แนวรับและแนวต้าน


มาทำความรู้จักกับ แนวรับและแนวต้าน
      
      แนวรับ(Support) คือ จุดที่เป็นจุดกลับตัวของกราฟ แล้วราคาได้ลงมาทดสอบอีกครั้ง เราจะใช้จุดนั้นเป็นแนวรับ ถ้าราคาลงมาทดสอบจุดนั้นแล้วไม่สามารถผ่านลงไปได้ แนวรับนั้นจะกลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง (Strong Support) โดยราคาจะลงมาทดสอบอย่างน้อย 2 ครั้ง (Double Bottom) หรือ 3 ครั้ง (Triple Bottom)  ถ้าราคาไม่สามารถผ่านแนวรับเหล่านี้ได้ มันก็จะกลับตัวขึ้นไปอีกครั้ง
      
แนวรับมีอยู่ 2 แบบ คือ

1.แนวรับหลัก (Major Support )
2.แนวรับรอง  (Minor Support)

      แนวรับหลัก (Major Support)จะเป็นจุดกลับตัวของกราฟ จากแนวโน้มขาลงกลายเป็นขาขึ้น ส่วนแนวรับรอง(Minor Support) จะเป็นจุดสูงสุดหรือ ต่ำสุดของกราฟ ที่เกิดการสวิงของราคา
      
ภาพตัวอย่างแนวรับ

      
      
         
      
      แนวต้าน (Resistance) คือ จุดที่เป็นจุดกลับตัวของกราฟแล้วราคากลับขึ้นไปทดสอบอีกครั้ง ถ้าราคาทดสอบจุดที่เป็นแนวต้านแล้วไม่ผ่านสามารถผ่านได้ จุดนั้นจะกลายเป็น แนวต้านที่แข็งแกร็ง (Strong Resistance) โดยที่ราคาจะไปทดสอบ 2 ครั้ง ( Double Top ) หรือ 3 ครั้ง (Triple Top )
       แนวต้านก็แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ Major Resistance และ Minor Resistance
      
      ภาพตัวอย่าง แนวต้าน Resistance
      
      

         
      
      ต่อไปเรามาดูกันครับ ว่าเราจะสามารถหาแนวรับแนวต้านได้จากอะไรบ้าง ผมจะแบ่งออกเป็น  4 ประเภทนะครับ


      1. การหาแนวรับ-แนวต้าน จาก จุดสูงสุด High และ จุดต่ำสุด Low เก่าๆจุดกลับตัวของกราฟ 
      ดูจากรูปกันเลยครับ 
      

         
      
ดูแนวรับแนวต้านของEUR จากราคาปัจจุบันกันเลยครับ      

         
      
 จะสังเกตว่า จุดกลับตัว และจุดสูงสุด และต่ำสุดของกราฟในอดีตสามารถใช้เป็นแนวรับและแนวต้านได้
      
      

         
      
      2.หาแนวรับแนวต้านจากการคำนวณ


      เราจะใช้ราคาปิด (Close) ราคาสูงสุด (High) และ ราคาต่ำสุด (Low) ของเมื่อวานมาคำนวณครับ
      

โดยเอาเม้าไปชี้ที่แท่งเทียน Daily ครับ ดังรูป
      

         
      
      เมื่อได้ค่าแล้วก็นำมาใส่สูตรดังนี้ครับ C=Close H=High L=Low

      P=Pivot  
      S=Support
      R=Resistance
      Calculate
      P=(H+L+C)/3
      

นำ P มาคำนวนหา แนวรับและแนวต้าน

      Support แนวรับ

      S1=P-0.382(H-L)
      S2=P-0.500(H-L)
      S3=P-0.618(H-L)
      
      Resistance แนวต้าน

      R1=P+0.382(H-L)
      R2=P+0.500(H-L)
      R3=P+0.618(H-L)
      
     

 ตัวอย่างการคำนวน แนวรับแนวต้านของอียู กราฟวันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม 2553     
 จากกราฟราคาของวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน 2553  ราคาต่ำสุด L=1.3559 ราคาสูงสุด H= 1.3683 ราคาปิด C=1.3633

      P  = (1.3683+1.3559+1.3633)/3 = 1.3625  , H-L=0.0124


      S1=1.3625-0.382(0.0124)=1.3577
      S2=1.3625-0.500(0.0124)=1.3563
      S3=1.3625-0.618(0.0124)=1.3548
      
      R1=1.3625+0.382(0.0124)=1.3672
      R2=1.3625+0.500(0.0124)=1.3687
      R3=1.3625+0.618(0.0124)=1.3701
      
      เมื่อได้ค่าแล้วก็จดบันทึกไว้ หรือเอาไปติดไว้บนกราฟก็ได้ โดยใช้เครื่องมือ Horizontal Line ใส่ราคาลงไป จะได้ดังรูป
      

         
      
แต่ไม่ต้องคำนวณให้ยุ่งยากหรอกครับ ลองโหลด Indicator เกี่ยวกับ แนวรับและแนวต้านเอาไปใช้กันนะครับ DownLoad Support and Resistance Indicators
      
      

 อีกหนึ่งวิธีคือ  ใช้เว็บคำนวนครับ

      http://www.pivotpointcalculator.com/
      
      Actionforex เป็นเว็บที่ให้ความรู้ได้ดีครับ ผมศึกษาวิธีการวิเคราะห์กราฟ ลากเทรนไลน์จาก บทวิเคราะห์ของ Actionforex
      
      3. หาแนวรับ-แนวต้านจาก Fibonacci 
      

หาแนวรับแนวต้านจาก Fibonacci Retrace 

การหาแนวรับ จาก Fibonacci Retracement   ก่อนอื่นเลยเราต้องใช้ Fibonacci วัดจาก Low ไปหา
      
      High ของคลื่นปัจจุบัน แล้วหาแนวรับจากระดับการปรับฐานของ Fibonacci ที่ ระดับ 78.6 61.8 50.0  38.2 23.6 และ 0 % ดังรูป
      

         
      
      และแนวต้านที่อยู่เหนือระดับ Fibonacci 100 % แนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 138.2, 161.8 ,261.8,และ 423.6 % ดังรูปด้านล่าง
      

         
      
              หาแนวต้านจาก Fibonacci Retracement โดยการวัดขาลง
      
      

         
      
      

             
  •             หาแนวรับแนวต้านจาก Fibonacci Fan 
  •       
      Fibonacci Fan  วัดได้สองแบบคือ 1. วัดขาขึ้น Bullish โดยทั่วไป หุ้นมีขึ้นมันก็ต้องมีลง เมื่อราคาขึ้นไปสูงสุด ก็ต้องลงมาปรับฐาน ตำแหน่งที่มันจะปรับฐานก็คือตำแหน่งของ Fibonacci 61.8-38.2 %
      

ดูรูปด้านล่างนะครับ
      
      ตัวอย่างการใช้ Fibonacci Fan วัดหาราคาแนวรับ(ราคาปรับฐาน)ของราคาขาขึ้น
      
      
         
      
วิธีการวัด ใช้เอา Fibonacci Fan ไปที่จุด Low แล้วลากไปไว้ที่ High
      

      ตัวอย่างใช้ Fibonacci Fan เพื่อหาแนวต้านของราคาขาลง (ราคาปรับฐาน)
      
         
      
      Fibonacci Fan เปรียบเสมือนเส้นแนวโน้ม แต่เป็นเส้นแนวโน้มที่ระดับต่างๆของ Fibonacci
      
      4. การหาแนวรับแนวต้าน โดยใช้ Trendline


      เทรนไลน์ เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้หาแนวรับแนวต้านได้ดีทีเดียว โดยแนวต้านที่ได้จากการลากเทรนไลน์ เราจะเรียกว่า Resistance Trendline และแนวรับที่ได้จากการลากเทรนไลน์เราจะเรียกว่า Support Trendline
      
      การหาแนวรับจาก Support Trendline
      การหาแนวรับจาก Trendline เราจะวัดจากจุดต่ำสุดเก่า เทียบกับจุดกับต่ำสุด ณ ปัจจุบัน
      
ตัวอย่างการลากเทรนไลน์เพื่อหา Support Trendline (แนวรับ )      
      
         
      
      
      ตัวอย่างการหาแนวต้านจากการลากเทรนไลน์ (Resistance Trendline)
      

         
      
      ลองฝึกการลากเทรนไลน์นะครับ แล้ว เพื่อนๆจะรู้ว่า แค่เทรนไลน์ก็สามารถทำให้เราเทรดได้ ทำให้เรารู้ว่า จุดกลับตัวอยู่ตรงไหน แนวรับแนวต้านอยู่ตรงไหน ลองศึกษาจากเว็บต่างประเทศ หรือจาก Youtube ก็ได้นะครับ Keyword : Trendline
      



ความรู้เพิ่มเติ่ม

ศึกษาระบบแนวรับแนวต้านได้ที่นี่คลิ๊ก     
เลือกแนวรับแนวต้านอย่างไรดี?



ความคิดเห็น

เรื่องราวที่น่าสนใจ