หลาย ๆ คนที่เข้ามาเทรดได้สักระยะหนึ่งแล้วก็เริ่มจะตามหาสูตรสำเร็จหรือวิธีการที่จะประสบความสำเร็จไว ๆ และอีกวิธีหนึ่งที่เป็นที่นิยมกันมากคือ การเทรดตามซิก หรือก็คือการที่จะมีคนคอยวิเคราะห์ให้ว่าวันนี้ราคาน่าจะเป็นไปในทิศทางไหน หลาย ๆ คนเทรดตามซิกจนเคยตัวและมักจะมีความเชื่อว่า คนที่แจกซิกนั้นจะต้องถูกเสมอวิเคราะห์ได้แม่นยำเป๊ะ ๆ ผิดพลาดไม่ได้
โดยที่เขาลืมมองไปว่าคนที่แจกซิกให้กับพวกเขานั้นก็มีเพียงโน๊ตบุ๊คตัวหนึ่งที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอเนตได้และอาศัยยู่ในประเทศเดียวกับเรา ไม่ได้เป็นคนในหรือมือขวาประธาน Fed ใด ๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่เขาทำได้ก็ไม่ต่างจากที่เราทำนั่นก็คือการวิเคราะห์และมองถึงความเป็นไปได้ว่าราคาควรจะเป็นไปในทิศทางไหนที่สุด ย้ำนะครับ! ว่าแค่ “ความเป็นไปได้”
แต่เมื่อคุณเชื่อและเทรดตามซิกที่เขาให้มา วันดีคืนดีคุณดันลง lot หนักเกินกว่าที่พอร์ตของคุณจะรับไหวและราคาก็ดันวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับซิกจึงทำให้คุณล้างพอร์ตแต่สิ่งที่คุณโทษกลับไม่ใช่ตัวคุณเองแต่กลับโทษคนให้ซิกหรืออย่างอื่นที่พรากเงินจากพอร์ตคุณไป
โดยที่เขาลืมมองไปว่าคนที่แจกซิกให้กับพวกเขานั้นก็มีเพียงโน๊ตบุ๊คตัวหนึ่งที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอเนตได้และอาศัยยู่ในประเทศเดียวกับเรา ไม่ได้เป็นคนในหรือมือขวาประธาน Fed ใด ๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่เขาทำได้ก็ไม่ต่างจากที่เราทำนั่นก็คือการวิเคราะห์และมองถึงความเป็นไปได้ว่าราคาควรจะเป็นไปในทิศทางไหนที่สุด ย้ำนะครับ! ว่าแค่ “ความเป็นไปได้”
แต่เมื่อคุณเชื่อและเทรดตามซิกที่เขาให้มา วันดีคืนดีคุณดันลง lot หนักเกินกว่าที่พอร์ตของคุณจะรับไหวและราคาก็ดันวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับซิกจึงทำให้คุณล้างพอร์ตแต่สิ่งที่คุณโทษกลับไม่ใช่ตัวคุณเองแต่กลับโทษคนให้ซิกหรืออย่างอื่นที่พรากเงินจากพอร์ตคุณไป
เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มักคิดว่าตนเองมักทำอะไรถูกต้องอยู่เสมอ ไม่ค่อยทำอะไรผิดพลาด การคิดว่าตนเองถูกต้องเสมอนั้นเป็นกลไกป้องกันตนเองอย่างหนึ่งของมนุษย์ มีนักลงทุนจำนวนมากพยายามเสาะหาว่า นักลงทุนคนอื่นๆเทรดอะไรในช่วงนั้น และมักจะเล่นตามโดยไม่ได้ศีกษากราฟตัวนั้นให้ดีก่อน โดยคิดว่าเมื่อเมื่อฉันเทรดแล้วราคาจะต้องวิ่งไปในทางที่ฉันคิด แต่เมื่อเข้าออเดอร์แล้ว กราฟกลับไม่เป็นไปตามที่คิด มักทำอะไรไม่ถูก และพยายามปัดความรับผิดชอบออกจากตัว โดยโทษนักลงทุนคนอื่นๆ หรือคนที่แจกซิกเป็นคนรับความผิดนั้นไป แต่ในความเป็นจริงเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความผิดพลาดจากการลงทุนทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นจาก ”ตัวเราเอง” ทั้งสิ้น ไม่มีใครมาบังคับให้เราเทรด เราตัดสินใจเข้าออเดอร์ด้วยตัวเอง เมื่อไม่เป็นไปตามที่คิด เรามักโทษคนอื่นว่าซิกไม่แม่น วิเคราะห์ไม่ได้เรื่องจึงทำให้เราขาดทุน
นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่มีใครไม่เคยขาดทุนมาก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเหล่านั้นแตกต่างจากคนอื่นๆคือเรื่องของจิตวิทยาการลงทุน นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักยอมรับว่า “ความผิดพลาดจากการลงทุนที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากตนเอง” แทนที่จะโยนความผิดที่เกิดขึ้นให้กับคนอื่น เมื่อนักลงทุนคิดว่าตนเองนั้นผิดพลาด สิ่งที่เกิดขึ้นคือการเพิ่มประสบการณ์ในการลงทุนและปรับปรุงวิธีการลงทุนให้ รอบคอบยิ่งขึ้นสำหรับการลงทุนครั้งต่อไปในอนาคต ถ้านักลงทุนมักแต่โทษคนอื่นๆ ไม่คิดว่าเป็นความผิดพลาดของตนเอง นักลงทุนเหล่านั้นมักไม่ปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงวิธีการลงทุนของตนให้ดีขึ้น และมักทำอะไรผิดพลาดเช่นเดิมอีกในอนาคต
การยอมรับความผิดพลาดนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ฝืนความรู้สึกของมนุษย์อยู่มากพอสมควรทีเดียว เพราะกลไกป้องกันตนเองในการไม่ยอมรับความผิดนั้นถูกฝังรากลึกในจิตใจของเรา ตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อเป็นเด็กถ้าเราทำผิด เรามักจะถูกทำโทษ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่โรงเรียน ดังนั้นหนทางเดียวที่จะไม่ถูกทำโทษก็คือการไม่ยอมรับความผิด โดยการโยนความผิดให้กับสิ่งอื่นๆแทน เพื่อที่เราจะรอดพ้นจากการถูกทำโทษได้จากประสบการณ์ต่างๆในวัยเด็ก ทำให้เราปฏิบัติเช่นนั้นมาโดยไม่รู้ตัว รวมถึงวิธีการลงทุนด้วยเช่นเดียวกัน
ดังนั้น ถ้าเราทำผิดพลาดในการเทรดตามคนอื่นๆแล้วขาดทุนขึ้นมา แทนที่จะโทษคนอื่นๆว่าทำให้เราขาดทุน นักลงทุนควรยอมรับความจริงว่าเป็นเพราะตัวเราเองที่ไม่ได้ศึกษากราฟตัวนั้นดีพอ รวมทั้งจะต้องปรับปรุงวิธีการหรือหลักการการลงทุนของเราให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น