! ต้องเทรดด้วยตัวเองสิ พอตัดสินใจเทรดด้วยตัวเองกับพอร์ตจำลอง ฝีมือเทรดก็เริ่มเข้าที่ (ใช้เวลาฝึกประมาณ 3 เดือน) จากนั้นก็มาเทรดด้วยเงินจริง บอกเลยว่า เทรดไป 6 เดือน เจ๊ง !! คิดในใจ เฮ้ย…เป็นไปได้ไงวะเนี่ย !! ฝึกมาก็เยอะ อ่านมาก็แยะ เป็นงี้ได้ไงฟระ (อันนี้คิดในใจหมดนะครับ) ตลาดดูจะอยากรับน้องผมแล้วแหละครับ และนี่แหละครับ ที่ผมบอกว่า คำพูดที่ว่า มือใหม่ส่วนใหญ่ (ตอนนั้นผมก็มือใหม่) จะขาดทุนหรือล้างพอร์ตตั้งแต่ปีแรกที่เริ่มเทรด
คำถามสำคัญก็คือ แล้วผมรอดจากการรับน้องของตลาดมาได้ยังไง ?
ทำยังไงที่หลังจากนั้น ผมไม่กลับไปล้างพอร์ตอีก จนสามารถปั้นพอร์ตให้โตได้อย่างต่อเนื่อง
ผมจะบอกเคล็ดลับให้กับทุกท่านในบทความนี้ครับ
ถ้าพร้อมแล้ว ไปลุยกันครับ…
ก่อนจะไปพบกับ 3 วิธีทลายกำแพงแห่งความล้มเหลวเพื่อก้าวเป็น “เทรดเดอร์ผู้ชนะ”  ถ้าคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ Share บทความนี้ ให้กับเพื่อน ๆ ของคุณอ่านด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

วิธีที่ 1 : เลือกเก่งเอาสักอย่าง (Master Your Strategy)

  • ผมขอบอกเลยว่า นี่คือจุดเปลี่ยนแรกของผม และมันอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของคุณด้วยเช่นกัน
  • ตอนที่เริ่มฝึกเทรดใหม่ ๆ ผมศึกษาหลายกลยุทธ์หลายวิธีเทรดมาก ที่สำคัญยังเทรดใน Time Frame ที่เล็กมาก ๆ ด้วย
  • ผมมีตัวอย่าง 1 ใน Trade Setup ที่ผมใช้เทรด Forex ตอนแรก ๆ มาให้ดูครับ จริง ๆ ต้องบอกว่ามีหลายแบบมาก แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นครับ ประเด็นคือ ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ฝีมือการเทรดผมก็ห่วยพอ ๆ กัน (ฮา)

  • ในรูปเป็น Trade Setup ใน Time Frame 15 นาที ตอนนั้นเทรดแล้วผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ (ลองสังเกตความ Dark ของ Trade Setup ดูก็น่าจะรู้นะครับ)
  • รูปต่อมาด้านล่างเป็น Trade Setup ที่ใช้ในปัจจุบันคือ แบบ Price Action ในรูปเป็นกราฟใน Time Frame Day เป็นเทคนิคที่ผมใช้เทรดมาตลอดและให้กำไรกับผม (ลองสังเกตดูความ Clean ของกราฟ ก็น่าจะเห็นความแตกต่าง)

  • ถึงทั้งสองจะเป็น Trade Setup ที่ดูตามหลักการ Technical Analysis เหมือนกัน แต่แนวคิดเบื้องหลังที่มานั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ และนี่แหละคือจุดเริ่มต้น
  • เมื่อเราตัดสินใจเลือกที่จะเก่งสักอย่าง (และตัดใจไม่เก่งอีกอย่าง) การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น อย่างแรกเลยคือ เราจะมองตลาดในมุมมองที่เปลี่ยนไปจากเดิม
  • เทรดเดอร์คนไหนที่ยังเปลี่ยนกลยุทธ์ เปลี่ยนวิธีเทรดอยู่เรื่อย ๆ เพราะ คิดว่าวิธีที่ใช้นั้น ใช้ไม่ได้ผล ผมแนะนำลองหากลยุทธ์ที่ตัวเองชอบ กลยุทธ์ที่ถูกใจดูครับ จากนั้นก็ศึกษาเจาะลึกถึงที่มาที่ไปของวิธีนั้น รับรองว่าฝีมือเทรดจะดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ
  • สิ่งไหนที่เราให้ความสนใจ สิ่งนั้นจะขยายผล ถ้าอยากเอาตัวรอดในตลาด Forex คุณจำเป็นต้องเลือกที่จะเก่งสักอย่าง

วิธีที่ 2 : มองการเทรดเป็นเหมือนการทำธุรกิจ

  • ตอนแรกที่ผมไม่ได้มองการเทรดเป็นธุรกิจ จึงมองว่าตลาดเป็นเหมือนที่ที่สามารถนำเงินออกมาได้ง่าย แค่ปลายนิ้ว
  • เมื่อมุมมองเป็นแบบนั้น มันทำให้เรามองภาพของตลาดไม่ครบทุกด้าน นั่นก็คือ เรามองแค่จะมาเอากำไรออกไป แต่ไม่ได้มองว่าจะมีโอกาสขาดทุน เมื่อไม่ได้มองเรื่องโอกาสขาดทุน เราก็จะไม่สนใจเรื่องการบริหารเงินที่มีในพอร์ตให้ทนการขาดทุนติด ๆ กันได้ จึงทำให้การขาดทุนติด ๆ กันแค่ไม่กี่ครั้ง ก็เล่นเอาซะเงินในพอร์ตหายไปเยอะ !!
  • พอเงินในพอร์ตหายไปเยอะ จิตก็เริ่มตก เมื่อจิตตก ฝีมือการเทรดก็แย่ลง เพราะ จ้องแต่จะเอาคืน โน้มน้าวให้ตัวเองเห็นสัญญาณเทรดขึ้นมาเอง ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่สัญญาณเทรดเลยสักนิด (แต่พยายามจะให้มันเป็นให้ได้ เพราะ อยากเอาเงินคืน) ผลสุดท้ายก็ Overtrade เลยทำให้พอร์ตเละไม่เป็นท่า
  • วิธีคิดที่ว่า “การเทรดเป็นธุรกิจ” นั้นช่วยเราได้ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ ทำให้มองตลาดได้ครบทุกด้าน และเรื่องถัดมา คือ ทำให้รู้จักที่จะควบคุมต้นทุน เพราะ หลัก ๆ แล้วสมการทางธุรกิจ ก็คือ ยอดขาย – ต้นทุน = กำไร (ขาดทุน) ยอดขาย ก็คือ กำไรที่เราได้เวลาเทรดชนะ เรียกว่า Reward ส่วนต้นทุน ก็คือ การขาดทุนที่มาจากจุดตัดขาดทุนเวลาเทรดผิดทาง เรียกว่า Risk
  • หากเรารักษาให้ Reward > Risk ก็เท่ากับว่า เราก็จะมีกำไร จริงไหมครับ
  • ตัวอย่างเช่น เทรดได้ Reward 1,000 $ Stop Loss ไป 500$ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ เราได้กำไร 500 $
  • ผมแนะนำบทความ 3 เคล็ดลับปิดประตูเจ๊งให้กับพอร์ตของคุณ เคล็ดลับควบคุมต้นทุนของพอร์ต

วิธีที่ 3 : ใช้แนวคิดเรื่อง Risk : Reward

  • เรื่อง Risk : Reward (RR) นั้นเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์เก่ง ๆ นั้นให้ความสำคัญทุกคน
  • อย่างที่ผมกล่าวไว้ในวิธีที่ 2 เรื่องมองการเทรดให้เป็นธุรกิจ วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การนำหลักการของ Risk : Reward มาใช้
  • หลักการคือ Reward ต้องมากกว่า Risk หรือพูดง่าย ๆ คือ เวลาได้ได้มากกว่าเสีย
  • ตัวอย่างเช่น พอร์ต 1,000 $ R = 100 $ เทรดได้ 1,000 $ แปลว่าเทรดได้ 10R Stop Loss ไป 5 ครั้ง ครั้งละ 1R ผลลัพธ์การเทรดจะเท่ากับ 10R – 5R = 5R หรือเท่ากับ 500 $ นั่นเอง จะเห็นว่า ถึงเราจะเทรดแม่นยำเพียง 50% เราก็สามารถทำกำไรได้ถึง  50% ของพอร์ตเลยทีเดียว !!
  • ที่ผมยกตัวอย่างมาอาจจะมองยากไปนิด มาดูตัวอย่างจริง ๆ จาก 1 ในพอร์ตที่ผมใช้เทรดจริงกันดีกว่าครับ จะได้เห็นภาพชัด ๆ กันไปเลยว่า วิธีที่ผมมาแนะนำนั้นมันใช้ได้จริงหรือเปล่า หรือผมแค่อ่านมาแล้วมาบอกแต่สุดท้ายทำไม่ได้จริง
  • ขอบอกก่อนว่า สิ่งที่ผมนำมาให้ทุกท่านดูนั้น ผมไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนเลย แต่เพื่อให้ทุกท่านเห็นว่าสิ่งที่ผมพูดมาเป็นความจริงบทความนี้ผมจัดให้พิเศษครับ ถ้ายังไงช่วยแชร์ด้วยนะครับ ผมจะขอบคุณมาก

  • จากรูปข้างบน เป็นค่าทางสถิติจาก 1 ในพอร์ตที่ผมใช้เทรดในตลาดจริง ๆ ขอย้ำว่าของจริง เงินจริงครับ
  • โดยในภาพเป็นผลงานการเทรดในช่วงประมาณ 6 เดือน (ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2559 – 26 สิงหาคม 2559) พอร์ตไม่ใหญ่ครับ ทุนเริ่มต้นประมาณ 750 $
  • แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่พอร์ตใหญ่หรือเล็ก เพราะ ไม่ว่าพอร์ตจะใหญ่หรือเล็กก็ใช้หลักการแบบเดียวกันครับ ถ้าทำพอร์ตเล็กได้เราก็ไปทำซ้ำในพอร์ตที่ใหญ่ขึ้น (เรื่องนี้ไว้จะอธิบายให้ฟังในบทความอื่นนะครับ)
  • สิ่งที่อยากให้ทุกท่านดูมีด้วยกัน 3 จุด
  • จุดแรก ตรง Gross Profit, Gross Loss และ Total Net Profit
  • จุดที่สองคือ Profit Trades (% of Total) และ Total Trades
  • จุดสุดท้าย คือ Consecutive wins และ Consecutive Losses
  • จุดแรก คือ แนวคิดที่ว่า ให้มองการเทรดเป็นธุรกิจ จากตัวเลขในพอร์ตผมจะเห็นว่า Gross Profit 1,921.91  – ต้นทุน 1,305.04 = 616.51 $ ถ้าเทียบกับสมการทางธุรกิจก็ ยอดขาย – ต้นทุน = กำไร นั่นเองครับ
  • จุดที่สอง จะเห็นว่า ในรอบ 6 เดือนผมเทรดเพียง 25 ครั้ง (เฉลี่ยเดือนละประมาณ 4 ครั้ง) คนที่ติดตามผมมาสักพักจะรู้ว่า ผมใช้แนวคิด Swing Trading จึงเทรดไม่บ่อย พูดง่าย ๆ เฉลี่ยอาทิตย์ละครั้ง ก็สามารถทำกำไรได้พอสมควรโดยไม่ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอแต่อย่างใด
  • ที่สำคัญคือ ผมเทรดแม่นเพียง 44% (ประมาณ 50%) ชนะ 11 ครั้ง แพ้ 14 ครั้ง แต่สามารถทำกำไรได้ถึง 80% ของพอร์ตในรอบ 6 เดือน สาเหตุที่ทำได้ก็เพราะ ผมนำหลักการของ Risk : Reward มาใช้นี่แหละครับ เวลาได้ต้องได้มากกว่าเสีย
  • จุดสุดท้าย อยากให้เห็นว่า ในรอบ 6 เดือน ผมชนะติดกันสูงสุดเพียง 3 ครั้ง แต่แพ้ติดกันถึง 5 ครั้ง แล้วทำไมถึงไม่ล้างพอร์ต ? สาเหตุก็เพราะ ถ้าเรามีการบริหารเงินในพอร์ตอย่างเหมาะสม เราจะสามารถรับมือกับการ Stop Loss ติดกันหลาย ๆ ครั้งได้ครับ
  • จะเห็นว่าแนวคิดเรื่อง Risk : Reward นั้น ให้ประโยชน์กับเราหลายเรื่องเลยนะครับ ที่สำคัญเราไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องเครียดอีกด้วย เพราะ ถึงแม้จะเทรดเสียมากกว่าเทรดได้ สุดท้ายพอร์ตก็ยังบวกได้ครับ
สรุป บทความนี้เป็นบทความที่ผมตั้งใจทำเพื่อมาบอกวิธีทลายความล้มเหลวเพื่อก้าวเป็น “เทรดเดอร์ผู้ชนะ” คุณจะเป็นเทรดเดอร์ผู้ชนะหรือแพ้ขึ้นกับว่า คุณนิยามให้ตัวเองแบบไหนครับ สิ่งที่ผมอยากฝากก็คือ อย่าพยายามไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะ มันจะทำให้เราเสียกำลังใจและลดคุณค่าในตัวคุณเอง คุณต้องนิยามตามแบบของตัวเอง เอาที่ตัวคุณเชื่อว่าคุณจะทำได้ครับ พอทำได้ในขั้นแรกแล้ว ที่เหลือค่อยพัฒนา ค่อยเพิ่มก็ได้ ทำแบบนี้คุณจะมีกำลังใจมากกว่า และทำได้เร็วกว่า สิ่งที่ผมนำมาแสดงนั้น บางคนก็อาจจะคิดว่าที่ผมทำได้มันน้อยและอาจดูถูกผม บางคนก็อาจคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขา แต่ทั้งหมดมันก็ขึ้นกับความคิดของคุณครับ ว่าคุณจะเลือกมองมันแบบไหน สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านที่
ติดตาม ZniperTrade.com โชคดีมีกำไรนะครับ


ขอบคุณบทความดีๆจาก

ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ