Over Trade ประเด็นหลักการล้างพอร์ต


โอเวอร์เทรด (Over Trade) ยังเป็นประเด็นหลักๆ ที่ทำให้ล้างพอร์ต
.
….. ล่าสุดได้คุยกับพี่คนหนึ่ง ถือว่าเคสนี้เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาก กับเรื่องราวของการเทรดแบบ Over Trade ซึ่งนับเป็นวังวนของเทรดเดอร์มือใหม่ ที่ต้องวนเวียนเจอะเจอตลอด ในแทบจะทุกๆ รอบที่ล้างพอร์ต

.
….. พี่เค้าบอกเล่าประสบการณ์ว่า ไม่กี่วันมานี้ล้างมา 3-4 รอบ รอบละ 100-300$ รวมๆ แล้วก็ราวๆ พันกว่าเหรียญได้ (เหมือนจะเป็นตัวเลขที่น้อยนะครับ แหม่แต่ว่าไปถอยมอเตอร์ไซต์มือ 1 ได้สบายเลย)
.
….. ผมสอบถามถึงประเด็นสาเหตุที่ทำให้ล้างพอร์ต พี่เค้าตอบมาได้อย่างน่าชื่นชมครับว่า เกิดจากการ Over Trade ว่าแต่ทำไมต้องชื่นชม?
เหตุผลเพราะว่าอย่างน้อยการล้างครั้งนี้ พี่เค้าก็ได้รู้แล้วว่าอะไรเป็นสาเหตุสำคัญ ซึ่งแน่นอนเป็นชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ เป็นบันไดขั้นต้นที่เทรดเดอร์ต้องเรียนรู้และก้าวผ่านไปให้ได้ ตรงกันข้ามหากล้างพอร์ตหลายรอบ แต่ยังไม่รู้ว่าล้างด้วยเหตุผลกลใด อันนี้ผมว่าคงต้องคิดทบทวนแล้วครับว่า อาชีพเทรดเดอร์เหมาะกับเราจริงๆ หรือไม่
.
….. พี่เค้าบอกว่าเงินทุน 100-300$ นี้ เทรดทีละ 0.1-0.5 ลอต ซึ่งตรงนี้ถือว่าสูงมาก เพราะ ถ้าคิดขั้นต่ำ 0.1 ลอต ขยับ 1 pips ก็ติดลบ ไป 1$ แล้ว ดังนั้นแค่กราฟขยับ 100-300 pip ก็ล้างพอร์ตพอดี
….. ช่องว่าง 100-200 pips ถือว่าต่ำมากสำหรับการเทรดในตลาดที่มีความผันผวนสูงอย่าง Forex เพราะว่าในวันที่กราฟสวิงแรง ช่วงเวลาแค่ลุกไปเข้าห้องน้ำเท่านั้น พอกลับมา เราอาจเห็นกราฟวิ่งทะลุ 100 pipsไปแล้ว
.
….. ผมตกใจมาก กับตัวเลขช่องว่างมาร์จิ้น ที่เหลือไว้ให้ติดลบได้แค่ 100-200 pips ซึ่งเป็นจำนวนที่ถือว่าต่ำมาก ตัวอย่างพอร์ต Long Term ของผมที่อยู่มาเป็นปีๆ ล่าสุดอย่างที่ทราบๆ กันว่าที่ผ่านมาเจอวิกฤติ พอร์ตผมติดลบไปรวมแล้ว 6,000 pips
** ย้ำนะครับ 6,000 pips ไม่ใช่ Point แต่ยอดบาลานซ์ผมติดลบไปแค่ 28% ดังนั้นยังเหลือพื้นที่มากพอ ให้กราฟกลับมาเข้าทาง หรือมีเวลาพอให้ตัดสินใจอย่างไม่ร้อนรน
.
….. หลักการเทรดของผมนั้นเนื่องจากเป็นการเทรดแบบระยะยาว ดังนั้นจะเทรดยังไงก็แล้วแต่ อย่างน้อยพอร์ตของผมต้องรองรับการขาดทุนหรือติดลบขั้นต่ำระดับ 8,000 pips ขึ้นไป จึงนับว่าบริหารพอร์ตเพื่อรองรับการบริหารความเสี่ยงได้ดี
.
….. แต่ถึงกระนั้นแม้หลายคนจะอ้างว่าเป็นเทรดเดอร์ระยะสั้น ไม่จำเป็นต้องเผื่อมาร์จิ้นระดับมาราธอนขนาดนี้ก็ได้ อันนี้ก็แล้วแต่แผนการเทรดของแตละคนครับ แต่มุมมองหลักๆ เรื่องการเผื่อมาร์จิ้นไว้ให้มากและเพียงพอต่อการระยะเวลาที่ต้องใช้การตัดสินใจครั้งสำคัญ นั้นเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เป็นอันขาด เพราะการตัดสินใจในขณะที่มาร์จิ้นเหลือน้อย กับการตัดสินใจในขณะที่ระดับมาจิ้นเหลือเยอะนั้น ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เหมือนกันนะครับ
.
เรื่องของ Over Trade เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องระมัดระวังให้มากสำหรับการเทรดครับ จริงอยู่ผลลัพธ์ระยะสั้นอาจทำให้รวยได้ แต่ระยะยาวขอให้ฉุกคิดสักนิดว่าคุ้มค่าหรือไม่ กับการที่อาจต้องแลกด้วย สมการล้างพอร์ตไม่รู้จบ




ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ