Part 14 : ปรัชญา 3 ข้อในการเทรด

บทความนี้เคยถูกเผยแพร่ใน TraderFeed

ตลอดเวลาหลายปีมานี้ ผม Dr. Brett โชคดีมาก ที่มีโอกาสได้รับคำแนะนำ และได้รับองค์ความรู้ ความคิดดีๆ หลายอย่างเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ จากผู้เชี่ยวชาญที่คร่ำหวอดในวงการตลาดหลักทรัพย์หลายท่าน ซึ่งได้ให้หลักสำคัญ 3 ข้อ ที่ทำให้สามารถทำกำไรจากตลาดได้ทั้งสามทาง (upmarket, downmarket, และ side-way market)

ข้อแรก - มุ่งแสวงหาผลกำไรในแต่ละสัปดาห์ การเทรดแต่ละครั้งอาจจะขาดทุนบ้าง แต่ไม่ใช่สิ่งที่คุณควรใส่ใจนัก เพราะบางครั้งมันยังมีโอกาสไม่มากที่จะ มีโอกาสสามารถสร้างผลกำไรได้ในแต่ละวัน แต่นักลงทุนอาวุโสท่านหนึ่งบอกกับผมว่า สำหรับนักลงทุนที่มีความกระตือรือร้นแล้วนั้น ในสัปดาห์หนึ่งๆ มันยังคงจะมีโอกาสใหม่ๆ เข้ามามากพอที่เราจะใช้เป็นเป้าหมายในการแสวงหากำไรตอบแทนได้อยู่ดีนั่นแหละ แม้ว่าคุณจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในทุกๆ สัปดาห์ แต่การวางเป้าหมายเอาไว้นั้นช่วยให้คุณยังคงมุ่งมั่นที่จะทำตามแผนที่วางได้ ต่อไป ตัวอย่างเช่น คุณไม่อยากสูญเสียเงินจำนวนมากไปในวันหนึ่งๆ ขณะที่คุณเองก็ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนกลับคืนมาได้ในวันอื่นๆ คุณคงไม่อยากเสียเงินไปกับการซื้อขายหุ้นที่คุณไม่สามารถแสวงหากำไรจากมัน ได้แล้วในวันนั้น แล้วคุณก็จะไม่ยอมให้แต่ละวันมันผ่านพ้นไปง่ายๆ เพราะคุณจะพยายามสร้างกำไรให้ได้ในทุกๆ สัปดาห์ และเริ่มจัดการกับการเทรดแต่ละครั้งอย่างรอบคอบขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถควบคุมความเสียหายครั้งใหญ่ที่สุดที่อาจเกิดขึ้น โดยจะไม่ให้มันบานปลายเกินไปกว่าผลตอบแทนสูงสุดที่คุณคิดหรือกำหนดไว้ เวลาทำให้ผมเห็นสัญญาณของความก้าวหน้าที่จะเกิดกับเหล่านักลงทุนและเก็งกำไร พวกนั้น เพราะพวกเขารู้จักระมัดระวังและเลิกขุดหลุมฝังตัวเองเสียแล้ว

ข้อสอง - น้อมรับสิ่งที่ตลาดหุ้นให้กับคุณ
วันนี้ผมปิด short position ไปได้ หลังจากที่ต้องนั่งเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นแต่ละช่วงอย่างไม่คลาดสาย ตาในตอนบ่าย ผมรู้แล้วว่าการซื้อขายหุ้นที่ดุเดือดและเข้มข้นแบบนี้ก็ตอนก่อนที่พวกนักลง ทุนจะแห่กันกลับเข้ามาซื้อหุ้นที่ถูกเปิดชอร์ทขายไปนี่แหละ ก่อนหน้านี้ตอนที่ผมทำอยู่ที่ S&P ผมไม่ได้รับผลกำไรมากเท่ากับที่ผมได้จากตลาดหุ้น Nasdaq และ Russell แต่ตลาดหุ้นพวกนี้ไม่ได้สนหรอกนะว่าคุณจะได้กำไรซักแค่ไหร่ ผมนั้นเอาสิ่งที่ผมได้จากตลาดหุ้นเหล่านี้ มาเริ่มสร้างให้เกิดเป็นผลกำไรที่งอกงามขึ้น ถามว่าราคาหุ้นจะตกลงอีกหรือไม่หลังจากผมออกไปแล้ว? คือมันตกลงได้อีกแน่นอน ก็อย่างที่นักลงทุนท่านหนึ่งบอกผมไว้ ในทันทีที่ตลาดหุ้นให้ผลกำไรตอบแทนแก่คุณ คุณอาจจะอยากถอยทัพกลับ หรือไม่อีกทางก็มุ่งทำแสวงหาผลกำไรต่อไปหากว่าคุณคิดถึงผลตอบแทนระยะยาวกว่า นี้ แต่การที่คุณจะไปต่อ คุณก็อาจจะต้องล้มเหลวได้เช่นกัน นั่นหมายความว่า คุณซึ่งเคยได้กำไรมาก่อน ต้องมาล้มเหลว คุณพ่ายแพ้ถึงสองต่อเลยนะ

ข้อสาม - หมั่นใช้ตัวช่วยเพื่อแก้ไขสถานการณ์
ผู้ค้ากำไรจะสังเกตว่าการขายหุ้นต่างๆ นั้นมันดุเด็ดเผ็ดมันไม่หยุดยั้งได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาได้มองเห็นผลตอบแทนก้อน ใหญ่จากสมุดทะเบียนรอการซื้อขายหลักทรัพย์ คนเหล่านี้จะใช้ข้อมูลตัวช่วยที่พวกเขามีเป็นช่องทางหรือโอกาสอันดีในการขาย หุ้นในตลาด หากตัวหลักทรัพย์เอง หรือผู้ซื้อรายใหม่ๆ ได้รับผลกำไรตอบแทนจากการซื้อขายหุ้นนี้มากยิ่งขึ้น พวกเขาก็มักเลิกเล่นหุ้นเร็วขึ้น ลองคิดดูว่าหากคุณมีอะไรสักอย่างเพื่อช่วยการสร้างผลกำไรให้คุณ คุณก็จะสามารถดำเนินการซื้อขายต่อไปได้ แม้ว่าสถานการณที่เกิดขึ้นมันจะมีความยากเย็นแสนเข็ญหรือเสี่ยงขนาดไหนก็ตาม ตราบเท่าที่คุณยังสามารถใช้ตัวช่วยนี้ คุณก็จะยังคงสานต่อสิ่งที่คุณวางแผนเอาไว้ตั้งแต่แรกได้ต่อไป วันนี้ผมอาศัยการไร้เสถียรภาพของดัชนี Russell เพื่อจะดึงราคาหุ้นในตลาดให้ปรับตัวสูงขึ้นทำลายสถิติสูงสุดในรอบวันศุกร์ เมื่อเราซื้อหุ้นในตอนเช้า แต่ไม่สามารถทำลายสถิติสูงสุดในเช้านั้นได้แล้ว (รวมทั้งของเมื่อวันศุกร์ด้วย) ผมเลยเทขายหุ้นไปก่อนจนกว่าราคาซื้อหุ้นทะยานสูงขึ้น ผมจึงสามารถใช้แนวทางการซื้อขายหุ้นดีๆ แบบนี้ในช่วงเช้าที่สถานการณ์ในตลาดค่อนข้างจะเป็นไปอย่างลุ่มๆ ดอนๆ

ฉะนั้นแล้ว เราลองย้อนกลับมาทบทวนแนวทางการซื้อขายหลักทรัพย์อีกที
1. ก่อนที่คุณจะเสี่ยงลงเงินทุนอะไรไปก็ตาม ควรจะศึกษาหาข้อมูลให้พร้อมเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เสียก่อน
2. เมื่อใดก็ตามที่เห็นแล้วว่าแนวทางความคิดของคุณสร้างผลกำไรได้อย่างรวดเร็ว ตักตวงผลกำไรที่ได้นั้นเสีย
3. อย่าไปสนใจอยู่กับการซื้อขายหุ้นของผู้ลงทุนรายย่อย ให้มุ่งไปดูความสามารถหรือความเป็นไปได้ในการทำกำไรจากหุ้นรายกลุ่มและวัน เปิดตลาดซื้อขายในหลายวัน

ผมเองก็รู้นะว่าสิ่งที่ผมพูดไปมันอาจจะฟังดูธรรมดาและน่าขำ แต่ตอนนี้ผมสามารถมองในกระจกและบอกกับตัวเองว่า ผมได้ทำตามหลักการ 3 ข้อนี้มาโดยตลอดช่วงสองสามปีให้หลัง ถ้าจะให้เปรียบการซื้อขายหุ้นกับกีฬา คงเปรียบได้กับบาสเก็ตบอล ในเกมกีฬานั้น ลูกหรือตาที่ผู้เล่นสามารถชูทลงห่วงได้เท่านั้นนี่แหละ ถึงจะเป็นที่สนใจของทุกคน มันย่อมมีทั้งความเสี่ยงที่จะพ่ายแพ้ในเกม แต่หากคุณสามารถเอาชนะได้ นั่นก็หมายความถึงจำนวนเงินมหาศาลที่จะเข้ามา เช่นเดียวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ 

หากแต่การสร้างชัยชนะหรือผลกำไรตอบแทนได้นั้น ยังไม่ได้แปลว่าคุณจะประสบความสำเร็จหรือสามารถสร้างมันได้อีกในระยะยาว องค์กระกอบสำคัญที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จแท้จริงมันคือการวางแผนและจัดการกับ การซื้อขายหุ้นได้ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่ได้ให้ความสนใจอะไรนัก หากแต่เมื่อคุณสามารถบรรลุเป้าหมายที่คุณได้วางแผนและจัดการไว้ได้แล้วไซร้ นั่นก็หมายถึงการได้มาซึ่งความสำเร็จในสายอาชีพของคุณเช่นกัน

ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ