การปกป้องเงินต้นสำคัญอย่างไร

Image result for money
การปกป้องเงินต้นสำคัญอย่างไร  
นักลงทุนหลายๆคนขาดทุนในตลาดหรือแม้กระทั่งบางคนกำไรมหาศาลแต่แล้วก็กลับมาขาดทุนได้เมื่อเวลาผ่านไปเรามาดูเหตุผลสำคัญกันครับ
    Ralph vince ผู้เชี่ยวชาญ money management ได้ทำการทดลองเอาเด็กจบปริญญาเอกทางด้านสถิติมา 40 คน และมีประสบการณ์ในการลงทุนมาแล้วเช่นกันและให้เล่นเกมจำลองโดยให้เงินเริ่มต้น 10,000 เหรียญโดยโอกาสในการชนะของเกมนี้เขาตั้งเอาไว้ที่ 60% เกินครึ่งอีกนะครับโดยทำการซื้อขาย 100 ครั้งการเดิมพันจะได้และเสียเท่ากันจำนวนที่ลงไปเช่น ลง 1,000 ถ้าถูกจะได้ 1,000 และผิดจะเสีย 1,000 เช่นกันเมื่อเกิดซื้อขายจบลง 100 ครั้งปรากฎว่ามีคนชนะเกมส์นี้แค่ 2 คนใน 40 คน มีกำไรแค่ 2 คน
เพราะอะไร ??????
    บางคนวางเดิมพัน 1 พันเหรียญเมื่อเขาเจอภาวะขาดทุนติดต่อกัน 3 ครั้งเขาจะขาดทุน 3,000 เหรียญและเหลือเงินอยู่ 7,000 เหรียญการ breakeven ของเขาเขาจะต้องลง 3,000 เหรียญเพื่อให้ได้เงินคืนมาทั้งหมดซึ่งก็มีความเป็นไปได้เพราะโอกาสถูกย่อมมากขึ้นจากการผิด 3 ครั้งติดแต่เกมส์นี้โอกาสถูกคือ 60% เมื่อคุณขาดทุนอีกครั้งนั้นหมายความว่าเงินจะเหลือแค่ 4,000 เหรียญซึ่งต้องทำกำไร 150% เพื่อคืนทุนซึ่งหนักกว่าเดิมอีกซึ่งเป็นสามารถให้หมดตัวได้ในการเดิมพันที่เยอะขึ้นเรื่อย ๆ หรือบางคนลง 2,500 และเสียติดต่อกัน 3 ครั้งนั่นจะทำให้เงินเหลือแค่ 2,500 ต้องทำ 300% ถึงจะเท่าทุนอืมเหนื่อย ๆ ๆ ๆ ๆ
    สรุปเลยครับคนพวกนี้ขาดทุนเนื่องจากพวกเขายอมเสี่ยงและวางเดิมพันจนมากเกินไปนั่นเอง 
    สิ่งที่มีปัญหากับนักลงทุนทั่วไปคือ ขนาดของ portfolio ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยเงินที่น้อยเกินไปอย่างเช่น 300,000 บาท เมื่อคำนวณความเสี่ยง 2% ในการเสี่ยงแต่ล่ะครั้งคุณจะยอมขาดทุนได้เพิ่งแค่ 6,000 บาท ซึ่งคุณจะสามารถซื้อหุ้นได้จำนวนน้อยมากซึ่งผลตอบแทนที่ได้อาจไม่คุ้มถ้าเทียบเป็นจำนวนเงินแต่ถ้าคุณลงเงินเดิมพันทั้งหมด 3 แสนบาท นั่นจะทำให้คุณเข้าสู่ภาวะเดิมพันที่เยอะเกินไปซึ่งในระยะยาวโอกาสขาดทุนจะมากขึ้นทันทีดังนั้น portfilo ที่ใหญ่จะได้เปรียบกว่าและบริหาร money management ได้ดีกว่านั้นเองโดยไม่ต้องวางเดิมพันที่สูงมากเกินไปนั้นเอง
สิ่งต่อไปเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องจำไว้เมื่อเราขาดทุน drawdowns (%การขาดทุน) และเราต้องลงเท่าไหร่เผื่อที่จะ cover กลับมาเพื่อเท่าทุน(breakeven)
Drawdowns (% การขาดทุน) Gain to recovery (% ที่ต้องทำกำไรกลับมาเพื่อเท่าทุน)
drawdown 5% ต้องทำ  5.3 % gain to recovery 
drawdown  10% ต้องทำ 11.1 % gain to recovery
drawdown  15% ต้องทำ 17.6 % gain to recovery
drawdown  20% ต้องทำ  25 % gain to recovery 
drawdown  25% ต้องทำ  33 % gain to recovery 
drawdown  30% ต้องทำ  42.9 % gain to recovery
drawdown  40% ต้องทำ  66.7 % gain to recovery
drawdown  50% ต้องทำ  100 % gain to recovery 
drawdown  60%ต้องทำ  150 % gain to recovery
drawdown  75% ต้องทำ  300 % gain to recovery
drawdown  90% ต้องทำ  900 % gain to recovery
    การขาดทุนที่มากเกินไปในแต่ล่ะครั้งนั้นหมายความว่าจะทำให้ต้องทำกำไรขึ้นมามหาศาลเพื่อกลับมาเท่าทุนอย่างเช่น เราขาดทุน 50 % เราต้องทำ 100 % การขาดทุนเกิน 50 % นั้นจะทำให้เรามีโอกาสวางเดิมพันมากขึ้นเพื่อให้กลับมาเท่าทุนเสี่ยงนั้นจะทำให้เราเพิ่มโอกาสที่จะเป็นผู้แพ้ในตลาดมากขึ้นเช่นกัน
สรุปก็คือ การวางเดิมพันที่มากเกินไปในแต่ล่ะครั้งจะทำให้เราเสี่ยงที่เข้าสู่ภาวะที่จะต้องเดิมพันมากขึ้นเพื่อเอาทุนขึ้นและเมื่อคุณแพ้คุณก็แทบจะหมดโอกาสที่จะกลับมาเท่าทุนได้อีกครั้ง
    นี่ก็คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักลงทุนระดับเซียนหลายคนจึงพยายามที่จะปกป้องเงินทุนให้ได้ก่อนที่จะทำกำไรเซียนหลายคนบอกว่า ถ้าปกป้องเงินทุนได้เดี๋ยวกำไรก็ตามมาเองแต่ถ้าเสียเงินต้นทุนไปแล้วกว่าจะได้คืนมันเหนื่อย ดังนั้นเราที่เป็นนักเก็งกำไรทั้งหลายก็อย่างลืมข้อนี้เสียอย่าโลภจนลืมตัวอย่าคิดว่าเราต้องถูกเสมอไม่มีอะไรแน่นอนในตลาดราคาไม่ได้สนใจว่าคุณสวย หล่อ แค่ไหน นามสกุลอะไร ขับรถอะไร คุณจะอดตายหรือเปล่าหากเทรดเสียวันนี้ตลาดไม่สนอะไรทั้งสิ้น 
    ดูตัวอย่างอย่างเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จหลายคน อย่าง อ.แม็ค THFX ของเราเวลาที่คุณเห็นพอร์ตอาจารย์เห็นว่าเทรดได้เยอะ แต่เชื่อเถอะว่าอาจารย์ท่านได้มีการวางแผนเรื่อง MM มาแล้วทุกครั้งก่อนจะเปิดออเดอร์เพียงแต่ว่าประสบการณ์ที่สั่งสมมาทำให้ท่านรู้ว่าควรจะเข้าตรงไหน รอได้แค่ไหนและต้องทำอย่างไร เทรดเดอร์ใหม่ ๆ บางคนพยายามจะทำตามให้ได้กำไรเยอะ ๆ พยายามเทรดด้วยขนาด lot ที่ใหญ่มาก ๆ แม้ว่าคุณจะเทรดในตำแหน่งเดียวกับอาจารย์เทรดไปทางเดียวกันแต่จำนวนทุนในพอร์ตไม่ได้มากพอจะรองรับความผันผวนได้ผลสุดท้ายก็ล้างพอร์ต 
    กลยุทธ์ และ เทคนิค ต่าง ๆ นั้นสำคัญในการทำกำไรแต่อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันหรืออาจจะสำคัญมากกว่าการหาจุดเข้าที่สวยงามก็คือ การมี Money management ที่ดี หากคุณรักจะเป็นเทรดเดอร์อาชีพคุณไม่ควรลืมให้ความสำคัญกับข้อนี้และวางแผน MM ทุกครั้งก่อนการเทรด MM 
ขอบคุณข้อมูลจาก
สนับสนุนบทความดีดีโดย FBS Broker และ Nord FX
 
ขอบคุณผู้เขียนจาก 

ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ