Elliott Wave คลื่นแห่งโอกาสและเพื่อนผู้เตือนเรา(พื้นฐาน)

สวัสดีครับกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในบทความนี้จะพูดถึงการอ่านคลื่นมหัศจรรย์ที่สามารถบอกจังหวะและเตือนเราว่า ช่วงนี้ช่วงนั้นตลาดหรือหุ้นที่เราสนใจหรือถืออยู่ควรถือต่อหรือควรออกหรือ ควรเข้าหรือไม่

และเคยรู้สึกไหมว่ารูปแบบต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นคลื่นวนเวียนกลับไปมาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า(สำหรับผู้ที่สังเกตุ) และเคยได้ยินไหมครับว่าประวัติศาตร์ซ้ำรอย(History Repeat Itself) ถึงแม้ว่าจะไม่ถูกต้อง 100% แต่เราสามารถใช้ทำนายอนาคตได้เช่นกัน และเหตุผลที่เกิดก็เพราะจิตวิทยาการ ซื้อ-ขาย เพราะเราซื้อขายจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันถึงแม้ว่า ณ ปัจจุบันจะเริ่มมีการนำ Robot มาใช้ในการ Trade แต่ยังเป็นส่วนน้อยอยู่

ดังนั้นพื้นฐานของ Elliott Wave จะมีความสำคัญและช่วยเราได้และจะมี 5 คลื่น 1 2 3 4 5 และ 3 คลื่น A,B,C




5 คลื่น 1 2 3 4 5 คือ Motive Phase


Wave 1 คือคลื่นที่เริ่มต้นมาจากการ breakout downtrend หรือ sideway เป็นการเริ่มต้นของคลื่นรอบใหม่ โดยปกติทาง Chartychology Trader จะไม่เข้าที่ wave นี้เพราะการที่ทำ breakout downtrend หรือ sideway ขึ้นมาได้เกิดจาก 3 ส่วนคือ

1.Accumulated Trader คือนักลงทุนระยะยาว(VI)
2.Position Trader หรือ Momentum Trader คือ นักลงทุนเก็งกำไรที่ทำให้มีแรง...ดันราคาขึ้นไปได้
3.Novice Trader คือ นักลงทุนมือใหม่หรือที่เขาเรียกว่าแมงเมา เอ้ย!!!! แมงเม่าครับ Novice Trader นี้จะซื้อขายตามอารมณ์ ตามข่าว ตามกระแส ฯลฯ

เพราะเมื่อไรที่ Novice Trader เข้าซื้อจนถึงจุดอิ่มตัวของช่วงนึงแล้ว Momentum Trader จะขายทำกำไรออกมาทำให้ราคาย่อตัวและทำให้ Novice Trader บางส่วนขายตาม

Wave 2 คือคลื่นที่ย่อลงมาจากคลื่นลูกแรกเพราะเกิดจากขายทำกำไรจากที่กล่าวมาข้าง ต้นและต่อจากนี้ไปจะเป็นเวลาของ Chartychology หรือ Swing Trader เข้าซื้อที่คลื่นนี้หรือที่เรียกคลื่นนี้ว่า First Pullback แต่การเข้าซื้อจะต้องดู Price Pattern ก่อนและต้องประกอบด้วย Support Area(สำหร้บ Long Position)

บทความเรื่อง Price Action ตาม link เพื่อทบทวน ตอน 1 2 3 4 5 6

Wave 3 คือคลื่นที่ยาวที่สุดและแข็งแรงที่สุดในบันดา 5 คลื่น คลื่นนี้จะเป็นที่น่าสนใจสำหรับทุก Traders และทาง Chartychology จะเกาะหรือขี่ไปกับคลื่นนี้ไปจนจบคลื่นเพราะจะเป็นช่วงที่จะทำกำไรได้ค่อน ข้างมาก StockMoneyGear รัก Wave 3!!!

Wave 4 คือคลื่นที่จะใกล้จบรอบของ Elliott Wave เป็นคลื่นที่ย่อลงมาจากคลื่นลูกที่ 3 เหตุผลโดยส่วนมาก(ในกรณีไม่มี bias จากภายนอกเช่น ข่าวร้าย นักลงทุน panic ฯลฯ)จากการที่นักลงทุนบางกลุ่มเข้าซื้อในช่วงปลายคลื่นลูกที่ 3 เลยขายทำกำไรออกมาก่อนเพราะรู้ว่าราคาใกล้จะจบรอบแล้ว

Wave 5 คือคลื่นลูกสุดท้ายคือการวิ่งขึ้นก่อนที่จะลงไปเป็นคลื่น A ถามว่าสามารถเข้าเก็งกำไรในคลื่นลูกได้ไหม ตอบว่าได้แต่จะต้องระวังตัวมากกว่าทุกๆคลื่น

3 คลื่น A B C คือ Corrective Phase

Wave A คือคลื่นที่ย่อจากคลื่นลูกที่ 5 ซึ่งจะจุดเริ่มต้นที่จะก่อเกิด downtrend

Wave B คือคลื่นที่เกิดการ rebound แต่จะไม่ทำ new high ที่คลื่นลูกที่ 5 ถ้าเกิดแบบนี้ให้เห็น ต้องระวังให้มากๆนะ เขากำลังเตือนท่านอยู่และเขาก็รักท่านนะไม่อยากให้ล้มเหลวหรือขาดทุน

Wave C คือคลื่นที่ยืนยันการเป็นขาลงหรือจบรอบ Elliott Wave อย่างสมบูรณ์ในช่วงนั้นๆ พอถึงคลื่นนี้ให้เฝ้าดูและรออย่างอดทนเพื่อหาโอกาสในครั้งต่อไปคร้าบบบบ



ตัวอย่างคร้าบ



สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นเป็นพื้นฐานของเรื่อง Elliott Wave ง่ายแต่ทรงพลังมากๆนะครับ ถ้าเป็นทษฎี Elliott Wave ขั้น Advance จริงๆนั้นมีรายละเอียดมากกว่านี้ ถ้ามีความสนใจสามารถค้นหาอ่านตาม Internet ได้มากมายเพื่อต่อยอดจากบทความนี้

สรุปสิ่งที่กล่าวมา คลื่นที่ทำให้เราประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ Wave 3 ส่วนคลื่นที่หวังดีกับเรามากที่สุดคือ Wave B ส่วนคลื่นที่น่ากลัวที่สุดคือ Wave C

คำถามคือ...คุณจะเลือกข้างไหน?

ยิ่งอ่าน            ยิ่งเก่ง
ยิ่งฝึก             ยิ่งเก่ง
ยิ่งเมตตา        ยิ่งเป็นที่รัก
ยิ่งสร้าง          ยิ่งรู้จัก
ยิ่งให้             ยิ่งได้

by StockMoneyGear

ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ