อียูคาดการณ์อัตราว่างงานลด

รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจล่าสุดจากสหภาพยุโรป ประเมินว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคจะช่วยให้อัตราว่างงานลดลงเร็วกว่าเดิมที่คาดไว้ ขณะเดียวกันเตือนความเสี่ยงใหม่จากวิกฤตการณ์ในยูเครน

    ในรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจประจำช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2557 คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า การฟื้นของเศรษฐกิจกำลังแผ่ขยายไปทั่วทั้ง 28 ประเทศสมาชิก และน่าจะช่วยให้จำนวนคนว่างงานลดลงจาก 25.7 ล้านคนได้รวดเร็วขึ้น โดยรายงานระบุว่า ในกลุ่มประเทศสมาชิกยูโรโซน 18 ประเทศ คาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงเหลือ 11.8% ในปีนี้ และ 11.4% ในปีหน้า เป็นตัวเลขคาดการณ์ที่ลดลงจากเดิมที่ประเมินไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ว่าการว่างงานในยูโรโซนจะอยู่ที่ 12% ในปีนี้ และ 11.7% ในปี 2558
    อย่างไรก็ดี อียูคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะไม่สร้างแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อในยูโรโซน โดยเวลานี้ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในภูมิภาคดังกล่าวลงจาก 1% เป็น 0.8% ในปี 2557 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อย่างมาก
    เงินเฟ้อในยูโรโซนปรับตัวลดลงอย่างมาในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราว่างงานในระดับสูง การลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐ และภาวะสินเชื่อที่ตึงตัว ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์หลายรายออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืด ซึ่งจะยิ่งสร้างความเสียหายต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
    นายมาร์โค บูตี ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจของคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวเตือนว่า ภาวะเงินเฟ้อต่ำมากทั่วทั้งอียูยิ่งทำให้ประเทศในยูโรโซนที่มีความอ่อนแอพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันและลดภาระหนี้สินลงได้ยากขึ้น
    "แม้ว่าในระยะสั้น เงินเฟ้อต่ำจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของจีดีพีด้วยการเพิ่มรายได้ที่สามารถนำมาใช้จ่ายได้อย่างแท้จริง แต่ภาวะเงินเฟ้อต่ำนานเกินไปจะเพิ่มมูลค่าหนี้ของทั้งภาครัฐและเอกชน และอาจจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น" คณะกรรมาธิการยุโรประบุในรายงาน อย่างไรก็ดี ยังมองว่าความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืดมีต่ำมาก
    อีซีบีมีกำหนดประชุมในวันพฤหัสบดี (8 พฤษภาคม) แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าอีซีบีจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือประกาศมาตรการเพิ่มเติม เช่น การซื้อพันธบัตรมูลค่ามหาศาล หรือ QE เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อ แม้ว่านายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี จะกล่าวเมื่อเดือนก่อนว่า อีซีบีมีการพูดคุยกันถึงโอกาสการประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบที่ไม่เคยใช้มาก่อน ซึ่งรวมถึงมาตรการ QE ด้วยก็ตาม
    อียูคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยูโรโซนจะเติบโต 1.2% ในปีนี้ และ 1.7% ในปีหน้า หลังจากหดตัวมา 2 ปีติดต่อกัน โดยเฉพาะสเปนที่คาดว่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งถึง 2.1% ในปี 2558 ขณะที่ทั่วทั้งอียูคาดว่าจะเติบโตได้ 1.6% ในปีนี้ และ 2% ในปีหน้า จากการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของอังกฤษ
    อย่างไรก็ดี ในรายงานเตือนถึงปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นใหม่ คือ วิกฤติในยูเครน ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจรัสเซีย แต่ขณะเดียวกันจะมีผลทางอ้อมต่อยุโรป โดยเฉพาะประเทศที่มีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจใกล้ชิดกับรัสเซีย อาทิ ไซปรัส และฟินแลนด์

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,946 วันที่ 8 - 10  พฤษภาคม พ.ศ. 2557