การเลือกกลยุทธ์ การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน

การเลือกกลยุทธ์ การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน

การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เป็นสองกลยุทธ์พื้นฐานในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งก็แน่นอนว่าเหมือนกับในตลาดทุนอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นกลยุทธ์ที่พบได้มากมาย เป็นกลยุทธ์ที่ใช้กันบ่อยที่สุด ในกลุ่มนักซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนรายบุคคล นี่คือบทสรุปโดยรวม ของการวิเคราะห์ทั้งสองรูปแบบ และ พวกเขาปรับประยุกต์ใช้กันโดยตรงได้อย่างไร ในการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

ถ้าหากคุณคิดว่ามันเป็นเรื่องยากพอที่จะประเมินค่าบริษัทสักแห่ง คุณควรลองประเมินทั้งประเทศแทน การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนมักเป็นอะไรที่ยากยิ่งนัก และโดยปกติแล้ว มันมักจะใช้เป็นเพียงแค่การคาดการณ์ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะพูดถึงว่า นักซื้อขายบางคนทำการซื้อขายระยะสั้นอย่างเคร่งครัด กับข่าวที่ปล่อยออกมา นี่คือสักสองสามอย่างให้คุณได้เริ่มต้น:

การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non-Farm Payrolls: NFP)
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Purchasing Managers Index: PMI)
ดรรชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI)
ยอดค้าปลีก (Retail Sales)
ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders)

คุณจำเป็นต้องรู้ว่า รายงานพวกนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ ปัจจัยพื้นฐานทั้งหลายที่คุณต้องเฝ้าดู มันยังมีพวกการประชุมอีกมากมายหลากหลายการประชุม ที่คุณจะได้รับพวกคำพูดและความคิดเห็น ซึ่งสามารถมีผลกระทบต่อตลาดต่าง ๆ ได้อย่างมากมายเหมือนกับพวกรายการใด ๆ พวกการประชุมเหล่านี้มักจะนำออกมาเป็นที่ถกเถียงเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยทั้งหลาย เงินเฟ้อ และประเด็นอื่นๆ ซึ่งมีความสามารถที่จะมีผลกระทบต่อมูลค่าต่างๆ ของสกุลเงิน

แม้แต่เปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างในคำพูด เมื่อมีการชี้ชัดประเด็นบางอย่าง อย่างเช่น ความคิดเห็นท่านประธานของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับอัตรดอกเบี้ยทั้งหลาย เป็นสาเหตุความผันผวนของตลาดได้

สองการประชุมที่สำคัญซึ่งคุณต้องเฝ้าระวัง คือ รายงานมติคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา และ รายงายคำกล่าวนโยบายการเงินของฮัมฟรีย์ ฮอว์กิ้น

ด้วยการอ่านรายงานต่าง ๆ และการตรวจสอบพวกความคิดเห็น มันสามารถช่วยให้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน นั้นเป็นที่เข้าใจพวกแนวโน้มตลาดระยะยาวใดๆ ทั้งหลายได้ดีขึ้น และช่วยให้นักซื้อขายระยะสั้นสามารถทำผลกำไรจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นพิเศษได้ด้วย ถ้าคุณตัดสินใจที่จะติดตามกลยุทธ์ปัจจัยพื้นฐาน คุณจะต้องแน่ใจว่าได้เก็บรักษาปฏิทินเศรษฐกิจแบบพกพาเอาไว้กับตัวตลอดเวลา คุณก็จะได้รู้ทันทีว่ารายงานต่าง ๆ เหล่านี้ได้ถูกปล่อยออกมาแล้ว ตัวกลางการซื้อขายของคุณอาจจะสามารถบริการให้คุณได้เข้าถึงข้อมูลประเภทนี้ตามเวลาจริงได้ด้วย

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

มันเป็นพวกของที่คู่กันของพวกนักซื้อขาย เหมือนอย่างในตลาดทุนต่าง ๆ แนวโน้มต่าง ๆ ของการวิเคราะห์ราคาทางเทคนิคของตลาดการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน ความแตกต่างจริงระหว่าง การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน และ การวิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาดทุนต่าง ๆ คือ มีเพียงแค่ กรอบเวลา ซึ่งในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนนั้น เปิดทำการวันละยี่สิบสี่ชั่วโมง

เป็นเพราะเหตุนี้ บางรูปแบบของการวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้น ปัจจัยทางด้านเวลา จึงจำเป็นต้องถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลง มันถึงจะทำงานได้ในตลาด ที่เปิดทำการวันละยี่สิบสี่ชั่วโมง บางส่วนของรูปแบบที่พบมากที่สุดของการวิเคราะห์ทางเทคนิค ที่ใช้ในการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน มีดังนี้:

คลื่นเอลเลียต (The Elliott Waves)
ฟีโบนัชชี (Fibonacci Studies)
พาราโบลิก ซาร์ (Parabolic SAR)
ไพวอท พอยทซ์ (Pivot Points)

การวิเคราะห์ทางเทคนิคมากมาย มีแนวโน้มที่จะนำมาใช้ศึกษาการทำงานร่วมกัน เพื่อที่จะทำให้การคาดการณ์ของคุณเองนั้นแม่นยำมากขึ้น (วิธีการที่พบมากที่สุดสำหรับพวกนักซื้อขายคือ นำ ฟีโบนัชชี กับ คลื่นเอลเลียต มาใช้งานร่วมกัน) คนอื่น ๆ ชอบที่จะสร้างสรรค์ระบบการซื้อขายขึ้นมาเองมากกว่า โดยพยายามที่จะทำสิ่งที่เกิดขึ้นคล้ายๆ กัน ซ้ำ ๆ กัน ให้อยู่ในเงื่อนไขของการซื้อและการขาย



การเลือกกลยุทธ์การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน

พวกนักซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ จะพัฒนากลยุทธ์ และทำให้มันสมบูรณ์แบบเหนือช่วงระยะเวลาที่กำหนด บางคนจะมุ่งเน้นไปที่การศึกษาด้านการคำนวณโดยเฉพาะ ในขณะที่คนอื่นบางคนใช้การวิเคราะห์แบบบอร์ดสเปกตรัม มาเป็นวิธีการกำหนดการซื้อขายของพวกเขา ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะชี้แนะให้เห็นว่า คุณควรพยายามลองนำทั้ง การวิเคราะห์ทางเทคนิค และ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน มาใช้งานร่วมกัน ซึ่งคุณสามารถทำการคาดการณ์ต่าง ๆ และ ตัดสินใจได้ถึงจุดเข้าและจุดออกได้ด้วย แน่นอนว่า ในที่สุด มันเป็นที่ตัวนักซื้อขายรายบุคคลนั่นเอง ที่จะทำการตัดสินใจว่า อะไรใช้ได้ผลสำหรับเขา

เมื่อคุณพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นในตลาดการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน คุณควรเปิดบัญชีสาธิตทดลองและซื้อขายบนกระดาษ ซึ่งนั่นคุณสามารถฝึกฝนจนกระทั่งคุณสามารถทำผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ผู้คนมากมายที่ล้มเหลวมีแนวโน้มที่จะกระโดดเข้าไปในตลาดการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนและสูญเสียเงินมากมายอย่างรวดเร็ว สาเหตุเพราะขาดแคลนประสบการณ์ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะใช้เวลาของคุณ และเรียนรู้ที่จะทำการซื้อขายอย่างเหมาะสมก่อน ก่อนที่คุณระเริ่มจัดสรรเงินทุนลงไป

คุณจำเป็นต้องสามารถที่จะซื้อขายโดยปราศจากอารมณ์ คุณไม่สามารถที่จะตามติดจุดหยุดขาดทุนทั้งหลาย ถ้าคุณไม่ได้มีความสามารถที่จะดำเนินการได้ตรงเวลา คุณต้องตั้งค่าจุดหยุดขาดทุนและจุทำกำไรเอาไว้เสมอ เพื่อที่จะดำเนินการได้อย่างอัตโนมัติ และต้องไม่ทำการเปลี่ยนแปลงพวกมัน ไม่อย่างนั้นคุณต้องทำแน่นอน ทำการตัดสินใจทั้งหลายและยึดมั่นมันไว้ ไม่อย่างนั้น คุณจะทำให้ตัวคุณเองและตัวกลางการซื้อขายคลุ้มคลั่งได้

คุณควรตระหนักว่า คุณจำเป็นต้องติดตามแนวโน้มต่าง ๆ ถ้าคุณทำการสวนแนวโน้ม คุณกำลังทำเป็นล้อเล่นกับเงินของคุณเอง เพราะตลาดการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มที่จะมีแนวโน้มบ่อย ๆ มากยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด และคุณจะมีโอกาสสูงขึ้นในการประสบความสำเร็จในการซื้อขายด้วยแนวโน้ม

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเนป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และทุก ๆ วัน ผู้คนก็ให้ความสนใจมันเพิ่มมากขึ้น แต่ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อขาย ให้แน่ใจว่าตัวกลางการซื้อขายของคุณมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดอย่างแน่นอน และใช้เวลาในการหากลยุทธ์การซื้อขายที่ใช้ได้ผลกับคุณ